“พรรคร่วมฝ่ายค้าน” เคาะ 4 ข้อสรุปปลดล็อกประเทศ ถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เดินหน้าทำประชามติ
“พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ได้ข้อสรุป 4 ประเด็นหลัก ปลดล็อกประเทศ ย้ำ “รัฐบาล” ต้องถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่นำกลับเข้าสภาอีก เดินหน้าทำประชามติเพื่อแก้ รธน. ส่วนนิรโทษกรรมยังเห็นต่างในรายละเอียด ขณะ “ซักฟอก ม.151” รอประเมินสถานการณ์
วันที่ 3 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนแถลงภายหลังการประชุมหารือทิศทางการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งใช้เวลาหารือกันประมาณ 30 นาที
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านและตัวแทนแต่ละพรรค ที่วันนี้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ผลสรุปในการประชุมวันนี้ หรือสิ่งที่พวกเรามาหารือกัน คือเรื่องการนำในสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นเป็นตัวตั้ง ภายใต้สถานการณ์วิกฤตประเทศในขณะนี้ และวิกฤตศรัทธาที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความเชื่อมั่นต่อประชาชนอย่างสูง
สำหรับวาระในการประชุมวันนี้ คือการใช้กลไกของฝ่ายค้านและสภาในการหาทางออกให้กับประเทศเป็นหลัก โดยยึดหลักการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แสวงหาจุดร่วมที่จะสามารถผลักดันร่วมกันได้ รวมถึงให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกันในจุดยืนของแต่ละพรรค ซึ่งแต่ละพรรคอาจจะมีข้อคิดเห็นหรือจุดเด่นที่แตกต่างกันได้
ส่วน 4 เรื่องหลักที่มีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนรอฟังคำตอบอยู่ คือ1. การเดินหน้ากลไกในสภาทุกอย่าง เพื่อกดดันให้รัฐบาลหยุดเดินหน้าหรือถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ความเชื่อมั่นต่อพวกเราและประชาชนว่าจะไม่มีการเสนอร่างนี้กลับเข้ามาอีก
2. การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่ตนมองว่ายังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ แต่หนึ่งอย่างที่เห็นตรงกันในหลักการคือการจัดทำประชามติครั้งที่ 0 ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาเรื่องการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดช่องทางสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือไม่ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้กลไกสภาในสมัยประชุมปัจจุบันตามที่เหมาะสมในการเดินหน้าเสนอให้มีการจัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งใหม่
3. การพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมที่ยังมีรายละเอียดอีกหลายส่วน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเห็นแตกต่างกันอยู่นั้น เราจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้
4. การยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ซึ่งเราเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ภายใต้นิติสงครามที่มีการดำเนินคดีต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องรอประเมินตอนนี้คือประเมินสถานการณ์ทางการเมือง เรื่องความชัดเจนของคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณากรณีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตรอยู่ ก่อนจะมีการตัดสินใจว่าจะยื่นญัตติเมื่อไหร่
ไม่พูดล่วงหน้าให้เกียรติ “อนุทิน”
ในส่วนรายละเอียดที่จะต้องมีการหารือกันต่อ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในอนาคต จะเป็นส่วนที่คณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันต่อไป
สำหรับกรณีกระแสข่าวการเสนอตัวนายกรัฐมนตรีชั่วคราวนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่าต้องให้เกียรตินายอนุทินด้วย แต่โดยหลักการ ตนขอย้อนกลับไปในสิ่งที่เราต้องมาประชุมร่วมกันว่า เราประชุมเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งในวันนี้อาจจะยังไม่เหมาะสม หากจะพูดอะไรไปล่วงหน้า เพราะสถานการณ์ยังไม่เกิด เนื่องจากขณะนี้นายกรัฐมนตรี ยังชื่อนางสาวแพรทองธาร เพียงถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ย้ำไม่ทำให้ประเทศเกิดทางตัน
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า แต่แน่นอนที่สุด การวิเคราะห์การเมือง การประเมินฉากทัศน์ข้างหน้า ทุกคนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยการหารือเป็นการภายในนั้น ก็มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ตนขอยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกคนและหัวหน้าพรรคทุกคน มีการหารือกันว่า เราจะไม่ทำให้การเมืองเดินถึงทางตัน อย่างไรประเทศมีทางออก ส่วนรายละเอียดคิดว่าคุยกันในสถานการณ์ข้างหน้าได้
“อนุทิน”ปัดเสนอตัวเป็นนายกฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องกระแสข่าว ตนได้ชี้แจงจากการให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวานนี้ตอนเย็นแล้ว และต้องขอพูดว่า มันไม่มีการเสนอตัว เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนอย่างมาก ไม่ได้มีการพูดถึงตรงนั้นเลย ตอนนี้เราพูดในหลักการ ในสถานการณ์แบบนี้ ใครที่เข้ามาก็ตาม ต้องเข้ามาด้วยระยะเวลาที่เฉพาะกิจ เฉพาะกาล เพื่อมาแก้ไขปัญหาปัจจุบัน และยุบสภา ให้เกิดการเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจต่อไป แต่เรื่องพวกนี้ เราไว้รอถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน เพราะตอนนี้นายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่ง
ยันข้อเสนอปชน.คือทางออกประเทศ
ส่วนกรณีที่พรรคประชาชนมีมติจะโหวตให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่ร่วมรัฐบาล แต่ต้องมีเงื่อนไขนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า สิ่งที่พรรคประชาชนเสนอไป ไม่ได้เสนอว่า เราจะร่วมโหวตหรือไม่ร่วมโหวตให้ใคร ทุกอย่างที่เราเสนอ เป็นข้อเสนอที่เราเชื่อว่า เป็นทางออกของประเทศจริงๆ หากวันหนึ่งสถานการณ์ทางการเมืองเดินไปถึงจุดนั้น ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พรรคประชาชนได้นำเสนอไปเมื่อวานนี้ แต่เข้าใจว่า ประชาชนและสื่อมวลชน อาจจะให้ความสนใจเรื่องการรวมขั้วทางการเมืองได้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ ตนคิดว่ายังไม่มีความเหมาะสมที่จะนำเสนอในวันนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น
ย้ำขอดูจุดยืนแต่ละพรรค
เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีการโหวตให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะโหวตให้ใคร จะนายชัยเกษมหรือนายอนุทิน แต่เราดูที่จุดยืนร่วมกันว่า การออกเสียงของพรรคประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ละพรรค แต่ละคน มีจุดยืนของตัวเอง ในส่วนของพรรคประชาชน เรายืนยันในหลักการว่า การโหวตให้ใครก็ตาม เราไม่ยึดติดกับตัวบุคคลหรือพรรค แต่ต้องเป็นการสร้างทางออกให้กับประเทศได้
เมื่อถามถึงจุดยืนร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนในเรื่องการยุบสภา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เฉพาะในส่วนพรรคประชาชน เราเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้ว นายอนุทิน กล่าวเสริมว่า ตนพูดชัดเจนแล้ว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” เคาะ 4 ข้อสรุปปลดล็อกประเทศ ถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เดินหน้าทำประชามติ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” เคาะ 4 ข้อสรุปปลดล็อกประเทศ ถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เดินหน้าทำประชามติ
- ผู้นำฝ่ายค้าน กังวลรัฐบาลเล่นตุกติก สอดไส้ร่าง พ.ร.บ.Entertainment Complex
- “มนพร” เหน็บ ภท. เป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายแค้น รับเลื่อนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath