เตือนภัยแก๊งคอลฯ เปิดเพจอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหยื่อ ปลอมบัตรตำรวจ หลอกคนโอนเงิน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านรายการ “เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” ว่าปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ โดยที่ผ่านมามักจะใช้ช่องทางผ่านการโทรศัพท์หาเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็นหน่วยงานราชการสำคัญบ้าง อ้างว่ามีไปรษณีย์ตกค้างบ้าง รวมทั้งการส่งเอกสารหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสังคมไทยเริ่มคุ้นชินแล้ว ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยปัจจุบันพบว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดเพจแอบอ้างเป็นมูลนิธิหรือสำนักงานทนายสาธารณะที่ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือศูนย์ช่วยเหลือการถูกหลอกลวง โดยปัจจุบันพบว่าในแพลตฟอร์ม Facebook มีชื่อว่า “สำนักงานช่วยเหลือเหยื่อคดีทางออนไลน์” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงซ้ำกับคนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ หรือกรณีที่ซื้อสินค้าไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ตรงปกเป็นจำนวนมาก
"กระบวนการเหล่านี้จะเปิดเฟซบุ๊ก แฟนเพจและขึ้นหน้าเพจว่าเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โดนหลอกลวงทางออนไลน์โดยจะให้แอดไลน์กับทนายความ โดยระบุว่าจะมีทีมทนายให้การช่วยเหลือ เมื่อขบวนการมิจฉาชีพได้รับเรื่องจากผู้ที่เป็นเหยื่อก็จะส่งต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมตัวเป็นตำรวจจากหลายหน่วยงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการส่งบัตรข้าราชการตำรวจให้เหยื่อได้หลงเชื่อ จากนั้นจะทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่โชคร้ายอยู่แล้วต้องโชคร้ายซ้ำสอง โดยคณะทำงานได้ตรวจสอบบัตรประจำตัวตำรวจดังกล่าวไม่ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง และได้ตรวจสอบพบว่าชื่อทนายความดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในสารบบของทะเบียนทนายความ"
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบและจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในกระบวนการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการแอบอ้างผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok Instagram และ Facebook ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มมิจฉาชีพนิยมใช้เพื่อชักจูงให้หลงเชื่อและโอนเงิน
“อย่าโอนเงินให้บุคคลหรือเพจที่ไม่น่าเชื่อถือโดยเด็ดขาด และหากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล หรือทาง อีเมล jirayu9000@gmail.com เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว” นายจิรายุ กล่าว