วิเคราะห์ตลาดนักเตะซัมเมอร์กับ “เทรนด์” ที่เปลี่ยนไป-ซื้อเร็ว-จบเร็วแถมดีลใหญ่?

อีกไม่ถึง 1 เดือน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะกลับมาเปิดฤดูกาล ตอนนี้ ทุกทีมเรียกนักเตะกลับมาซ้อมแล้ว บางทีมลงเกมอุ่นเครื่องแล้ว และอีกไม่นานก็จะตระเวนทัวร์กันฉ่ำ

เรื่องของการปรับจูนขุมกำลัง ปรับเสริม หรือปรับลด กำลังอยู่ในช่วงไคลแมกซ์ จะได้ใคร-เสียใคร ต้องเรียบร้อยในเร็ววัน เพื่อเซตทีมซ้อม เตรียมความพร้อมก่อนจะเริ่มต้น

ข้อมูลจาก Transfermarkt บอกว่า ทีมในพรีเมียร์ลีกใช้เงินซื้อผู้เล่นรวมกันไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ นับตั้งแต่ตลาดนักเตะรอบแรก เปิดเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

ถือว่ามากสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะตัวเลขสูงสุดที่เคยซื้อกันเมื่อถึงช่วงนี้ของซัมเมอร์ก็คือ 800 ล้านปอนด์ เมื่อปี ค.ศ. 2022

ส่วนถ้านับทั้งซัมเมอร์ ตัวเลขสูงสุดที่เคยซื้อกันก็คือ 2,360 ล้านปอนด์ เมื่อปี ค.ศ. 2023 ตลาดรอบนี้จึงถือว่าน่าสนใจ และมีสิทธิทำลายสถิติเดิมได้

มาเร็ว-เคลมเร็ว ตลาดที่เปลี่ยนไป?
ตลาดนักเตะรอบนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนอยู่หนึ่งอย่างก็คือ แต่ละทีมพยายามเดินเกมเร็ว และปิดดีลให้เร็วที่สุด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทัวร์นาเมนต์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่อนุญาตให้แต่ละทีมเซ็นสัญญานักเตะได้ก่อน เพื่อให้สามารถนำติดทีมไปเล่นที่อเมริกาได้

ในช่วงเปิดตลาดใหม่ๆ มีการใช้เงินรวมกันถึงมากกว่า 400 ล้านปอนด์ ทีมใหญ่ปิดดีลผู้เล่นใหม่เป็นว่าเล่น เช่น แมนฯ ซิตี จ่าย 108 ล้าน ซื้อ รายาน แชร์กี, รายาน เอต-นูรี และ ทิยานี ไรเดอร์ส

ขณะที่ เชลซี ควัก 60 ล้านซื้อ เลียม ดีแลป, มามาดู ซาร์ และ ดาริโอ เอสซูโก ก่อนไปเล่นคลับ เวิลด์ คัพ และจ่ายอีก 60 ล้านปอนด์ ซื้อ เจา เปโดร ระหว่างทัวร์นาเมนต์

ดีลใหญ่เยอะ-แต่ยังไม่จบ (ไหม)?
นอกจากซื้อเร็ว ตลาดรอบนี้ ยังซื้อกัน "แพง" และมีดีลมูลค่ามากกว่า 40 ล้านปอนด์ ไปแล้วนับ 10 คน สูงสุดตอนนี้คือ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่ ลิเวอร์พูล จ่าย 100 ล้าน ซื้อมาจาก เลเวอร์คูเซน

นี่คือสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดร่วมของอังกฤษ เท่ากับ เอ็นโซ แฟร์นานเดซ และจะเป็นสถิตสูงสุดเดี่ยวๆ ตอนที่ ลิเวอร์พูล จ่ายแอด-ออนส์ เพิ่มอีก 17 ล้านปอนด์

ส่วนแพงอันดับ 2 ในตลาดรอบนี้ (ตอนนี้) คือ มาเตอุส คุนญา ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ควัก 62.5 ล้านปอนด์ ซื้อมาจาก วูล์ฟส์

ขณะที่ดีลของ อาร์เซนอล กับ มาร์ติน ซูบิเมนดี, เชลซี กับ เจา เปโดร, สเปอร์ส กับ โมฮัมเหม็ด คูดูส และ นิวคาสเซิล กับ แอนโธนี เอลังกา ก็ล้วนอยู่ในช่วง 50-60 ล้านปอนด์ทั้งสิ้น

ส่วนระดับ 40 ล้านปอนด์บวกๆ ยังมี เชลซี กับ เจมี กิตเทนส์, แมนฯ ซิตี กับ ไรเดอร์ส และ ลิเวอร์พูล กับ มิลอส เคอร์เคซ

ย้อนไปไม่ไกล แค่ 12 เดือน ดีลที่แพงที่สุดของซัมเมอร์ที่แล้วคือ โดมินิค โซลันกี ที่ สเปอร์ส ซื้อมาจาก บอร์นมันธ ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์

ใครซื้อเยอะสุด-และใครจะซื้ออีก?
ทีมที่ใช้เงินหนักหน่วงที่สุดตอนนี้คือ เชลซี กับ ลิเวอร์พูล (รวมดีลที่เซ็นล่วงหน้าตั้งแต่ปีก่อน)

เชลซี ใช้ไปแล้วราว 211 ล้านปอนด์ ได้มา 6 คน คือ ดาริโอ เอสซูโก, เลียม ดีแลป, มามาดู ซาร์, เจา เปโดร, เจมี กิตเทนส์, เอสเตเวา วิลเลียน และ เคนดรี เปเรซ

ลิเวอร์พูล ใช้ไป 185 ล้าน ได้มา 4 คน คือ เวียร์ตซ์, เคอร์เคซ, เจเรมี ฟริมปง และ จอร์จี มามาร์ดาชวิลี ที่ซื้อตั้งแต่ซัมเมอร์ก่อน แต่จะมาเล่นกับทีมในฤดูกาลนี้

ส่วนทีมอื่น สเปอร์ส 122 ล้าน, แมนฯ ซิตี 113 ล้าน

หรือแม้แต่ทีมน้องใหม่อย่าง "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ก็กดไปแล้ว 100 ล้าน (รวมดีลยืมตัว) และมีดีลใหญ่อย่าง ฮาบิบ ดิยาร์รา (30 ล้านจาก สตาร์สบูร์ก) และ ไซมอน เอดินกรา (21 ล้านจาก ไบรท์ตัน)

ทีมที่ยังไม่จ่ายสักบาทตอนนี้มีทีมเดียวคือ ฟูแลม แถมยังปล่อยนักเตะออกจากทีม 4 คน รวมถึง วิลเลียน และ คาร์ลอส วินิซิอุส

ส่วน คริสตัล พาเลซ ใช้ไปแค่ 2 ล้าน ซื้อ บอร์นา โซซา กองหลังจากอาแจ็กซ์ และ วิลเตอร์ เบนิเตซ โกล์ ที่เซ็นฟรีมาจากพีเอสวี

เทียบกับลีกอื่นเป็นยังไง?
ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ที่พรีเมียร์ลีกจะใช้เงินซื้อผู้เล่นมากกว่าบรรดาทีมในลีกใหญ่อย่าง เซเรีย อา, บุนเดสลีกา และลา ลีกา ใช้รวมเงินกัน เพราะมันเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งปีนี้ก็เช่นกัน

มีแค่ 5 ทีมนอกลีกอังกฤษ ที่ใช้เงินซื้อผู้เล่นแพงที่สุดในราคาสูงกว่า 30 ล้านปอนด์ ที่ ซันเดอร์แลนด์ ใช้ซื้อ ฮาบิบ ดิยาร์รา จาก สตาร์สบูร์ก

ดีลใหญ่ในยุโรปลีกอื่น ตอนนี้มีแค่ รีล มาดริด ซื้อ ดีน ฮุยเซน จาก บอร์นมัธ 50 ล้าน และซื้อ ฟรังโก มาสตานตูอาโน มิดฟิลด์จาก ริเวอร์เพลท 38.5 ล้าน

ขณะที่ เลเวอร์คูเซน ใช้เงินมากกว่า 100 ล้านปอนด์จากค่าตัว เวียร์ตซ์ ไปซื้อ จาเรลล์ ควานซาห์ จาก ลิเวอร์พูล 30 ล้าน และ มาลิค ทิลแมน มิดฟิลด์จาก พีเอสวี ในราคาเท่ากัน

นอกจากนั้น ตลาดรอบนี้ยังไม่จบ หลังจากนี้ อาจมีดีลใหญ่เกิดขึ้นอีก และอาจจะเร็วๆ นี้ด้วย.