ศมข.สุพรรณบุรี ปรับวิธีปลูกข้าว หนุนชาวบ้านสาละวะ ต.ไล่โว่ มีข้าวบริโภคเพียงพอ
โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ (สาละวะ-ไล่โว่) จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นโครงการสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงสืบสานและต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยมุ่งเน้นการพัฒนาความยั่งยืนของชุมชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ชุมชน และประชาชนในพื้นที่
โครงการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล โดยอิงหลัก "ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง" และการเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ช่วยเพิ่มอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี กรมการข้าว ได้ร่วมบูรณาการขับเคลื่อน โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ (สาละวะ-ไล่โว่) จังหวัดกาญจนบุรี โดยจัดทำแปลงเรียนรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและการผลิตข้าว พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องข้าว ตามหลักวิชาการ กระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีที่เหมาะสมกับพื้นที่
ปรัชญา แตรสังข์ ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี กล่าวว่า บ้านสาละวะ ต.ไล่โว่ ตั้งอยู่กลางป่าในอุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งมีประวัติการอยู่อาศัยยาวนานกว่า 100 ปี ชุมชนส่วนใหญ่ประกอบด้วยชาวกะเหรี่ยงที่ใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมและห่างไกลจากความสะดวกสบาย โครงการพระราชดำริและหน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญกับหมู่บ้านนี้ เนื่องจากการดำรงชีวิตของชาวบ้านที่ห่างไกลทำให้ขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานหลายด้าน
หนึ่งในปัญหาหลักของบ้านสาละวะ ต.ไล่ไว่ คือการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าว เนื่องจากชาวบ้านมักปลูกข้าวในรูปแบบไร่เลื่อนลอย ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่สามารถผลิตข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการได้ การขยายพื้นที่ปลูกข้าวด้วยการถางป่าเพิ่มขึ้นทำให้ปัญหาดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกข้าวในหมู่บ้านและทราบว่า ชาวบ้านมีวิธีการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมที่ให้ผลผลิตต่ำ และเผชิญกับปัญหาโรคและแมลงระบาด จึงได้ตัดสินใจเข้ามาศึกษาและหาทางออกเพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีข้าวบริโภคเพียงพอ
โดยเริ่มต้นจากการประสานงานเพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ทดลองบริโภค เมื่อได้รับผลตอบรับที่ดี จึงนำพันธุ์ข้าวมาจัดทำแปลงเรียนรู้ ซึ่งพบว่าได้ผลผลิตดี และสามารถต้านทานโรคและแมลงได้ดีกว่าพันธุ์ข้าวพื้นเมือง
เมื่อผลตอบรับดีขึ้น ทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี จึงขยายผลโครงการโดยจัดทำแปลงเรียนรู้ในชุมชน เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำพันธุ์ข้าวนี้ไปปลูกต่อและกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งพันธุ์ข้าว กข79 ที่ได้รับการวิจัยจากกรมการข้าวมีผลผลิตที่ดีกว่าพันธุ์พื้นเมืองของชาวบ้าน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปีนี้ การประสานงานกับนายอำเภอเพื่อจัดตั้งกลุ่มข้าวชุมชน ได้เริ่มต้นขึ้น โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี จะเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการผลิตข้าวในพื้นที่ และจะให้การสนับสนุนแก่เกษตรกรในการขยายผลการปลูกข้าวในบ้านสาละวะ ต.ไล่โว่ และชุมชนใกล้เคียงเพิ่มเติม ซึ่งพันธุ์ข้าว กข79 จะช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่นี้มีข้าวพอกินและสามารถขยายผลได้ในหลายชุมชนต่อไป