หุ้นไทยวันนี้ ปรับขึ้นในกรอบ 1,120-1,140 จุด ลุ้นดีลเจรจาไทย-สหรัฐหลังเวียดนามจบสวย
หุ้นไทยวันนี้ 3 ก.ค. นักวิเคราะห์คาดปรับขึ้นในกรอบ 1,120-1,140 จุด หลัง "ทรัมป์" ได้ข้อสรุปการเจรจาทางการค้ากับเวียดนาม โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเวียดนาม 20% ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าไทยจะได้มติใกล้เคียงกัน รวมถึงสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังประคับประคองไปได้ต่อ คาดมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หลังอิหร่านประกาศะระงับความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
3 กรกฎาคม 2568บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น หลังไม่หลุดต่ำกว่า 1,105/1,100 ไม่หลุดต่ำกว่าจะเป็นการแกว่งตัวเพื่อรอขึ้น มีแนวต้านที่ 1,120/1,128 ผ่านได้จะเป็นสัญญาณยืนยันของการแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ รอประกาศภาษีศุลกากรสหรัฐฯ กับไทยก่อน 9 ก.ค. นี้ หากไม่สูงไปกว่า 15% คาดว่าตลาดจะตอบสนองเชิงบวก หลังสหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนําเข้าเวียดนามเหลือ 20% จากเดิม 46%
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.
ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเรา ประเมิน SET ที่บริเวณตากว่า 1,100 จุด คิดเปน PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสําหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนําให้ “Selective Buy”
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสขยับตัวขึ้นต่อ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าการเจรจาการค้ากับเวียดนามได้ข้อสรุปแล้ว โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่ 20% หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยตั้งไว้สูงถึง 46% ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าการเจรจาของไทยจะมีมติใกล้เคียงกัน หรือประมาณ 18% ที่เคยคาดการณ์ไว้
รวมถึงสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังประคับประคองไปได้ต่อ จากพรรคประชาชน (ปชน.) ที่ประกาศว่าจะสนับสนุนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่จะเป็นฝ่ายค้านต่อ ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลใหม่ต้องเป็นรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งอีกครั้ง พร้อมกับเร่งจัดทำประชามติสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด ทำให้การเมืองในช่วงนี้ไม่เกิดภาวะสุญญากาศ และยังดำเนินการออกมาตรการภาครัฐและพิจารณางบประมาณปี 2569 ได้ตามปกติ
และดัชนีคาดว่าจะมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 3% หลังอิหร่านประกาศว่าจะระงับความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ขององค์การสหประชาชาติ (UN)
แนวโน้มในวันนี้ให้ติดตามการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ต่อไป โดยให้กรอบแนวรับ 1,110 จุด และแนวต้าน 1,120 - 1,125 โดยถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ ให้แนวต้านถัดไป 1,140 - 1,145 จุด
บล.พาย ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,100 - 1,125 อาจเผชิญแรงกดดันระยะสั้นจากภาษีเวียดนามที่ค่อนข้างต่ำ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเลือกทำกำไรระยะสั้นเนื่องด้วยตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นมาและเผชิญกับแรงกดดันจากภาษีเวียดนาม แต่หากปรับลงมายังมองเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะกลาง แต่เน้นที่หุ้นใหญ่พื้นฐานดี อาทิ CPN ค้าปลีก (BJC CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) โรงพยาบาล (BDMS)