SPALI เจอศึกหนัก คาดกำไรQ2ที่1.49 พันลบ.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 25 ก.ค. เวลา 12.41 น. • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SPALI แม้จะปรับลดราคาเป้าหมายลง 33% เหลือ 16 บาทแต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท
โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.62 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.08 เท่า ระดับหนี้ที่ต่ำนี้ช่วยให้ SPALI มีความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในการรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอนเราคาดว่า SPALI จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจถึง 9.1% โดยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16 บาทคำนวณจากค่า P/E (อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น) เป้าหมายที่ 5.4 เท่าลดลงจากเดิมที่ 6.9 เท่าเพื่อสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวและแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ซบเซา
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม SPALI ได้จัดการประชุมนักวิเคราะห์ซึ่งเรามีมุมมองเชิงลบโดยผู้บริหารยอมรับว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดโดยกล่าวถึงแนวโน้มการถูกปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และจำนวนผู้เข้าชมโครงการที่ลดลงส่งผลให้บริษัทมีแผนเลื่อนการเปิดตัวโครงการคอนโดบางส่วนออกไปเป็นปีหน้ากลุ่มลูกค้าอายุ 31 ถึง 35 ปียังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักและผู้บริหารระบุว่าสัดส่วนลูกค้ากลุ่มอายุ 26 ถึง 30 ปีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักในการพัฒนาโครงการในอนาคต
ปรับลดประมาณการกำไร
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ถึง 2569 ลง 12% หลังจากปรับสมมติฐานตามผลประกอบการไตรมาส 1/2568 และประมาณการผลประกอบการไตรมาส 2/2568 เราคาดว่า SPALI จะเผชิญความท้าทายที่สำคัญในปี 2568 โดยเฉพาะผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม และ ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2/2568
SPALI มีกำหนดประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ในวันที่ 13 สิงหาคมโดยคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.49 พันล้านบาทลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ เพิ่มขึ้น 267% จากไตรมาสก่อนหน้า การลดลงรายปี คาดว่าเกิดจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญส่วนการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แบบก้าวกระโดดมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเช่นการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองและการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ Loan-to-Value (LTV) (อัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน)
สรุป
• แนะนำ “ซื้อ”
• ราคาเป้าหมายใน 12 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 16.00 บาท
• คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2568 จะอยู่ที่ 5,302 ล้านบาท และ ในปี 2569 จะอยู่ที่ 5,829 ล้านบาท