กลุ่มประชาสังคมฯ บุกทำเนียบ จี้นายกฯ เร่งคดีเหมืองทองคำ พร้อมร้องสอบ สุริยะ ปมอนุญาตประทานบัตร
กลุ่มประชาสังคมฯ บุกทำเนียบ จี้นายกฯ เร่งคดีเหมืองทองคำ พร้อมร้องสอบ สุริยะ ปมอนุญาตประทานบัตร
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี รับเรื่องร้องเรียนแทนจากกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ จาก 5 จังหวัด คือจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ลพบุรี และสระบุรี ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการทำเหมืองแร่ทอง และการเตรียมดำเนินการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ นำโดยนางอารมย์ คำจริง ขอให้กำกับดูแลและเร่งบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย เอาผิดกับบริษัทเหมืองทองคำ และตรวจสอบการอนุญาตประทานบัตรและอาชญาบัตรพิเศษ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ 400,000 ไร่
โดยนางอารมย์ คำจริง ระบุว่า ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเกิดสงคราม เกิดความไม่สงบ แต่สิทธิในที่ดินของประชาชนกลับถูกปล้นด้วยกฎหมายป่าไม้ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำหมุดกรมป่าไม้เข้าปักในที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นที่ดินอยู่อาศัยทำกินของประชาชนเป็นจำนวนมากแล้ว ทั้งที่มีกฎหมาย ส.ป.ก. เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.โดยชอบ ชาวบ้านกำลังถูกปล้นสิทธิ
และดำเนินการทั้งในเรื่องของการเร่งเอาผิดกับบริษัทเหมืองทองคำที่ยังไม่คืบหน้า จากการที่เคยมีการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของประชาชน ซึ่งผลการตรวจสอบทำให้พบว่า บริษัทอัคราฯ ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยฝ่าฝืนไม่เป็นไปตามกฎหมายในประเทศไทยหลายกรณี นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาในคดีสำคัญ เช่น คดีนอมินีถือหุ้นแทนคนต่างชาติ คดีบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และยังมีอีกหลายคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดียังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว นอกจากนี้ ยังเคยตรวจสอบพบว่าบริษัทอัคราฯ ขุดทำเหมืองทองคำในถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1301 และทางสาธารณประโยชน์กว่า 13 เส้นโดยไม่ได้ขอประทานบัตร
นางอารมย์กล่าวว่า คดีดังกล่าวถูกถ่วงดึงทำให้ล่าช้ามาจนถึงขณะนี้ ทั้งที่เป็นคดีที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับประเทศไทย ในขณะนั้นก็ยังตรวจสอบพบว่าบ่อเก็บกักกากแร่มีการรั่วไหล ส่งผลให้มีการปนเปื้อนโดยรอบพื้นที่การทำเหมืองแร่ทองคำ เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ซึ่งต้องดำเนินการเพิกถอนประทานบัตร และต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง แต่จนถึงขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลับยังไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อเอาผิดกับบริษัทอัคราฯ ให้ครบถ้วนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
และที่สำคัญขอให้ตรวจสอบการอนุญาตประทานบัตรและอาชญาบัตรพิเศษ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ 400,000 ไร่ ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ขณะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อ พ.ศ.2563 ซึ่งมีผลให้ต้องประกาศเขตแหล่งแร่ และต้องเปิดประมูลแข่งขันตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 โดยเคร่งครัด และไม่มีบทบัญญัติใดงดเว้นให้ไม่ต้องมีการประกาศเขตแหล่งแร่ และไม่ต้องเปิดประมูลแข่งขันได้แต่อย่างใด แต่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กลับละเว้นไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และยังเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวยังเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
จึงขอให้นายกรัฐมนตรีเพิกถอนบรรดาคำขอฯ และเพิกถอนอาชญาบัตรพิเศษที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เร่งรีบตั้งกรรมการตรวจสอบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ ในเรื่องดังกล่าวนี้โดยด่วนที่สุด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กลุ่มประชาสังคมฯ บุกทำเนียบ จี้นายกฯ เร่งคดีเหมืองทองคำ พร้อมร้องสอบ สุริยะ ปมอนุญาตประทานบัตร
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th