โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

อึ้ง! สาวป่วยเป็นโรค “เรอไม่ออก” กว่า 10 ปี จนต้องฉีดโบท็อกซ์แก้อาการ

เดลินิวส์

อัพเดต 23 สิงหาคม 2568 เวลา 2.22 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดเผยประสบการณ์ระหว่างตกอยู่ใน “ภาวะเรอไม่ออก” มาเป็นเวลานานกว่าสิบปี จนกระทั่งเจอวิธีรักษาในที่สุด

อิซาเบล ไซด์เนอร์ หญิงสาววัย 23 ปี เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกายตัวเองตั้งแต่อายุ 9-10 ขวบ เมื่อเธอเป็นหวัด เธอจะมีน้ำลายมากผิดปกติและมีเสียงขลุกขลักอยู่ในคอคล้ายเสียงร้องของกบหรือคางคก เธอยังสังเกตเห็นว่า บางทีเสียงนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อเธอกินอาหารบางอย่าง หรือแม้กระทั่งเวลาที่เธอจูบใครสักคน จนในที่สุด มันก็กลายเป็นเสียงที่เกิดขึ้นจนเป็นปกติในชีวิตประจำวันจองเธอ

นอกจากนี้เธอยังมีอาการท้องอืด แสบร้อนกลางอก และอาเจียนระหว่างที่เกิดเสียงประหลาดในลำคอ

คนใกล้ชิดต่างบอกว่าอาการของเธอเป็นแค่กรดไหลย้อนธรรมดา แต่ความจริงแล้ว ไซด์เนอร์เป็นโรคที่ชื่อว่า Retrograde Cricopharyngeus Dysfunction (R-CPD) หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า "ภาวะเรอไม่ออก" เนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณส่วนบนของหลอดอาหารไม่คลายตัว ทำให้ลมไม่สามารถผ่านหลอดอาหารออกมาได้

ไซด์เนอร์เคยเข้ารับการส่องกล้องและตรวจการทำงานของระบบทางเดินอาหารตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ผลตรวจกลับออกมาเป็นปกติ จนกระทั่งเธอถูกส่งตัวไปพบ ดร. เซธ แคปแลน ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก และผู้อำนวยการศูนย์ความผิดปกติของเสียงและการกลืนของโรงพยาบาลนอร์ทเวลล์เฮลท์ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ดร. แคปแลนได้ถามเธอด้วยคำถามสำคัญ 4 ข้อเพื่อระบุในเบื้องต้นว่าเธอป่วยเป็นโรคเรอไม่ออกหรือไม่ ได้แก่ เธอเคยเรอออกมาได้หรือไม่? มีอาการท้องอืดมากขึ้นหรือเปล่า? ผายลมบ่อยขึ้นหรือไม่? และมีอาการแน่นหน้าอกส่วนบนและลำคอ หรือมีเสียงกลั้วคอหรือไม่?

หลังจากตอบคำถามเหล่านี้ ดร. แคปแลนก็ยืนยันกับไซด์เนอร์ว่า เธอป่วยเป็นโรค R-CPD อย่างแน่นอน

ไซด์เนอร์ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้รับการรักษาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อหูรูดคริโคฟาริงเจียลเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัว ทำให้ลมที่สะสมอยู่ข้างในสามารถระบายออกมาได้

ดร.แคปแลนอธิบายว่า "กล้ามเนื้อหูรูดคริโคฟาริงเจียลทำหน้าที่เป็นวาล์วซึ่งจะคลายตัวเพื่อให้ของเหลวและอาหารผ่านลงไปในหลอดอาหาร และให้ลมระบายออกมาระหว่างการเรอ" เขากล่าว "นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้อาหารไหลย้อนกลับเข้ามาในลำคอ"

ดร. แคปแลนเผยว่า ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค R-CPD หรือที่เรียกว่า “ภาวะเรอไม่ออก” กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น

ด้านไซด์เนอร์เองก็ได้โพสต์เรื่องราวของเธอก่อนเข้ารับการรักษาลงใน “ติ๊กต็อก” ซึ่งมียอดเข้าชมถึง 19.9 ล้านครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแสดงตัวว่ามีอาการคล้ายคลึงกันเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ ทางดร. แคปแลนก็กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีปัจจัยทางพันธุกรรมหรือพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ "ปัจจัยที่อาจเป็นไปได้ ได้แก่ ปัญหาระบบประสาท ภาวะกรดไหลย้อนและการทำงานของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น เนื่องจากเรายังไม่เข้าใจพยาธิสรีรวิทยาเบื้องหลังโรคอย่างถ่องแท้"

อาการที่เด่นชัดของโรคนี้ ได้แก่ การไม่สามารถเรอได้, มีเสียงกลั้วคอหรือเสียงครืดคราดในลำคอ, ท้องอืด, แน่นหน้าอก และบางครั้งก็ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวด

โรค R-CPD จะไม่ค่อยหายได้เองและหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยเรื้อรัง หลอดอาหารโป่งพอง หรือแม้แต่หลอดอาหารทะลุในกรณีที่รุนแรง

การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดคริโคฟาริงเจียลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา แต่ดร. แคปแลนมองว่าไม่จำเป็นต้องทำหัตถการนี้เสมอไป เนื่องจากเขาประสบความสำเร็จอย่างสูงถึง 90% ในการรักษาโรคเรอไม่ออกด้วยการฉีดโบท็อกซ์เพียงครั้งเดียว และรักษาได้เกือบ 100% หากจำต้องฉีดโบท็อกซ์ครั้งที่ 2

หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว สารนี้จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคืออาการเจ็บคอเล็กน้อยประมาณ 2-3 วัน ผู้ป่วยบางรายอาจเรอมากผิดปกติหรือไม่สามารถควบคุมการเรอได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังการฉีด และหากผู้ป่วยมีภาวะกรดไหลย้อนอยู่แล้ว อาการอาจแย่ลงชั่วคราวในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกเช่นกัน ซึ่งในบางกรณีอาจจำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ซ้ำ

หลังจากรับการรักษาแล้ว ผู้ป่วยสามารถดื่มเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีการอัดแก๊สได้ภายใน 5-7 วัน

หลังจากรับการรักษาได้ 2 สัปดาห์ ไซด์เนอร์ก็โพสต์คลิปวิดีโอที่เธอเรอออกมายาวๆ ลงบนติ๊กต็อก พร้อมข้อความกำกับว่า “รู้สึกเยี่ยมมาก”

“ตอนนี้ถ้าฉันดื่มน้ำโซดาหรือน้ำอัดลม ก็รู้สึกดีขึ้นมาก อาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อยลดลง” อิซาเบลกล่าว “มันช่วยชีวิตฉันไว้จริงๆ”

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ระทึก! เขาใหญ่เร่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย หลังเผชิญเหตุการณ์น้ำป่า ‘น้ำตกโกรกอีดก’

36 นาทีที่แล้ว

ตำรวจนครนายก บุกตรวจค้นบ้าน ยึดปืน-กระสุนจำนวนมาก

37 นาทีที่แล้ว

อยู่ยากแล้ว! “อโมริม” ย้ำ “โอนานา” ฟิตตั้งแต่วีกก่อนแต่ไม่ให้เล่นเอง

39 นาทีที่แล้ว

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ให้ ‘บุญสงค์’ พ้นปลัดแรงงาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

รัสเซียชี้ส่ง ‘กองกำลังต่างชาติ’ ประจำการยูเครนเป็นสิ่งที่ ‘ยอมรับไม่ได้’

Xinhua

จีนมีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเกือบ 20 ล้านรายในช่วงแผนพัฒนาฯ 5 ปี ฉบับที่ 14

Xinhua

รัฐสภาอินเดียผ่านร่างกฎหมายแบน ‘เกมออนไลน์’ เกี่ยวกับเงิน

Xinhua

เนทันยาฮูลุยถก “ปล่อยตัวประกัน” รมต.ยิวขู่กาซ่าซิตีย่อยยับ-ถ้าฮามาสไม่คืนเชลย

Khaosod

รัสเซียตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน ‘ยานยนต์ไร้คนขับ’ แตะ 50% ในปี 2050

Xinhua

หมอยังทึ่ง! ชายวัย 40 เลิกกิน 2 สิ่ง และสร้าง 1 นิสัยใหม่ ลดน้ำหนักสำเร็จ 16 กก.

sanook.com

ชายดับสยอง หลังกินปลาปักเป้า หัวใจหยุดเต้น 8 นาที พิษแรงกว่าไซยาไนด์พันเท่า

Thaiger

‘กษัตริย์กัมพูชา’ เสด็จเยือนจีน ก.ย. นี้ พร้อม ‘ฮุน มาเนต’ ตั้ง ‘ฮุน เซน’ สำเร็จราชการ

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘ดัง-พันกร’ มั่นใจได้มีสามีแน่ หลัง ‘อาร์เซนอล’ เสริมทัพสุดแกร่ง จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

เดลินิวส์

คุณยายชาวจีนพลัดหลงครอบครัว-สื่อสารไม่รู้เรื่อง สุดท้ายตามเจอเพราะเบาะแสจาก ‘กำไลข้อมือ’

เดลินิวส์

‘พอลล่า’ เผยความคูล ‘เจนี่’ ลุคใหม่ ฮอตจนมีคนจีบเพียบ ไม่ติดถ้าจะจับจิ้นกับ ‘พลอย เฌอมาลย์’!

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...