อียิปต์กู้คืน "รูปปั้นโบราณ" สามชิ้นใหญ่จากใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
สำนักข่าวซินหัวรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.68) กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ประกาศการกู้คืนโบราณวัตถุขนาดใหญ่จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บริเวณนอกชายฝั่งอ่าวอาบูคีร์ในเขตผู้ว่าการอเล็กซานเดรีย จำนวน 3 ชิ้น ได้แก่ รูปปั้นสฟิงซ์หินควอร์ตไซต์ขนาดใหญ่ที่สลักตราประจำรัชกาลของกษัตริย์รามเสสที่ 2 (1279-1213 ปีก่อนคริสต์ศักราช) รูปปั้นหินแกรนิตของบุคคลไม่ทราบชื่อจากปลายยุคปโตเลมี (332-30 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งคอและเข่าหักเสียหาย และรูปปั้นหินอ่อนสีขาวของขุนนางชาวโรมัน
โมฮัมเหม็ด อิสมาอิล คาลิด เลขาธิการสภาโบราณวัตถุสูงสุดของอียิปต์ กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่านี่เป็นการกู้คืนโบราณวัตถุขนาดใหญ่จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนครั้งแรกในรอบ 25 ปี ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของโครงการระดับชาติเพื่อพัฒนาอ่าวอาบูคีร์ โดยทีมตรวจสอบใต้น้ำยังค้นพบโครงสร้างแบบคงที่และแบบเคลื่อนที่ได้ที่จมอยู่ใต้น้ำมานานหลายศตวรรษเพราะการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาหรือแผ่นดินไหว
การสำรวจและขุดค้นใต้น้ำในบริเวณดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อเปิดเผยความลับของอ่าวอาบูคีร์เพิ่มเติม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดระหว่างการสำรวจก่อนหน้านี้ในพื้นที่ทางตะวันตกของอ่าวอาบูคีร์ ซึ่งยืนยันว่าเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคโรมัน มีทั้งอาคาร วิหาร อ่างเก็บน้ำ ฟาร์มปลา และท่าเรือโบราณ บ่งชี้การขยายพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองคาโนปัสอันเลื่องชื่อ ซึ่งเคยถูกค้นพบทางตะวันออกของพื้นที่มาก่อน
กระทรวงฯ ระบุว่าเมืองคาโนปัสที่จมอยู่ใต้น้ำมีชื่อเสียงจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอุทิศให้กับเทพโอซิริสและเซราพิส โดยเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงจากการเฉลิมฉลองอย่างอลังการในสมัยโรมันอีกด้วย