สวิตเซอร์แลนด์เร่งเจรจาภาษีกับสหรัฐอีกครั้ง แต่ย้ำข้อเสนอที่ให้ไป “มากพอแล้ว”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่า ประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซุตเทอร์ ผู้นำสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.การคลังด้วย กล่าวว่า รัฐบาล "ผิดหวัง" กับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กำหนดอัตราภาษีต่างตอบแทนกับสวิตเซอร์แลนด์สูงถึง 39% และจะเดินหน้าเจรจาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสวิตเซอร์แลนด์ย้ำว่า ข้อเสนอที่จะให้กับสหรัฐได้นั้น "จำกัด" เนื่องจากสินค้าของสหรัฐได้รับการเข้าถึงตลาดเสรีของประเทศอยู่แล้วถึง 99.3% ขณะเดียวกัน บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งของสวิตเซอร์แลนด์ ล้วนลงทุนโดยตรงในสหรัฐอยู่แล้ว "จึงเป็นเรื่องยาก" ที่สวิตเซอร์แลนด์จะประนีประนอมได้มากกว่านี้
ขณะที่สื่อท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เดิมทีรัฐบาลคาดหวังอัตราภาษีสุดท้ายอยู่ที่ 10% ส่วนผลิตภัณฑ์ยาของประเทศ ซึ่งส่งออกไปยังสหรัฐสูงถึง 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) เมื่อปี 2567 "ยังไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก"
ด้าน "สวิสเมม" ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนอุตสาหกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมไฟฟ้าของสวิตเซอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐอย่างหนักว่า การกำหนดอัตราภาษีที่เกิดขึ้น "ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล และเป็นไปตามอำเภอใจเท่านั้น" พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า ตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตราในประเทศจะได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวออกแถงการณ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีต่างตอบแทนสำหรับสวิตเซอร์แลนด์ ว่าเป็นเพราะสวิตเซอร์แลนด์ปฏิเสธยกเลิกอุปสรรคทางการค้า และ "สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยและมีรายได้สูงที่สุดในโลก ไม่ควรคาดหวังให้สหรัฐยอมรับความสัมพันธ์ทางการค้าแบบไม่เท่าเทียมได้".
เครดิตภาพ : AFP