เบื้องหลัง COP30 บราซิล Parque da Cidade พื้นที่สีเขียวกลางเบเลง
บราซิล เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ COP30 มีแผนที่จะจัดการประชุมระดับโลกครั้งใหญ่ ณ เมืองท่าเบเลง บนชายแดนของแม่น้ำอเมซอน เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของป่าฝนในการรักษาเสถียรภาพของสภาพภูมิอากาศของโลก และจะเดินหน้าต่อไปได้ด้วยการเจรจาที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์การนำไปปฏิบัติในประเด็นสำคัญสำหรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสและมาตรา 6 ของตลาดคาร์บอนในบราซิล
เมืองเบเลง เปิดตัว Parque da Cidade พื้นที่ป่าในเมืองขนาดใหญ่กว่าครึ่งล้านตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่สีเขียว แหล่ง น้ำเส้นทางจักรยาน ทางเดิน อุปกรณ์กีฬาพื้นที่สังคมและอาหารและโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่
Parque da Cidade สวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางเมืองเบเลง ประเทศบราซิล กำลังถูกจับตามองในฐานะสถานที่หลักของการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศโลก COP30 ที่จะจัดขึ้นในปี 2025 ทั้งในแง่ของบทบาทเจ้าภาพของภูมิภาคอเมซอน และศักยภาพของพื้นที่สีเขียวที่ถูกปรับใช้เป็นเวทีสำคัญสำหรับการเจรจาเปลี่ยนผ่านสู่โลกคาร์บอนต่ำ
พื้นที่ใจกลางการประชุมว่าด้วยสภาพอากาศของสหประชาชาติในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีสวนสเก็ตขนาดโอลิมปิก ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของบราซิล และอุปกรณ์ทันสมัยสำหรับชื่นชมธรรมชาติ สวนนี้จะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ก่อนที่คณะผู้แทนจะมาถึงด้วยซ้ำ
ต้นไม้กว่า 2,500 ต้นที่ปลูกหรือย้ายปลูกโดยใช้ต้นมะฮอกกานี ต้นอิเป และต้นอาซาอิ ล้วนอยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์ทั้งสิ้น โดยกระจายพันธุ์อย่างระมัดระวังในภูมิทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างป่าอเมซอนกับสถาปัตยกรรม
ที่นี่เป็นสถานที่ที่ UN จะติดตั้งโครงสร้างสำหรับ COP30 ซึ่งก็คือ Blue Pavilion และ Green Pavilion ที่ เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งเป็นที่ที่ใช้สำหรับการเจรจาระหว่างรัฐบาลและการสนทนาระหว่างภาคส่วนตามลำดับ
หลังจากการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศแล้ว สวนสาธารณะจะกลายเป็นพื้นที่สาธารณะในเมือง ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ในภูมิภาคเหนือซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่และมีไว้สำหรับให้ประชากรของเมืองเบเลงใช้
บราซิลมีประสบการณ์มากมายในการจัดงานระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหรือการประชุมสุดยอดระดับนานาชาติ รวมถึงการประชุมสุดยอดโลกที่ก่อตั้งองค์กรด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ แต่ที่เบเลงไม่มีประสบการณ์ เนื่องจากขณะนี้ทางการกำลังเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน