‘ศิริกัญญา’ ชี้หากไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯไม่ได้ เตรียมเจอวิกฤติเศรษฐกิจ
จากกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้อัปเดตความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐ โดยสรุปคือการเจรยังไม่สำเร็จ ยังปิดดีลไม่ได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า จะกลับมาปรับเงื่อนไขให้เกิดความชัดเจน พร้อมย้ำจะทำให้ได้ข้อตกลง win win ทั้งสองฝ่าย
ทีมข่าวสำนักข่าววันนิวส์ ได้ไปสอบถามกับนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่าเราต้องให้ความเป็นธรรม กับการไปเจรจาของทีมไทยแลนด์ในรอบแรก แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม เพราะหลายๆประเทศก็ไม่ได้บรรลุข้อตกลงในการไปคุยรอบแรกเช่นกัน
แต่สิ่งที่ผิดปกติของประเทศไทย คือเราเริ่มดำเนินการช้ากว่าประเทศอื่นๆ บางประเทศเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน หรือพฤษภาคม ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า มีการพูดคุยกับสหรัฐไปแล้วในหลายระดับแบบไม่เป็นทางการ แต่สิ่งที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาบอก ว่ายังไม่สามารถปิดดีลได้ เท่ากับว่า สิ่งที่ไทยได้พูดคุยหรือนำเสนอไปก่อนหน้านี้ มันไม่ตอบโจทย์กับสิ่งที่สหรัฐต้องการ ซึ่งตอนนี้เหมือนกับว่าเราต้องมาเริ่มนับ 1 ใหม่ และระยะเวลาที่สหรัฐได้กำหนด ก็เหลือเพียงไม่กี่วัน ทำให้แต้มต่อของเราเริ่มลดน้อยลงไป
ถ้าหากเราไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐได้ก่อนจะครบกำหนด เราอาจจะโดนเก็บภาษีตามที่ประธานาธิบดีของสหรัฐกำหนดมาให้ทันที โดยไม่ต้องรอว่าการเจรจาจะเป็นอย่างไร ความตั้งใจทั้งหมดก็อาจจะสูญเปล่า
เมื่อถามว่าไทยต้องเอาอะไรไปนำเสนอ เพื่อให้สหรัฐยอมรับ แล้วเกิดการ Win Win ทั้งสองฝ่าย คุณไหมบอกว่า ตอนนี้ทางเวียดนามจะถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐ และขณะเดียวกันเวียดนามจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าของสินค้าสหรัฐทั้งหมด ซึ่งทางประเทศไทย ก็ไม่สามารถรับข้อเสนอนี้ได้ เพราะจะเกิดผลกระทบเยอะ
ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่าตัวเลือกของประเทศไทย ที่จะเอาไปเสนอสหรัฐเริ่มน้อยลงไปทุกทีๆ ความจริงแล้วนายพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ควรที่จะกลับมา น่าจะอยู่เพื่อโอกาสที่จะไปคุยกับสหรัฐอีกซักครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะถึงเส้นตาย
เมื่อถามว่าการพูดคุยกันในครั้งหน้า จะบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่ คุณไหมมองว่า มีความไม่แน่นอนสูงมาก มีความเป็นไปได้ในหลายรูปแบบ สหรัฐอาจจะขยับเส้นตายออกไป หรือไทยในสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศออกมาว่าไทยโดนเก็บภาษี 36 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เราต้องรอความชัดเจนจากทางสหรัฐอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม สงครามทางการค้าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยแน่นอน เชื่อว่าปี 69 การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย หรือ GDP จะเติบโตได้ไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์แน่นอน
ในระหว่างที่ยังไม่รู้ว่า การเจรจาของไทยกับสหรัฐจะออกมาเป็นยังไง สิ่งที่เราพยายามเรียกร้องในตอนนี้ก็คือ อย่างน้อยๆรัฐบาลก็ต้องแจ้งกับผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เช่น ผู้ประกอบ หรือเกษตรกร ว่าตอนนี้รัฐบาลได้เตรียมมาตรการอะไรเอาไว้บ้าง ในการไปพูดคุยเจรจา แล้วถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาอย่างไรบ้าง และตอนนี้ทราบว่ามีการเตรียมเงินไว้เยียวยาผู้ส่งออก ที่จะได้รับผลกระทบ เพียง 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
และถ้าประเทศไทยถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสูง 36 เปอร์เซ็นต์จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ เศรษฐกิจ และการส่งออกจะเข้าขั้นวิกฤติ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการส่งออกอาจจะปิดตัวลง แรงงานถูกเลิกจ้าง GDP ของประเทศถดถอย
หากเราบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐไม่ได้ แน่นอนว่าประเทศไทยจะต้องเสียผลประโยชน์ เสียเปรียบประเทศอื่นๆ แต่เรื่องนี้เรายังคงต้องฝากความหวังไว้กับทีมไทยแลนด์ ให้ปฏิบัติภารกิจนี้ไปได้ลุล่วง เป็นเวลาที่ต้องใช้กำลังใจกัน เพราะเราไม่อยากเห็นเศรษฐกิจของประเทศไทยแย่ลงกว่าเดิม เพราะที่เป็นอยู่มันก็แย่มากพออยู่แล้ว อย่าให้การเจรจาที่ผิดพลาด นำมาสู่สงครามการค้าจากสหรัฐ เข้ามาซ้ำเติมประเทศไทยอีกเลย