โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กังวลศึกชายแดน ดัชนีเชื่อมั่นลดลง ฟุ้งเก็บภาษีคริปโต

ไทยโพสต์

อัพเดต 29 สิงหาคม 2568 เวลา 7.08 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"คลัง" เผยเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค.68 ยังรับอานิสงส์ส่งออกโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ส่วนลงทุน-ท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มแผ่ว ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอ โอดเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า-ค่าครองชีพสูง กังวลความขัดแย้งชายแดน "จุลพันธ์" ฟุ้งเซ็นร่างกฎกระทรวงเว้นภาษี Capital Gains ยาว 5 ปี โวไทยประเทศแรกที่มี กม.ภาษีคริปโตเคอร์เรนซี คาดระยะกลางจัดเก็บรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท หนุนผู้ประกอบการเติบโตบนเวทีโลก

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค.2568 ว่า ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมอยู่ที่ 2.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง น้ำตาลทราย และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขณะที่การส่งออกยางพารา ข้าว และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับตัวลดลง โดยตลาดคู่ค้าหลักของไทยอย่างสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สอดคล้องกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือน ก.ค.2568 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 51.7 จากระดับ 52.7 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพรวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่นเดียวกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -4.3%

นายสมชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องจักร เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัญญาณชะลอตัวลงด้วย โดยในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 2.61 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -15.9% ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 21.8 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -0.5%

“จำเป็นต้องติดตามทิศทางการส่งออกสินค้าครึ่งปีหลัง และการผลิตอุตสาหกรรม ภายหลังมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค. 2568 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป” นายพรชัยระบุ

ขณะที่ ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ก.ค.2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 7.8% ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ยางพารา ข้าวโพด และผลผลิตในหมวดไม้ผล เป็นต้น ส่วนภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 86.6 จากระดับ 87.7 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยกดดันจากความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน ปัญหาอุทกภัยในภาคเหนือ และกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.9 จากระดับ 51.7 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น

"สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ค.2568 อยู่ที่ -0.70% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.84% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.2568 อยู่ที่ 64.2% ต่อจีดีพี ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ก.ค.2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 261.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ" นายสมชัยกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า ได้ลงนามในร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนหุ้น (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2568 และได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้เหลือเพียงการลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเท่านั้น

โดยร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เป็นการกำหนดมาตรการเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้กระทำผ่านผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่ว่าจะผ่านศูนย์ซื้อขาย (Exchange) นายหน้า (Broker) หรือผู้ค้า (Dealer) เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2572

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่มีกฎหมายภาษีในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจน อีกทั้งมาตรการนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยเติบโตมากยิ่งขึ้นด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการนี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวผ่านการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยคาดว่าจะทำให้รัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในระยะกลางไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะถูกนำกลับมาใช้พัฒนาประเทศเพื่อคนไทยทุกคน

“ผมเชื่อมั่นว่านี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการไทยด้านสินทรัพย์ดิจิทัลได้เติบโตบนเวทีโลก” นายจุลพันธ์ระบุ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ถ้ารอดก็เหมือนเดิม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘อลงกตการละคร’?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขู่แก๊งอลงกตนำทรัพย์สินคืน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คล้องของขลัง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

ทหารไทย เปิดดู! ในมือถือทหารเขมร ที่เก็บได้ พบหลักฐานหลายอย่าง

BRIGHTTV.CO.TH
วิดีโอ

เพลิงไหม้! รามอินทรา 99 แยก 2 ควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

สวพ.FM91

นักเรียน ม.4 ซิ่งบิ๊กไบก์ แซงมาหลายคัน ก่อนพุ่งชนท้ายรถสิบล้อจอดข้างทาง อาการสาหัส

Khaosod

ผบ.ตร.สั่งการด่วน! นครบาลดำเนินคดีเด็ดขาด บ่อน "นวย ดอนเมือง” กางคำสั่งเก่า จี้ “จเร” สอบเอาผิด “ผกก. – ผบช.”

Manager Online

หลงเชื่อเพจเฟซบุ๊ก! รวบ 7 คนไทยไร้รายได้-หนีหนี้ ลอบข้ามแดนไปทำงานกัมพูชา

เดลินิวส์

“หยาดทิพย์” อวยพรวันเกิดลูกสาว “น้องเมย่า” 4 ขวบ บอก “รักที่สุดในโลกเจ้ามะเขือเทศ”

tvpoolonline.com

สภาพอากาศวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย.เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้ฝนเพิ่ม ฝนตกหนักบางแห่ง

ฐานเศรษฐกิจ

สมปอง เปิดเอง ยืมเงินทิดจอร์จ 13 ล้าน คืนแล้ว 5.5 ล้าน – ป.ป.ท. ชี้จุดเสี่ยง จะโดนด้วยไหม ? (คลิป)

BRIGHTTV.CO.TH

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...