“ปัญหาไม่รู้จบ” เงินทอง-ผู้หญิง และโทรมือถือ.. .. ในหมู่บรรพชิต!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีข่าวที่น่าสังเวชยิ่ง เกิดขึ้นอีกครั้งในแวดวงภิกษุสงฆ์ในบ้านเรา เมื่อ พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือที่รู้จักกันในนาม เจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ ได้ลาสิกขา โดยมีการวิจารณ์สะพัดวงการสงฆ์ ถึงสาเหตุในการสึกที่น่าจะมาจากความสัมพันธ์กับผู้หญิง..
กรณี เจ้าคุณอาชว์ และ เจ้าคุณแย้ม .. ที่เป็นข่าวไปก่อนหน้าแล้วนั้น.. ที่ล้วนเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวง.. และเป็นเจ้าคณะภาคเหมือนกัน น่าจะเป็นกรณีศึกษาของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะ “มหาเถรสมาคม” เพื่อนำมาทบทวนเรื่องการบริหารคณะสงฆ์ ว่า อะไรเป็นจุดอ่อน-จุดแข็ง.. โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการศึกษาปฏิบัติของคณะสงฆ์ ว่ายังดำเนินไปตามหลักไตรสิกขาอยู่หรือไม่..
จริงๆ แล้ว คงมิได้เป็นเรื่องใหม่ในกรณีที่พระรูปหนึ่งรูปใด จะกระทำอาบัติใหญ่ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาออกไปจากสมณเพศ.. แต่ด้วยกรณี เจ้าคุณอาชว์.. เจ้าคุณแย้ม.. หรือหลายเจ้าคุณที่จะเกิดในต่อไป มิได้เป็นพระเล็กเณรน้อยโดยทั่วไป อันควรแก่การมองข้าม…..
ด้วยทั้งมีฐานะ ยศศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่ อันแสดงถึงได้รับการคัดเลือกแล้วจากพระผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่หัวหน้าปกครองคณะสงฆ์ จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ-ชั้นธรรม ที่น่าสนใจพิจารณายิ่ง คือ การได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นพระสังฆาธิการฝ่ายปกครอง ทั้งที่เป็นเจ้าอาวาส.. และเป็นเจ้าคณะฝ่ายปกครองในระดับเจ้าคณะภาค.. ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องคำนึงถึงคุณวุฒิ.. วัยวุฒิ และธรรมวุฒิ ตามอริยประเพณี…
โดยเฉพาะ กรณี เจ้าคุณอาชว์ ที่เป็น พระเถระฝ่ายคณะสงฆ์ธรรมยุต ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้ใหญ่ ให้ทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วยเลขาธิการคณะสงฆ์ธรรมยุต ซึ่งนอกจากเป็น เจ้าคณะภาค แล้ว ยังมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการมีส่วนในการบริหารปกครองคณะสงฆ์ธรรมยุต ที่รับทราบกันดี โดยเฉพาะใน กรรมการเถรสมาคมธรรมยุต..
จึงได้เห็นกิจการต่างๆ ของคณะสงฆ์ธรรมยุตที่มี เจ้าคุณอาชว์ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนถวายงานใกล้ชิด สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขาธิการคณะธรรมยุต.. อันเป็นเครื่องประกันคุณภาพของ เจ้าคุณอาชว์ ว่าได้รับการคัดเลือกมาแล้วอย่างดี
เมื่อมีข่าวฉาวเกิดขึ้นในกรณี อดีตเจ้าคุณอาชว์ จึงเหมือนฟ้าผ่าลงกลางวงคณะสงฆ์ธรรมยุต ให้มึนงง..ไปตามกัน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดา.. ในยุคสมัยดิจิทัล ที่อะไรๆ ย่อมจักเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น.. ซึ่งอย่าว่าแต่ระดับเจ้าคุณอาชว์เลย..
..จึงเป็น Aftershock ในแวดวงสงฆ์ (ธรรมยุต) ที่ยิ่งกว่ากรณี เจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง.. (มหานิกาย) ที่ส่งผลอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกของพระภิกษุ-สามเณร และอุบาสก-อุบาสิกา ในแวดวงศาสนาบ้านเรา ที่จะนำไปสู่การไม่ไว้วางใจแม้ในความเป็นพระเถระทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีสมณฐานะ.. ตำแหน่งหน้าที่ และอายุกาลพรรษาอันใด..
จึงเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ที่คณะสงฆ์ไทยจะต้องตื่นขึ้นมารับรู้ในความเป็นจริงดังกล่าว.. เพื่อร่วมกันนำ ศาสนนาวา ลำนี้ ฝ่าฟันผ่านคลื่นปัญหาอุปสรรคไปให้ได้ แม้จะต้องเผชิญกับ Aftershock ลูกแล้วลูกเล่า… โดยจะต้องยอมรับในความเป็นจริงว่า การจัดการบริหารปกครองในแวดวงสงฆ์ ในปัจจุบันนั้น ควรแก่การพิจารณา..
มิฉะนั้นแล้วคงจะได้เห็นปัญหาในแวดวงสงฆ์ที่ซ้ำๆ ซากๆ อยู่กับ เรื่องเงินทองและผู้หญิง..
ยิ่งในกรณี ห้ามภิกษุ-สามเณรรับเงินทอง ที่พระภิกษุส่วนใหญ่ยังฝ่าฝืนอยู่ ทั้งๆ ที่มีบัญญัติห้ามยินดีในการที่มีผู้รับให้ หรือเขาเก็บไว้ให้ ห้ามกระทำการแลกเปลี่ยนด้วย รูปิยะ ก็ตาม
จึงน่าศึกษายิ่ง ว่า.. ทำไม พระส่วนใหญ่ยังไม่ถือปฏิบัติ ทั้งๆ ที่ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ชัดเจนแล้ว ที่มีอยู่ใน หมวดนิสสัคคียปาจิตตีย์ ดังปรากฏอยู่ในข้อ ๑๘ - ๑๙ - ๒๐ (โกสิยวรรค) โดยเฉพาะในข้อที่ ๒๐ ห้ามภิกษุใดถึงการซื้อและการขายมีประการต่างๆ…
และทั้งๆ ที่ทรงหาทางออกไว้ให้แล้ว เพื่อการดำรงอยู่ของพระภิกษุในทุกสมัย ที่ต้องมีปัจจัยอันควรแก่สมณสารูป โดยทรงอนุญาตให้ภิกษุยินดีใน กัปปิยภัณฑ์ คือ สิ่งอันควรสำหรับสงฆ์ อันได้มาจากทองและเงินที่มีผู้ถวายไว้แก่ กัปปิยการก(ศิษย์) แต่มิให้ยินดีในการแสวงหาทองและเงินด้วยตนเอง
โดยได้ทรงกล่าวไว้ว่า.. ทองและเงินไม่ควรแก่สมณศากยบุตร.. ทองและเงินควรแก่ผู้ใด เบญจกามคุณก็ควรแก่ผู้นั้น.. เธอพึงจำไว้ เบญจกามคุณ มิใช่ธรรมของสมณะ มิใช่ธรรมของศากยบุตร
นอกจาก ทรงบัญญัติห้ามมิให้ยินดี.. หรือแสวงหาในทองและเงินแล้ว ยังได้ทรงมีพระมหากรุณาสั่งสอนในวิธีปฏิบัติในสตรีของพระภิกษุ คือ
๑.ไม่พึงดู..
๒.หากมีการดู.. พึงไม่พูดด้วย..
๓.หากต้องพูดด้วย.. พึงตั้งสติไว้…
จริงๆ แล้ว.. หากพระภิกษุ-สามเณรถือปฏิบัติตรงตามพระพุทธพจน์ ดังปรากฏเป็น พระธรรมวินัย ตามที่กล่าวมา.. ปัญหาตามที่ปรากฏ ย่อมยากจะเกิดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหละหลวม เหลวไหล ในหมู่พวกที่เรียกตนเองว่าเป็นพระภิกษุ.. เป็นสมณะ.. ซึ่งนับวันยิ่งหนักขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการรับเงินทอง.. ที่เป็นสาเหตุชักนำสู่กามคุณ
ยิ่งเมื่อโลกสมัยเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่เต็มไปด้วยกระแสไอที โดยมี โทรศัพท์มือถือ เป็นวัตถุเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อชาวโลก ที่สามารถเข้าถึง ใกล้ชิด และจัดสัมพันธ์กันได้อย่างรวดเร็วตามความปรารถนา.. ปัญหาทางกามคุณต่อบรรพชิตยิ่งมากขึ้น ทั้งนี้ ด้วยแวดวงนักบวชทั้งหลายที่ยังนิยมเสพคบวัตถุไอทีเหมือนกับชาวโลก.. การไม่ยอมรับ ไม่ยอมเข้าใจ ว่า โทรศัพท์มือถือแบบไอที ว่าเป็นวัตถุกามอันทรงอิทธิพลต่อจิตวิญญาณของผู้เสพคบ.. ด้วยสามารถใช้แทนเงินทอง.. ทำธุรกรรมทางโลกได้ทุกชนิด ที่สำคัญคือ การชักนำไปดู ไปเห็น.. เข้าไปพูดคุย สัมผัสทางความรู้สึกได้เสมือนจริง..
อะไรๆ จึงเกิดขึ้นได้อย่างไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาเชื่อมประสานระหว่าง พระ-ผู้หญิง และเงินทอง ผ่านโทรมือถือยุคไอที ที่ควรพิจารณาอย่างยิ่งว่า.. พระภิกษุ-สามเณร ควรครอบครองหรือไม่.. ควรใช้หรือไม่.. และหากจะครอบครอง.. จะใช้.. ควรปฏิบัติอย่างไรไม่ให้ผิดพระวินัย…
ในเรื่องดังกล่าว.. ต้องขอกราบขอบคุณ พระพรหมวชิรากร วัดราชผาติการาม ที่พยายามรณรงค์เรื่องการให้เห็นโทษภัยของการใช้โทรศัพท์มือถือในแวดวงสงฆ์ที่จะชักนำเข้าไปเกาะเกี่ยวติดกับดอกไม้มาร.. เพื่อจะได้ไม่เกิดเป็นปัญหา ดังกรณี เจ้าคุณอาชว์.. เจ้าคุณแย้ม.. และอีกหลายๆ.. ในโอกาสต่อไป!!.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com