ภาครัฐถอดบทเรียน เนต้า กินนิ่ม 2,000 ล้านบาท ปรับเกณฑ์จ่ายเงินอุดหนุน EV ใหม่
ตามที่รัฐบาลเปิดมาตรการ EV3 และ EV3.5 ให้สิทธิ์ค่ายรถยนต์นำเข้า EV จากต่างประเทศมาขาย ก่อนจะเริ่มผลิตคืนภายหลัง พร้อมรับเงินสนับสนุน 1.5 แสนบาท และ 1.0 แสนบาท ตามลำดับ(ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด)
สำหรับปี 2568 คาดว่ายอดผลิตคืนจากทุกค่ายรถที่เข้าร่วมโครงการ EV3 จะมีถึง 1 แสนคัน ขณะที่ยอดขาย(ยอดจดทะเบียน) EV รวมครึ่งปีแรก (ม.ค.- มิ.ย. 68) อยู่ที่ 56,529 คัน เพิ่มขึ้น 54.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ล่าสุด บอร์ดอีวี ประกาศปรับหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลการจ่ายเงินอุดหนุนของกรมสรรพสามิตตามมาตรการ EV3 และ EV3.5 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด
โดยผู้เข้าร่วม EV3 ที่ไม่ขยายเวลาผลิตชดเชย ให้จัดทำแผนคาดการณ์การผลิตชดเชย และรายงานผลเป็นรายเดือน ขณะที่กรมสรรพสามิต จะยับยั้งการจ่ายเงินอุดหนุนจนกว่าจะผลิตชดเชยสะสมได้ตั้งแต่ 50% ของจำนวนที่ต้องผลิตชดเชยทั้งหมด และผลิตได้ตามแผนคาดการณ์
ค่ายรถที่ร่วมมาตรการ EV3 ที่ขยายเวลา ต้องวาง Bank Guarantee 20 ล้านบาท สำหรับบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท ขึ้นไป และ 40 ล้านบาท สำหรับบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิต จะยับยั้งการจ่ายเงินอุดหนุน หากผู้ได้รับสิทธิมียอดการผลิตชดเชยสะสมต่ำกว่าสัดส่วนที่กำหนด
การปรับหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลการจ่ายเงินอุดหนุนของกรมสรรพสามิตตามมาตรการ EV3 และ EV3.5 แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจาก ปัญหาของ เนต้า ที่ถือเป็นบทเรียนสำคัญ หลังจากต้องผลิต EV ชดเชยอีกประมาณ 19,000 คัน แต่ปัจจุบันโรงงานบางชันฯ หยุดการผลิตไปแล้ว และที่ผ่านมา เนต้า รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท