"วิทัยสไตล์" ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ จริงจัง-ถึงลูกถึงคน ลูกน้อง-SME-คนตัวเล็กชอบ…แต่แบงก์มีหนาว! ** เพราะกฎ มีไว้เลี่ยง “ทักษิณ” จึงเล่นบทหัวหน้าพรรคตัวจริง นายกฯตัวจริง ประกาศดีลพรรคร่วม จับขั้วเดิมหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ "วิทัยสไตล์" ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ จริงจัง-ถึงลูกถึงคน ลูกน้อง-SME-คนตัวเล็กชอบ…แต่แบงก์มีหนาว!
เป็นอันว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (22ก.ค.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง "วิทัย รัตนากร"เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่แทน "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30กันยายน 2568 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
“วิทัย” ฝ่าด่านสรรหาในตำแหน่งนี้มาจนหยดสุดท้าย ก็ต้องบอกไม่ธรรมดา
นอกจากโปรไฟล์เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานความรู้ด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย บิดาเป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม มารดาทำงานตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีพื้นฐานการศึกษาจบ ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์8239;ธรรมศาสตร์ แล้วมาต่อปริญญาโท เศรษฐศาสตร์การเมือง8239;และ กฎหมายธุรกิจ8239;จากจุฬาฯ พ่วงด้วยดีกรี ปริญญาโท การเงิน8239;8239;Drexel University, สหรัฐฯ
ส่วนประสบการณ์ทำงาน "วิทัย" ในวัย 54 ปี ผ่านงานมาอย่างโชกโชน เคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, CFO นกแอร์ ,รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย , เลขาธิการ กบข.
ก่อนจะมารับตำแหน่งเบอร์ 1 ของแบงก์ออมสิน สร้างชื่อสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ที่ด้วยรางวัล นักการธนาคารแห่งปี (2563–2567),นักการเงินแห่งปี (2565) และ Top8239;CEO Business Excellence (2566) และ สุดยอด CEO (2567)
รางวัลทั้งหลายทั้งปวง ได้สะท้อนฝีมือ "วิทัย" ผลักดันธนาคารออมสินให้เป็น “Social Bank” เน้นการเข้าถึงแหล่งทุนและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
ว่ากันว่า “วิทัย” มีสไตล์การทำงานที่จริงจัง ลงไปดูปัญหากับทีมทำงาน ใกล้ชิดลูกน้อง ทำให้คนทำงานรู้สึกถึงความตั้งใจของฝ่ายบริหาร ขณะที่ลูกค้า SME หรือ รายย่อย-คนตัวเล็กทั้งหลาย ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม
เรียกว่าประทับใจในความเป็น Social Bank ที่ "วิทัย" ผลักดัน
สำหรับความตั้งใจของ ผู้ว่าแบงก์ชาติ ป้ายแดง "วิทัย" เคยเปรยกับคนใกล้ชิดเอาไว้ว่า ตั้งใจช่วยคนระดับรากฐาน ช่วย SMEs เพราะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจจะซึมยาวๆ แน่
การจะทำเช่นที่ตั้งใจนี้ "วิทัย" รู้ดีว่า ปัจจัยที่ท้าทาย อยู่ที่บรรดาแบงก์พาณิชย์ เพราะแค่ได้ยินชื่อ "วิทัย" จะเข้าวินก็ครั่นเนื้อครั่นตัว ด้วยเกรงจะไปลดดอกเบี้ยเงินกู้ ลดค่าธรรมเนียมที่ตัวเอง "อยู่ดีกินอิ่ม" มาทุกยุคทุกสมัย
นั่นเพราะเจ้าตัวได้แสดงวิสัยทัศน์ไปก่อนหน้า ตอนที่สรรหาฯพูดชัดเจนว่า เสนอแนวทางลดดอกเบี้ยนโยบายลง พร้อมกับมาตรการช่วยเหลือหนี้ครัวเรือนแบบครอบคลุม แกนหลักคือ การประสานนโยบายการเงินกับมาตรการทางคลัง เพื่อฟื้นสภาพเศรษฐกิจไทย
พูดง่ายๆว่า ถ้า “วิทัย” นำประสบ การณ์การทำงานที่ ออมสิน ผสมผสานระหว่างโครงสร้างการเงินเข้ากับกลไกการสร้างรายได้ ลดภาระหนี้ ด้วยแนวทางที่ลงลึกถึงประชาชนฐานราก ก็น่าสนใจว่า "กำไร" แบงก์พาณิชย์ทั้งหลาย จะต้องยอมลดลงมาเพื่อสังคมส่วนรวม ไปต่อกันได้
นี่คือ “วิทัย” ผู้ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่1 ต.ค.นี้ โดยจะถือเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของเศรษฐกิจไทย ที่ต้องติดตามเป็นอย่างยิ่ง
++ เพราะกฎ มีไว้เลี่ยง “ทักษิณ” จึงเล่นบทหัวหน้าพรรคตัวจริง นายกฯตัวจริง ประกาศดีลพรรคร่วม จับขั้วเดิมหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” แล้ว “กฎ มีไว้ให้เลี่ยง” ไม่ใช่มีไว้ให้ทำตาม คำพูดนี้เขาพูดในการเสวนา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ แต่ในทางปฏิบัตินั้น เขาปฏิบัติมานานแล้ว ปฏิบัติมาตลอด ปฏิบัติจนเป็นนิสัย จนเกิดความเคยชิน
ดังนั้น เมื่อ“แพทองธาร ชินวัตร”ลูกสาว ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว “พ่อ” ก็ต้องมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน
งานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) จึงไม่ใช่แค่นัดกินข้าวระหว่าง แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเพียงไม่กี่คน แต่เป็นการเชิญมาหมด ทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล บรรยากาศจึงคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะเมื่อมี “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นวิทยากรรับเชิญ มาบรรยายพิเศษใน หัวข้อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน”
“สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทยบอกว่า ที่เชิญ “ทักษิณ” มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เพราะเคยเป็นหัวหน้าพรรค เคยจัดตั้งรัฐบาลมาก่อน และมีประสบการณ์ แก้ไขปัญหาวิกฤตการเมือง น่าจะมีข้อเสนอแนะในการฝ่าวิกฤตการณ์ปัจจุบัน ที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่
ส่วนเรื่องจะถูกร้องเรียนว่า ครอบงำพรรค ครองงำรัฐบาลนั้น “ทักษิณ” เลิกกังวล เลิกให้ความสำคัญไปนานแล้ว
จนตอนนี้ในบรรดานักการเมือง รวมทั้งประชาชนบางส่วนเห็นว่า “ทักษิณ” เป็นผู้มีบารมี และมีอำนาจสูงสุดทางการเมือง ถ้าเปรียบประเทศเป็นบริษัท เขาก็เป็น “ซีอีโอประเทศ” มากกว่าที่จะเป็น “เสมียนประเทศ” อย่างที่เคยบอก
ที่ผ่านมา “ทักษิณ” ได้ใช้วิธี “เลี่ยงกฎ” มาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่อง เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปคุยเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า การเข้าประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย การหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย การขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ชี้นำนโยบายของรัฐบาล ประกาศยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย การปรับครม. พูดถึงการแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดนกัมพูชา ปัญหาชายแดนภาคใต้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แนะแนวทางปัญหาภาษีทรัมป์ให้กับทีมไทยแลนด์ ออกเดินสายพบประชาชน…
“ทักษิณ” เล่นบทหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เล่นบทนายกฯ ตัวจริง มาแล้วทั้งนั้น
ดังนั้น การที่ “ทักษิณ” ได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรพิเศษในงานเลี้ยง สส. พรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ก็คงไม่มีองค์กรใดเอาผิด หรือลงลงโทษอะไรได้เหมือนเดิม
การขึ้นเวทีครั้งนี้ “ทักษิณ” บอกว่าเป็นเหมือนการย้อนบรรยากาศไปเมื่อ 51 ปีที่แล้ว ที่ตอนนั้นเขามาช่วยราชการอยู่กับ “ปรีดา พัฒนถาบุตร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี งานที่ท้าทายในช่วงนั้นก็คือ คุมเสียง สส. ให้มาโหวตกฎหมายสำคัญ ต้องทำบัญชี ต้องทำให้ผู้แทนเข้าอยู่ในสภาให้ได้ ซึ่งวิธีการขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะตอนนั้นสถานการณ์เหมือนตอนนี้ ที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ
“ทักษิณ” กระตุ้นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องมีความเป็นปึกแผ่น สร้างความแข็งแรงของรัฐบาล หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกไป แบบไม่เป็นสุภาพบุรุษ
"วันนี้พรรคร่วมรัฐบาล ยังเป็นปึกแผ่นแข็งแรงดี จากการที่ผมได้พบปะทุกๆ คน หัวหน้าพรรคทุกๆ คน ยังยืนยันว่า เราจะไปด้วยกัน และผมบอกกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ทีมนี้แหละเมื่อเลือกตั้งแล้ว ก็จะร่วมมือกันอีกครั้ง เมื่อมันไม่ทิ้งกันขนาดนี้ ก็ต้องไม่ทิ้งกันตลอดไป จริงไหมครับ"
“ทักษิณ” บอกว่าตอนนี้เขามีตังค์ จึงมั่นใจว่าจะประคองรัฐบาลไปได้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีทั้งหลาย ทำงานไปด้วยต้องแบ่งเวลาไปให้ความอบอุ่นกับ สส. ด้วย
… สมัยก่อน รัฐมนตรี มี 48-49 คนเขา ดูแล 1 ต่อ 4 คน ดูแลกันได้อบอุ่น และเชื่อว่าวันนี้ ถ้าแต่ละพรรคแบ่งรัฐมนตรีให้ความอบอุ่นแก่ สส. ก็จะมั่นคง เพราะถ้าไม่อบอุ่น ก็จะถูกตีท้ายครัวได้ เพราะมีพวกชอบตีท้ายครัวอยู่ ถ้าเราแก้ปัญหาตรงนี้ได้รัฐบาลก็จะแข็งแรง
“ทักษิณ” ยังบอกว่า ตนเองยังว่างงานอยู่ ถ้ารัฐมนตรีคนไหนอยากจะใช้งาน จะโทรศัพท์มาปรึกษาอะไร ก็ยินดีแม้กระทั่ง สส.ถ้าอยากจะชวนไปเที่ยวบ้านบ้างก็ยินดี อยากขับรถ เที่ยวทั่วประเทศไทย ไปดูว่าพ่อค้ายาเสพติดยังหลงเหลือที่ไหนบ้าง ตอนนี้ชาวบ้านยอมรับว่าเดือดร้อนทางเศรษฐกิจหนักที่สุด แต่ขอรัฐบาลจัดการยาเสพติดก่อน โดยเฉพาะ กัญชา ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป
โดยสรุปแล้ว เรื่องที่ “ทักษิณ” มาบรรยาย ก็คือ มาให้แนวทางเรื่องการแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล ว่าต้องดูแลกันให้ทั่วถึง ให้สส.ได้รับความอบอุ่น โดยให้รัฐมนตรีแต่ละคน นอกจากทำหน้าที่แล้ว ยังต้องแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ สร้างความอบอุ่นให้สส.ด้วย
ซึ่งการสร้างความอบอุ่นให้กับสส.นั้น จะเหมือนการ “แจกกล้วย”หรือไม่ อันนี้ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ซึ่งย้อนแย้งกับการเสวนาก่อนหน้านี้ ที่หลุดคำว่า “ฉันเปล่านะ เขามาเอง” ในการแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ
อีกประการที่ “ทักษิณ” ต้องมาตอกย้ำ มาสร้างปฏิญญาร่วมกันว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ขั้วการเมืองขั้วนี้ จะยังผนึกกำลังกันจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ไม่ทิ้งกัน
ไม่มีอะไรมาก วันนี้ “ทักษิณ” ไม่ได้พูดเรื่อง “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” อะไรทั้งนั้น แต่พยายามพูดเพื่อรักษาอำนาจตัวเองเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่านั้น
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO