โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี e:MOTION เน้นย้ำโหมดการขับขี่ที่เหนือระดับไม่เหมือนใคร

สยามรัฐ

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เน้นย้ำหัวใจสำคัญของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี คือ MITSUBISHI e:MOTION ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ เป็นการผสาน 3 เทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC) ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันโด่งดังของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรกอย่างเอ็กซ์แพนเดอร์ ทำให้มีประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การขับขี่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและนุ่มนวลมากขึ้นในทุกเส้นทาง อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานลงได้มาก ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตร/ลิตร และทำให้ได้ระยะทางในการขับขี่ต่อน้ำมัน 1 ถัง สูงที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน

เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบรถไฟฟ้า รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle โดยการขับเคลื่อนในแบบไฮบริด จะให้ความเงียบและมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมทั้งในการขับขี่บนไฮเวย์ และในเส้นทางที่เป็นเนินลาดชัน นอกจากนี้ มอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรเตอร์ และระบบส่งกำลัง ยังได้รับการออกแบบให้ทำงานผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้มีการทำงานที่เงียบลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ประสบการณ์การขับขี่เหมือนรถไฟฟ้า

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC DOHC 16 วาล์ว ซึ่งถูกใช้งานครั้งแรกในเอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี โดยให้ประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal efficiency) ในระดับแนวหน้าของคลาส พร้อมทั้งกำลังขับเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากระบบขับเคลื่อนเสริม (Auxiliary Drive Loss) ส่งผลให้ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมประสิทธิภาพโดยรวมของระบบขับเคลื่อน เมื่อทำงานร่วมกับเจเนอเรเตอร์และมอเตอร์ที่มีกำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จึงสามารถอัตราเร่งที่ราบรื่น ทรงพลัง และตอบสนองฉับไว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi e:MOTION มอบประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่น คือโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกสภาพอากาศและสภาพถนน โดยแบ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบรถไฟฟ้า 2 รูปแบบ และโหมดการขับขี่อีก 5 รูปแบบสภาพถนน ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านสวิตซ์ที่คอนโซลกลาง โดยระบบควบคุมเบรก เครื่องยนต์ มอเตอร์ และพวงมาลัย จะทำงานร่วมกันเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยบนสภาพถนนที่หลากหลายซึ่งเหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทย

โหมด EV Priority และโหมด Charge ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกขับขี่ในโหมด EV ตามสถานการณ์ได้ EV Priority Mode ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์โดยไม่ต้องสตาร์ตเครื่องยนต์ โหมดนี้มีความเงียบสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเมื่อต้องขับขี่ในบริเวณที่ต้องการความเงียบCharge Mode ใช้เครื่องยนต์ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อพลังงานเหลือน้อยในขณะขับ หรือจอดรอได้ เพื่อให้สามารถใช้โหมด EV ได้นานขึ้นตามต้องการ

5 โหมดการขับขี่อื่นๆ ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมรถตามสภาพถนน ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมเทคโนโลยีควบคุมต่างๆ ได้แก่ Active Yaw Control (AYC) ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง ควบคุมแรงขับ และแรงเบรกของล้อหน้าแต่ละข้างเพื่อเพิ่มการทรงตัวและการควบคุมให้ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น Traction Control System (TCL) ระบบป้องกันการลื่นไถล ป้องกันล้อหมุนฟรี Active Stability Control (ASC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electric Power Steering พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วและสภาพถนน ทั้ง 5 โหมดการขับขี่ ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพอากาศและถนน Normal Mode เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน Tarmac Mode ถนนลาดยาง เพิ่มความว่องไวและการควบคุมที่แม่นยำบนถนนคดเคี้ยว ให้พละกำลังเช่นเดียวกับ Sport Mode Gravel Mode ถนนลูกรัง ลดอาการลื่นไถลและเพิ่มความมั่นคงบนถนนลูกรัง Mud Mode ถนนโคลน ให้การยึดเกาะที่ดีขึ้นแม้ในสภาพถนนที่เป็นโคลนและขรุขระ Wet Mode ถนนเปียกลื่นลดการลื่นของยางและเพิ่มเสถียรภาพแม้ในสภาพฝนตกหนัก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

พรุ่งนี้! รัฐบาลพาทูต-สื่อฯ ลงพื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ - อุบลราชธานี สื่อสารให้ประชาคมโลกเห็นข้อเท็จจริง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดกำหนดการคณะทูต-สื่อต่างชาติ ลงพื้นที่กัมพูชาโจมตีพลเรือนไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"รองนายกฯ ประเสริฐ"ลงพื้นที่สุโขทัย กำชับกรมชลประทานเดินหน้ารับมือฝนปลายฤดูในลุ่มน้ำยม–น่าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก! แม่เต่ากระ "แม่พรพนา" ขึ้นวางไข่รังที่ 13 ที่เกาะทะลุ อช.อ่าวสยาม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

Opel Mokka GSE แรงบันดาลใจจากตัวแข่งแรลลี่ สู่เวอร์ชั่นรถถนน

สยามคาร์ - Siamcar

Mazda เปิดตัว NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL ไลน์อัพใหม่!

สยามคาร์ - Siamcar

Zontes 368D รถสกู๊ตเตอร์ออโตเมติกพิกัด 368 ซีซี. ราคา 139,900 บาท

สยามคาร์ - Siamcar

ไปรษณีย์ดันโลจิสติกส์ไทย-จีน โต 3% ฉลอง 50 ปี จัดงานใหญ่แสตมป์เอเชีย

Manager Online

Toyota ทุบสถิติใหม่ทำยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในช่วงแรกของปี 68 แตะ 5.5 ล้านคัน

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ภาครัฐถอดบทเรียน เนต้า กินนิ่ม 2,000 ล้านบาท ปรับเกณฑ์จ่ายเงินอุดหนุน EV ใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

MG TRACK EXPERIENCE ชวนลูกค้าสัมผัสรถ e-SUV 2 รุ่น 2 สไตล์

ประชาชาติธุรกิจ

เปิดโชว์เคสครั้งใหญ่ นำ Lamborghini ขุมพลังไฮบริดให้ชมเป็นครั้งแรก

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...