'พิชัย' อำลาพาณิชย์ ส่งไม้ต่อ "จตุพร" ฝากเร่งปิดดีล FTA ไทย-อียู
วันนี้ ( 2 กรกฎาคม 2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้กล่าวอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมแสดงความขอบคุณ
นายพิชัย กล่าวว่า It is such a privilege and honor to work with all of you. ตลอดระยะเวลากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ความสำเร็จทั้งหมดเกิดจากพลังของทีมพาณิชย์
“สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากฝากไว้คือ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนประเทศ เพราะนี่คือกระทรวงที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัย ยังได้ฝากข้อเสนอแนะแก่ข้าราชการและผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเร่งรัดการเจรจา FTA โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป (อียู) การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ผลักดัน Thailand Brand ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก การสร้างแบรนด์สินค้าไทยอย่างจริงจัง รวมถึงการบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มและยกระดับรายได้เกษตรกร
“ฝากเรื่องการส่งออกให้เดินหน้าต่อไป เพราะหากการส่งออกเติบโต เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ประเทศจะไปข้างหน้าได้ และขอให้ขับเคลื่อน Thailand Brand อย่างต่อเนื่อง อย่าให้ไทยเป็นเพียงผู้ผลิต OEM อีกต่อไป เราต้องมีแบรนด์ของตัวเอง” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า ดีใจที่ได้ทำงานกับทีมกระทรวงพาณิชย์ พร้อมยกย่องข้าราชการว่าเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูง และขอให้รักษาความเป็น “ครอบครัวกระทรวงพาณิชย์” ไว้ เพื่อร่วมกันนำพาประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกับนายพิชัย ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ สะท้อนผ่านผลงานที่เป็นรูปธรรม
ขณะที่ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในนามของข้าราชการกระทรวงว่า นายพิชัยเป็นผู้นำที่มองเป้าหมายเป็นหลัก คิดนอกกรอบ แต่ยังคงยึดหลักการอย่างชัดเจน โดยฝากผลงานไว้มากมาย
สำหรับผลงานเด่นของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตลอด 9 เดือน 27 วัน มีมากถึง 30 เรื่องสำคัญ อาทิ
1.ส่งออกไทยโตต่อเนื่อง – ตั้งแต่รับตำแหน่ง 8 เดือน ส่งออกไทยโตต่อเนื่องเฉลี่ย 13.3% โดยในปี 2568 การส่งออก (ม.ค. – พ.ค.) โต 14.9% และส่งออกเดือนพฤษภาคม 2568 โตถึง 18.4% มีมูลค่า 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และเชื่อมั่นว่าการส่งออกในเดือนมิถุนายนก็มีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน
2.ลงนาม FTA ไทย – เอฟตา (ฉบับแรกกับยุโรป) และปิดดีล FTA ไทย – ภูฏาน และจะเร่งเจรจา FTA ไทย – EU ให้แล้วเสร็จภายใน 25 ธ.ค. 2568
3.ปราบธุรกิจนอมินี 861 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,296 ล้านบาท ดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมายกว่า 57,000 คดี
4.ลดค่าครองชีพประชาชนกว่า 14,400 ล้านบาท ผ่านกิจกรรม “ธงฟ้าราคาประหยัด” และ “พาณิชย์สัญจร”
5.เปิดเสรีข้าว ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมการส่งออก
6.เชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผักและผลไม้
7.จัดงาน “Thailand Rice Convention 2025” ขายข้าวได้กว่า 6 แสนตัน
8.ลงนาม MOU ไทย–จีน ขยายตลาดมันสำปะหลังไทย มูลค่ากว่า 23,765 ล้านบาท
9.บริหารผลไม้กว่า 9.5 แสนตัน พร้อมจัดทำ MOU กับแอร์เอเชีย กระจายผลไม้ 1,000 ตัน
10. ผลักดันไทยเป็น Food Storage ของโลก
11. ยกระดับ Thai SELECT เทียบชั้น Michelin Star
12. สร้าง Thailand Brand ให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก
13. จัดงานแสดงสินค้าระดับโลก เช่น Bangkok Gems, THAIFEX, STYLE Bangkok, TAPA 2025 สร้างมูลค่าการค้ารวมกว่า 147,000 ล้านบาท
14. แสดงวิสัยทัศน์บนเวทีโลก เช่น APEC, ASEAN Summit, ACD Summit, WEF
15. รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ และเป็นผู้ประสานงานหลักกับ USTR