สรุป 6 ประเด็นหลักในการประชุมร่วม GBC วันแรกที่มาเลเซีย
วันที่ 4 ส.ค. 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (General Border Committee: GBC) ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในระดับกองเลขานุการ โดยเป็นการหารือเตรียมความพร้อมระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นเวทีความร่วมมือทวิภาคีที่สำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนภายหลังเหตุปะทะช่วงที่ผ่านมา
การประชุมระดับฝ่ายเลขาฯ (ตัวแทนของ 2 ฝ่าย) ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4–6 สิงหาคมนี้ มีเป้าหมายเพื่อกำหนดกรอบวาระการประชุมและรายละเอียดของประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายจะนำไปหารือในระดับรัฐมนตรีในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
โดยวันแรก-ฝ่ายไทยนำโดยเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย และประกอบด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับประเด็นสำคัญที่อยู่ในวาระหารือครั้งนี้ มีอย่างน้อย 6 เรื่องหลัก ได้แก่:
1. การคงไว้ซึ่งสถานะหยุดยิงในพื้นที่ปะทะ
ภายหลังจากการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา การประชุม GBC ถือเป็นกลไกทางทหารอย่างเป็นทางการ ที่จะช่วยประคองสันติภาพบริเวณชายแดนให้ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงการปะทะซ้ำ
2.การถอนกำลังและการจัดโซนปลอดภัย
คาดว่าจะมีการเสนอรูปแบบและขอบเขตของพื้นที่ปลอดทหาร หรือกลไกกำกับดูแลที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับได้ เพื่อลดความตึงเครียดในระยะยาว
3. การสอบสวนและประเมินผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหยุดยิง
รวมถึงการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสูญเสียทั้งกำลังพลและพลเรือน ซึ่งจะมีผลต่อความไว้วางใจและความสัมพันธ์ระหว่างกัน
4. การจัดตั้งช่องทางประสานงานระดับพื้นที่
โดยเฉพาะในเขตชายแดนสำคัญ เช่น ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้สามารถติดต่อกันได้โดยตรงในสถานการณ์ฉุกเฉิน และป้องกันความเข้าใจผิดที่จะนำไปสู่เหตุรุนแรง
5. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคง
ฝ่ายไทยคาดหวังให้มีระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยข่าวกรอง เพื่อยับยั้งภัยคุกคามล่วงหน้า และลดการปะทะจากความเข้าใจผิด
6. การฟื้นฟูความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสังคมตามแนวชายแดน
โดยเฉพาะการเปิดด่านผ่านแดนชั่วคราวในพื้นที่ที่ยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจแก่ชาวบ้านทั้งสองฝั่ง
การประชุมในวันที่ 7 ส.ค. นี้ จะเป็นการหารือในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยฝ่ายไทยจะนำคณะโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอก เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา
การประชุมวันดังกล่าวจะมีผู้แทนจากประเทศที่เป็นคู่เจรจาด้านความมั่นคงในภูมิภาค ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และมาเลเซีย เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักในทางการทูต และสร้างแรงกดดันให้ทั้งสองประเทศดำเนินการเจรจาอย่างจริงจัง