ทรูมันนี่ผุดแคมเปญสู้ภัยไซเบอร์ “รีบโอน โจรยิ้ม”
ทรูมันนี่ และ ทรู จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” เสริมเกราะคนไทยสู้ภัยไซเบอร์ พร้อมสร้างสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน
วันที่ 27 มิถุนายน 2568 - ทรูมันนี่ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมสนับสนุน แคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger: ไทยรู้ ทันหลอก” ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผอช.สอท.) หรือ CYBER CRIME INVESTIGATION BUREAU (CCIB) โดยแคมเปญดังกล่าวมุ่งสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตลอดไตรมาส 3 ของปี 2568
โดยในงานเปิดแคมเปญ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีพลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ. ศปอส. ตร.) เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และมีตัวแทนจากภาคเอกชน ภาควิชาการ และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ร่วมแสดงพลังสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว
นายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือของ ทรูมันนี่ และ ทรู กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ในแคมเปญ ‘รีบโอน โจรยิ้ม’ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มุ่งลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมไซเบอร์ โดย ทรูมันนี่ มีการพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยีและฟีเจอร์ความปลอดภัย เครือข่ายความร่วมมือ การให้ความรู้ ตลอดจนการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งาน โดยในอนาคต ทรูมันนี่ จะยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดการเสริมเกราะป้องกัน และยกระดับภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับคนไทย
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ได้เดินหน้าปกป้องผู้ใช้งานจากภัยไซเบอร์ผ่าน 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่
- เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุก โดยเราได้พัฒนาระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น ที่เรียกว่า TrueMoney 3X Protection ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ตรวจ จับ และหยุดพฤติกรรมฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม อุปกรณ์ และตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์ เพื่อหยุดธุรกรรมต้องสงสัยก่อนเกิดความเสียหาย
- ความร่วมมือเชิงลึกกับภาครัฐ ผ่านการแจ้งเตือนบัญชีต้องสงสัยและสนับสนุนข้อมูลวิเคราะห์เพื่อใช้ในกระบวนการสืบสวนแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาครัฐ
- การสื่อสารเพื่อสร้างความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ให้กับผู้ใช้และประชาชน ผ่านแพลตฟอร์มและสื่อในเครือข่ายของทรูมันนี่ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
- การตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งาน ที่พร้อมประสานหน่วยงานภาครัฐและให้คำปรึกษาในการดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีบริการสายด่วนแจ้งเหตุต้องสงสัยและภัยทางการเงินผ่านเบอร์ 1240 กด 6 สำหรับรับแจ้งเหตุฉุกเฉินและอายัดบัญชีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ทรูมันนี่ ในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่มั่นคง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตและทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ
ปัจจุบัน อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภัยหลอกลวงจากการให้โอนเงิน ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของจำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย
ข้อมูลล่าสุดจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 - พฤษภาคม 2568 มีคดีออนไลน์สะสมแล้วกว่า 900,000 เรื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสูงถึง 77 ล้านบาทต่อวัน
โดย 5 อันดับคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่
- การหลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ 44.85%
- การหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน 12.40%
- การหลอกให้กู้เงิน 9.29%
- การหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 7.27%
- การข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) 6.46%
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการหลอกลวงที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวที่ประชาชนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน
ในอนาคต ทรูมันนี่ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและมีเแผนเปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างระบบนิเวศการเงินดิจิทัลที่ยั่งยืน