กัมพูชาเรียกร้องสันติ เตือนไทยหยุดละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 วุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ตำหนิพฤติกรรมของกองทัพไทยที่ระบุว่า ก้าวร้าวโดยเจตนาและผิดกฎหมาย จากเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกัน
แถลงการณ์ชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้กับปราสาทตามเมืองโต๊ด, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, พื้นที่มอมเบย (ช่องบก) และจุดอื่นๆ ที่ทางกัมพูชายืนยันว่าอยู่ในเขตแดนของตนตามกฎหมายและแผนที่ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมกล่าวหาว่าการกระทำของฝ่ายไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ
สาระสำคัญของแถลงการณ์
1. ประณามการใช้กำลังของกองทัพไทย ที่กัมพูชาระบุว่า เป็นการรุกรานด้วยอาวุธและส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ถือเป็นการละเมิดมาตรา 2 (4) แห่งกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งห้ามมิให้รัฐใดใช้กำลังต่ออธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐอื่น
2. ยืนยันสิทธิ์ในการป้องกันตนเอง ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรฯ โดยระบุว่ากองทัพกัมพูชากำลังดำเนินการอย่างมืออาชีพและอดกลั้น เพื่อปกป้องดินแดนและความปลอดภัยของประชาชน
3. ยืนยันพื้นที่พิพาทเป็นของกัมพูชา ทั้งตามข้อตกลงระหว่างประเทศ แผนที่ที่ได้รับรอง และแนวทางกฎหมายสากล โดยเน้นว่าการประจำการของกองทัพกัมพูชาในพื้นที่เหล่านั้นเป็นไปตามสิทธิอธิปไตย
4. ประกาศสนับสนุนผู้นำสูงสุดของประเทศ คือ สมเด็จเตโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และสมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ที่กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็น การรุกรานจากต่างชาติ
5. ชื่นชมกองทัพกัมพูชา ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
6. เรียกร้องประชาคมโลก รวมถึงองค์การสหประชาชาติ อาเซียน และประเทศที่รักสันติให้ดำเนินการตอบโต้การละเมิดดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและจริงจัง
ทั้งนี้ สถานการณ์ยังคงตึงเครียดต่อเนื่องตามแนวชายแดน ขณะที่ทางฝั่งไทยยังไม่มีแถลงการณ์ตอบโต้จากระดับรัฐบาลกลางในขณะนี้