End Game “เพื่อไทย-ชินวัตร” จาก “จุดอับ”สู่ “จุดจบ”?!?
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญจ่อวินิจฉัยฟัน “แพทองธาร” และรักษาการนายกฯ ไร้อำนาจยุบสภา พรรคเพื่อไทยจึงถูกผลักสู่จุดอับ หมากยื้อเวลาเพื่อรีเซ็ตเกมอาจพังทั้งกระดาน
ในห้วงเวลาที่กระแสต้านพุ่งสูง และศรัทธาจากสังคมกำลังไหลออกอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลภายใต้การนำของ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” กำลังเดินเข้าสู่สิ่งที่หลายฝ่ายเรียกว่า “ช่วง End Game”
เดิมทีวิเคราะห์กันว่า พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าจะ ยื้อเกมการเมืองให้ได้ถึงสิ้นปี 2568 จากนั้นจึงจะ ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ในปี 2569
หวังใช้เวลา “รีเซ็ตกระดาน” และฟื้นกระแสความนิยมให้พรรคอีกครั้ง
แต่สถานการณ์จริงกลับเร่งเครื่องตรงข้าม เมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มวินิจฉัยกรณีจริยธรรมของแพทองธารในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้
และที่สำคัญคือ… ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยุบสภา
สิ่งที่เคยเป็นหมาก “ชิงจังหวะ” อาจกลายเป็น “จุดจบ” โดยไม่ทันตั้งหลัก
⚖️ จุดอับทางกฎหมาย: ยื้อไม่ได้ ยุบไม่ทัน
สาระสำคัญในสถานการณ์นี้คือ แม้พรรคเพื่อไทยยังถือเสียงข้างมากในสภา แต่ “อำนาจยุบสภา” ผูกอยู่กับตัวนายกรัฐมนตรีโดยตร งตามการตีความของนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา“รักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจยุบสภา เพราะไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารโดยตรง”
หากศาลมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธารพ้นจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือถาวร รัฐบาลจะเข้าสู่โหมด “รักษาการ” ทันที และนั่นหมายถึงไม่สามารถเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาได้
แผน “ยื้อ-ยุบ-รีเซ็ต” พังทันที — เหลือเพียงเกมที่อำนาจตกค้างแต่ไร้ทิศทาง
🔥 จุดอับทางการเมือง: พรรคร่วม-มวลชน-ความชอบธรรม
แม้พรรคเพื่อไทยจะพยายามตรึงพันธมิตรในรัฐบาล
แต่กระแสความไม่พอใจที่ถาโถมในสังคม เริ่มส่งผลให้ พรรคร่วมบางพรรคเริ่มแสดงอาการลังเล
ในเวลาเดียวกัน กระแสในโซเชียล และการชุมนุมภาคประชาชนส่อเค้าขยายวงกว้าง
พร้อมกับประโยคที่เริ่มปรากฏตามเวทีปราศรัยว่า
“นี่ไม่ใช่การยื้อเพื่อบ้านเมือง แต่คือการยื้อเพื่อเก้าอี้”
ขณะที่มีเสียงร่ำลือว่าฝ่ายค้านเริ่มขยับแนวรบ เตรียมรวมเสียงกับสมาชิกวุฒิสภาและกลุ่ม “งูเห่า” เพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีใหม่
จุดอับ ที่เคยคิดว่ายื้อได้ อาจกำลังแปรเปลี่ยนเป็น แรงบีบจากทุกด้าน
🧨 จุดอับทางสังคม: “ความไว้วางใจ” ที่หายไป
ในระบบรัฐสภาแบบ Westminster อำนาจของนายกรัฐมนตรีตั้งอยู่บนหลัก “ความไว้วางใจจากสภา”
แต่ในทางปฏิบัติของการเมืองไทย ความไว้วางใจจากประชาชนกลับกลายเป็นปัจจัยที่แรงกว่า
ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า คะแนนนิยมของนางสาวแพทองธาร และพรรคเพื่อไทย กำลังร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
การเพิกเฉยต่อเสียงประชาชน การไม่ลาออกแม้มีข้อสงสัยเรื่องจริยธรรม ล้วนเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำว่า พรรคเพื่อไทย อาจสูญเสียทุนทางสังคมไปโดยไม่รู้ตัว
📉 จุดจบที่อาจใกล้กว่าที่คิด?
เมื่อไม่มีอำนาจยุบสภา
เมื่อเสียงในสภาเริ่มไม่มั่นคง
เมื่อคะแนนนิยมลดฮวบ
และเมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใกล้เข้ามา
พรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร จึงกำลังเผชิญกับ End Game ที่ อาจไม่ได้เขียนบทจบเอง
สิ่งที่รออยู่ตรงหน้า อาจไม่ใช่ “การรีเซ็ตเพื่อเริ่มใหม่”
แต่เป็น “ฉากสุดท้าย” ของอำนาจที่เคยแน่นหนา…
กลับจบลงด้วยการเสียทุกอย่างในคราวเดียว
🎯 สรุป: จากจุดอับ…สู่จุดจบ?
End Game ของพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร กำลังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดให้นางสาวแพทองธารพ้นจากตำแหน่ง
และถ้าไม่มีแผนสำรองที่รัดกุมทันเวลา
เกมทั้งหมดที่วางไว้ อาจกลายเป็นเพียงภาพในกระดานที่ไม่มีโอกาสได้เล่น
จุดอับในวันนี้…อาจกลายเป็นจุดจบในวันพรุ่งนี้
และคำว่า “มันจบแล้วครับนาย” อาจกลายเป็นคำที่หลอนยิ่งกว่าวลีเดิมที่เคยเจ็บในอดีต
#รีเซ็ตเกมพัง #การเมืองไทย #วิเคราะห์การเมือง #มันจบแล้วครับพรรค #จุดอับทางการเมือง