รวบโจ๋ส่ง SMS ปลอม แนบลิงค์ดูดเงินเหยื่อ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 11 สิงหาคม 2568 เวลา 1.52 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 10 ส.ค. – ตำรวจไซเบอร์ รวบ 2 วัยรุ่น รับจ้างนายทุนจีน ตระเวนใช้เครื่องจำลองสถานีฐาน (FBS) ส่ง SMS ปลอมแนบลิงก์หลอกเหยื่อ หวังดูดเงินจากบัญชี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลปฏิบัติการ “Operation Pinklao” จับกุมนายนิรันดร์ อายุ 20 ปี และนายกิตติวรา อายุ 21 ปี พร้อมเครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) หรือ FBS และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ภายหลังตระเวนใช้เครื่อง FBS ส่ง SMS ปลอมเป็นชื่อหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้ข้อความที่อ้างคะแนนจะหมดอายุ เพื่อล่อลวงให้ประชาชนคลิกลิงก์แลกรางวัล หวังดูดเงินจากบัญชี
ก่อนหน้านี้ทาง AIS ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับ SMS ปลอมแนบลิงก์น่าสงสัย คาดว่ามาจากมิจฉาชีพ จึงประสานข้อมูลมายังตำรวจไซเบอร์ และเริ่มทำการสืบสวนพร้อมนํากําลังลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับทีมวิศวกรจาก AIS เพื่อค้นหาคนร้าย โดยเฉพาะบนถนนเส้นหลักและย่านชุมชน กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จึงติดตามจับกุมได้ภายในปั๊มนํ้ามันแห่งหนึ่ง บนถนนสิรินธร เขตบางพลัด กทม.
จากการสอบสวน นายนิรันดร์ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายทุนชาวจีนผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ให้ขับรถตระเวนส่ง SMS โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินวันละ 2,500 บาท โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนยอมรับว่าก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง เบื้องต้นตํารวจแจ้งดําเนิน 6 ข้อหาความผิดคือ “ร่วมกัน ทํา มีใช้ นําเข้า นําออก หรือค้าเครื่องส่งสัญญาณ, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันดักสัญญาณ และร่วมกันทําผิดฐานอั้งยี่ฯ”
ด้านผู้จัดการงานองค์กรสัมพันธ์ AIS กล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับส่งสัญญาณเพื่อส่ง SMS ปลอมให้กับเหยื่อ โดยมีมือถือเป็นสื่อกลางในการสั่งการ สามารถกระจายสัญญาณในรัศมีประมาณ 1-2 กิโลเมตร สามารถส่ง SMS ปลอมได้วันละกว่า 20,000 ข้อความ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทาง AIS หรือหน่วยงานอื่นๆ ปัจจุบันไม่มีนโยบายในการส่งลิงก์ให้ผู้ใช้บริการทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว และไม่มีการโทรศัพท์ตรงไปหาตัวลูกค้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ AIS ไม่นิ่งนอนใจ ยังคงร่วมมือกับตํารวจไซเบอร์ในการปราบปรามมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย