โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วม 4 องค์กรแจงความคืบหน้าคดี MORE ฟ้องผู้กระทำผิด 42 รายอายัดทรัพย์ 4.5 พันลบ.

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) แถลงความคืบหน้าสำคัญในการดำเนินการคดีหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE และการยกระดับการทำงานร่วมกันเพื่อตลาดทุนไทย

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ได้มีการแถลงความคืบหน้าสำคัญคดีหลักทรัพย์ MORE และการยกระดับการทำงานร่วมกัน เพื่อตลาดทุนไทย” โดย นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ กล่าวว่า คดีหุ้น MORE ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของการกระทำความผิดในตลาดทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ในวงกว้าง ซึ่งการดำเนินการกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันสะท้อนให้เห็นว่า การบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานภาคตลาดทุนมีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน

สำหรับคดีหุ้น MORE นอกเหนือจากการดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการกระทำความผิด การรวบรวมพยานหลักฐาน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งช่วยทำหน้าที่สื่อสารความคืบหน้าทางคดีให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนและผู้ลงทุนได้รับทราบ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย

“สำหรับการป้องกันการกระทำผิดลักษณะเช่นนี้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ยกระดับมาตรการกำกับดูแลด้วยการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ อาทิ มาตรการ Auto Pause รายหลักทรัพย์ มาตรการ Minimum Resting Time การเปิดเผยข้อมูลหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลผู้ลงทุนที่ส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมแก่บริษัทหลักทรัพย์สมาชิกทุกราย เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถใช้ประกอบการบริหารความเสี่ยงและร่วมกันป้องปรามพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที” นายอัสสเดช กล่าวเสริม

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า ASCO เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่สำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลให้กับบริษัทหลักทรัพย์สมาชิกที่ได้รับความเสียหาย ตั้งแต่ช่วงเริ่มเกิดเหตุการณ์ของการกระทำความผิด จนสามารถรวบรวมหลักฐานในการร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ASCO ได้นำเสนอมาตรการต่าง ๆ ต่อหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อปิดความเสี่ยงไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกในอนาคต และ

ที่สำคัญ คือ การจัดตั้ง Securities Data Exchange Platform (SDEP) เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์รับทราบข้อมูลลูกค้าที่มีความเสี่ยงในระดับอุตสาหกรรม ทั้งข้อมูลวงเงิน คุณภาพหลักประกัน มูลหนี้ และประวัติการชำระราคา ด้วยการจัดตั้ง Platform การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ Decentralized คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 1 ก.พ. 2569

พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กล่าวว่า คดีหุ้น MORE เป็นคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน ผู้กระทำความผิดมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับตลาดหุ้นและใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวช่วยในการกระทำความผิด ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจำนวนมาก บช.ก.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานในสังกัดและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ ก.ล.ต. ปปง. และ DSI เพื่อเร่งรัดดำเนินการระงับยับยั้ง ความเสียหาย จนสามารถดำเนินคดีและมีความเห็นสั่งฟ้องผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 42 ราย ถือเป็นคดีปั่นหุ้นที่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้จำนวนมากที่สุดและสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้สูงถึง 4,500 ล้านบาท ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทำให้สามารถยับยั้งการกระทำความผิดและดำเนินคดีได้อย่างทันท่วงที

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ความสำเร็จจากการประสานความร่วมมือข้ามหน่วยงาน (inter-agency cooperation model) ในการดำเนินคดีหุ้น MORE อันนำไปสู่การป้องกันความเสียหายและติดตามทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถระงับธุรกรรมต้องสงสัยได้ภายในวันเดียว ลดเวลาดำเนินการจากเดิมที่ใช้เวลา 2-3 วัน ส่งผลให้สามารถตัดวงจรอาชญากรรม ยับยั้งการกระทำผิดทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยด้วยความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเป็นระบบ สำหรับคดีหุ้น MORE ศาลมีคำสั่งคืนหรือชดใช้ทรัพย์สินให้บริษัทหลักทรัพย์ผู้เสียหาย 10 ราย รวมมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการข้อมูลและอำนาจหน้าที่ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดทุนไทยมีความน่าเชื่อถือและมั่นคงมากขึ้นในระยะยาว

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า คดีหุ้น MORE เป็นพัฒนาการของอาชญากรรมทางเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้กระทำผิดอาศัยความรู้ ความชำนาญ เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ อยู่ในแวดวงนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ รู้ขั้นตอนวิธีการซื้อขาย ชำนาญจนมองเห็นช่องโอกาสที่จะทุจริตได้ ความสำเร็จของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน ยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ระงับยับยั้งความเสียหายของบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 บริษัท รวมความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท ที่จะต้องชำระให้กับผู้ขายหลักทรัพย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยใช้มาตรการทางแพ่งของกฎหมายฟอกเงิน ในการร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินและนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย และยังมีการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายฟอกเงิน เท่ากับผู้กระทำผิดไม่ได้ทรัพย์สินตามที่ตั้งใจไว้และยังอาจจะต้องรับโทษในทางอาญาในสถานหนักด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

เมืองไทยประกันชีวิต สานต่อโครงการ “เมืองไทยมอบทุนน้องน้อย” ครั้งที่ 36

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘พิชัย’ เดินหน้าเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ กำหนดโควตานำเข้า-รายละเอียดถิ่นกำเนิดสินค้า เอกชนมั่นใจ 19% สู้คู่แข่งได้

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช สั่งปลด นายกอบต. หลัง ป.ป.ช. สืบพบมูลความจริง

มุมข่าว

ไฟไหม้รถยนต์วอดทั้งคัน เจ้าของตกตะลึงยืนดูไฟจนมอด ก่อนแจ้งจนท.

สยามนิวส์

กมธ.ปปง. ลุยคดีฟอกเงินโยงเครือข่ายพนันออนไลน์

INN News

กราดยิง 4 ศพในบาร์สหรัฐ

สำนักข่าวไทย Online

"สวีเดน" ยันขาย Gripen ให้ไทยตามเดิม โฆษกรัฐบาลโต้ข่าวลวงจากเขมรบิดเบือนรายวัน

The Better

ช่างทาสี เพิ่งแต่งงานได้วันเดียว ทำงานวันแรก สลิงเครนขาด ดับสลด

Khaosod

โฆษกรัฐบาลโต้ข่าวปลอม! สวีเดนไม่เคยยกเลิกขาย Gripen ให้ไทย

ไทยโพสต์

ที่ปรึกษา รมว.กต.เผย กต.นัดถกทูตไทย-ทูตต่างชาติต่อ ตอกย้ำข้อเท็จจริงชี้แจงนานาชาติ ขอประชาชนรอผลประชุมหลัง GBC

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...