ภูมิใจไทยงัดคลิปในอดีต ตอบกลับ ‘ทักษิณ’ ใครกันแน่สนิทแนบแน่น ‘ผู้นำกัมพูชา’ การันตีเป็นพรรคเพื่อคนไทย ไม่ใช่เพื่อเขมร

วันนี้ (22 กรกฎาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 16.00 น. แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย และ สส. จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย ภราดร ปริศนานันทกุล สส. จังหวัดอ่างทอง ไชยชนก ชิดชอบ สส. จังหวัดบุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และ ชลัฐ รัชกิจประการ แถลงข่าวภายหลังการประชุมพรรคภูมิใจไทย

แนน แถลงถึงประเด็นที่อดีตท่านผู้นำท่านหนึ่งพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากปมปัญหาความขัดแย้งของไทยและกัมพูชา โดยใช้คำว่าอดีตพรรคร่วมรัฐบาลขายชาติ ไม่รู้ว่าตกลงเป็นเขมรหรือไทย

แนน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้มีการแถลงตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาที่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากปมคลิปเสียง การปฏิบัติตนของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และได้ออกมาเรียกร้องตั้งแต่วันนั้น ให้แสดงความรับผิดชอบที่ทำให้ประเทศไทยเสียเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ และพรรคภูมิใจไทยไม่เคยแสดงพฤติกรรมเพื่อประโยชน์ของต่างชาติดังเช่นการกระทำของนายกรัฐมนตรีที่ถูกนำมาเปิดเผย

แนน กล่าวย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยกล่าวประณามนายกรัฐมนตรีว่าขายชาติ ซึ่งมีประชาชน คณะบุคคล และองค์กรอิสระ ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อขอให้วินิจฉัยการกระทำของนายกฯ พรรคภูมิใจไทยได้เรียกร้องแสดงความรับผิดชอบโดยใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎร และจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ได้ชะลอไว้ก่อนเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

ในประเด็นที่มีการกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงผู้ที่กล่าวพาดพิงให้ได้ทราบโดยทั่วกันว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองไทยเพื่อคนไทย ไม่ใช่พรรคเพื่อกัมพูชาหรือเพื่อเขมร และไม่มีผู้บริหารพรรคคนใดให้ความสนิทใกล้ชิดฉันเครือญาติกับผู้นำรัฐบาลกัมพูชา ดังเช่นที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและครอบครัวพรรคเพื่อไทย มีภาพปรากฎต่อหน้าสื่อตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา

ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคเพื่อเขมรนั้น บุณย์ธิดากล่าวย้ำว่าไม่เป็นความจริง และพรรคภูมิใจไทยทำเพื่อคนไทย ประชาชนเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครที่เป็นผู้สนิทชิดเชื้อกับผู้นำกัมพูชา

พร้อมทั้งเปิดคลิปวีดีโอที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ร้องเพลงขอบคุณผู้นำกัมพูชา ‘สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน’ ซึ่งปรากฎ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ร่วมอยู่บนเวทีด้วย ซึ่งเป็นคลิปที่เผยแพร่ต่อสาธารณชนมาร่วมสิบปีแล้ว

ขณะที่ ไชยชนก ชิดชอบ ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ให้ดูจากการกระทำ เช่น กรณีที่ว่าไทยเป็นเขมร ไชยชนกได้ฝากคำถามว่า ในบ้านของเรามีห้องนอนของเพื่อนสนิท คนสนิท ไว้ในบ้านของเราเองหรือไม่ และต้องสนิทกันเบอร์ไหนถึงเป็นแบบนั้น ดังนั้น ในการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคทุกพรรค จึงอยากให้ดูว่ามีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่หรือไม่ และเลือกที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องไหนก่อนในเวลาที่ประเทศเผชิญกับวิกฤตรอบด้าน