"น้ำตกเลือด" ทำไมเป็นสีแดง-มีรสเค็มจัด นักวิทย์ฯ ใช้เวลาเกิน 100 ปี กว่าจะไขปริศนานี้ได้!
เผยความจริง "น้ำตกเลือด" ที่มาของน้ำสีแดง นักวิทย์ฯ ใช้เวลาเกิน 100 ปี ถึงไขปริศนานี้ได้!
นักวิทย์เผยความจริง “Blood Falls” กลางแอนตาร์กติกา ไม่ใช่เลือด แต่คือปรากฏการณ์สุดลึกลับ ไขลึกถึงปริศนาใต้ธารน้ำแข็ง!
ถ้าคุณได้เห็นภาพของน้ำตกสีแดงสดไหลออกจากผืนธารน้ำแข็งสีขาวโพลนในแอนตาร์กติกา คุณอาจจะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ หรือมีบางสิ่งลี้ลับซ่อนอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง… แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เลือด และไม่มีสิ่งมีชีวิตถูกทำร้าย ที่จริงแล้ว “น้ำตกเลือด” หรือ Blood Falls คือหนึ่งในความลับทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกลับที่สุดของโลกใบนี้ ซึ่งเพิ่งได้รับการไขกระจ่างเมื่อไม่นานมานี้เอง
ย้อนรอยการค้นพบ “น้ำตกเลือด” ที่น่าทึ่ง
“น้ำตกเลือด” ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1911 โดยนักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ Thomas Griffith Taylor ระหว่างการสำรวจในหุบเขา McMurdo ทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกา โดยเขาสังเกตเห็นว่าน้ำที่ไหลจากปลายธารน้ำแข็ง Taylor นั้นมีสีแดงสดอย่างน่าประหลาด ราวกับเลือดที่ไหลออกจากผิวโลก
แม้ตอนแรกจะมีการคาดเดาว่าอาจเกิดจากตะไคร่น้ำหรือสาหร่ายสีแดง แต่นักวิทยาศาสตร์ในยุคนั้นยังไม่มีเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงพอที่จะศึกษาให้ชัดเจน ทำให้ปริศนานี้ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีคำตอบนานกว่าศตวรรษ
คำตอบที่รอคอยมานาน 100 ปี
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย ได้เปิดเผยคำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับที่มาของ “น้ำตกเลือด” โดยพวกเขาพบว่า น้ำสีแดงดังกล่าวมาจากเครือข่ายของน้ำเค็มใต้ดินที่ไหลอยู่ลึกกว่า 400 เมตรใต้ธารน้ำแข็ง Taylor
น้ำใต้ดินนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุเหล็ก และเมื่อมันซึมขึ้นมาสู่ผิวโลกและสัมผัสกับออกซิเจน จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (เหมือนสนิมเหล็ก) ทำให้เกิดสีแดงเข้มคล้ายเลือด
ทำไมน้ำถึงไม่แข็งตัวทั้งที่อยู่ในแอนตาร์กติกา?
แม้ว่าอุณหภูมิในพื้นที่นี้จะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของน้ำจืดมาก แต่น้ำใต้ดินของน้ำตกเลือดกลับยังคงอยู่ในสภาพของเหลวได้ เพราะมันมีความเค็มสูงกว่าน้ำทะเลถึง 2-3 เท่า ซึ่งทำให้จุดเยือกแข็งของมันต่ำกว่าน้ำปกติ
นอกจากนี้ เมื่อน้ำเค็มบางส่วนเริ่มแข็งตัว มันจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมา (เรียกว่า latent heat) ซึ่งช่วยให้บริเวณโดยรอบยังคงมีน้ำเหลวไหลออกมาได้อย่างช้า ๆ
มีสิ่งมีชีวิตใน “น้ำตกเลือด” จริงหรือ?
เรื่องน่าทึ่งกว่านั้นคือ การค้นพบว่ามีแบคทีเรียชนิดพิเศษที่สามารถอยู่รอดในน้ำเค็มจัด อุณหภูมิต่ำ และไม่มีแสงแดดมานานนับล้านปี! แบคทีเรียเหล่านี้ใช้กระบวนการเคมีที่ไม่พึ่งแสงแดดเพื่อผลิตพลังงาน และอาศัยการรีไซเคิลธาตุเหล็กและกำมะถันเป็นแหล่งอาหาร
นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของชีวิตในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอาจให้เบาะแสเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์อื่น เช่น ดาวอังคาร หรือดวงจันทร์ Europa ของดาวพฤหัสบดี
“น้ำตกเลือด” ไม่ได้แค่สวย แต่ซ่อนจักรวาลทั้งใบ
จากการค้นพบของ Thomas Taylor เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว มาสู่การศึกษาเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ “น้ำตกเลือด” ได้กลายเป็นห้องทดลองธรรมชาติกลางน้ำแข็งที่ยังคงมีอะไรให้มนุษย์ค้นหาอีกมากมาย
แม้น้ำจะไหลช้า แต่ความรู้จากที่นี่กำลังไหลเข้าสู่ความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับโลกของเรา และบางที…อาจรวมถึงโลกอื่นด้วย