บ.วัฒนาเฮลธ์ จับมือ ม.นครพนม เปิด “ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์” ขับเคลื่อนสุขภาพเชิงรุกในลุ่มน้ำโขง
บ.วัฒนาเฮลธ์ จับมือ ม.นครพนม เปิด “ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์” ขับเคลื่อนสุขภาพเชิงรุกในลุ่มน้ำโขง
บริษัท วัฒนาเฮลธ์ จำกัด ผู้เชื่อมต่อสุขภาพชุมชนสู่มาตรฐานโรงพยาบาลใน เครือโรงพยาบาลวัฒนา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนครพนม และพันธมิตรเฮลธ์เทค “อินโนแลบ” ผู้เชี่ยวชาญด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และการจัดการข้อมูลสุขภาพดิจิทัล ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยนครพนม” โดยมี ดร.ณัฐธิรา ตั้งสืบกุล, พญ.พีรวรรณ จังศิริวัฒนธำรง, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์, นายโกสินทร์ ชัยชาญ ร่วมงาน โดยโครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาเครือข่ายสุขภาพเชิงรุกในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตอนบน ครอบคลุมการตรวจคัดกรองเบื้องต้น การจัดเก็บข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ ไปจนถึงการเชื่อมโยงบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานโรงพยาบาล ด้วยต้นทุนที่เข้าถึงได้ เหมาะกับชุมชน ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพเชิงรุกของประชาชน โดยเฉพาะในเขตสุขภาพที่ 8 ครอบคลุมจังหวัดนครพนม อุดรธานี สกลนคร เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ
ดร.ณัฐธิรา ตั้งสืบกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัฒนาเฮลธ์ จำกัด ใน เครือโรงพยาบาลวัฒนา กล่าวว่า ทุกชุมชนควรได้รับการดูแลสุขภาพด้วยมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนครพนม ในการพัฒนาศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่ดี มีคุณภาพ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง เสมือนเป็น ผู้เชื่อมต่อสุขภาพชุมชนสู่มาตรฐานโรงพยาบาล โดยตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา เราให้บริการทางการแพทย์ในฐานะโรงพยาบาลเอกชนในภูมิภาคด้วยความตั้งใจว่า คนในพื้นที่ห่างไกลก็ต้องได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับในเมืองใหญ่ ความร่วมมือในครั้งนี้กับมหาวิทยาลัยนครพนม ไม่ใช่แค่การตั้งศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ แต่เป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพในระดับท้องถิ่น โดยเราออกแบบให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย บริการชัดเจน ไม่ซับซ้อน และราคาที่เป็นมิตร อีกมิติที่เราภูมิใจคือการได้ร่วมพัฒนาคนรุ่นใหม่ในสายสุขภาพ ผ่านการฝึกงาน การเรียนรู้จากของจริง หน้างานจริง
“เราเชื่อว่าหากเราปั้นคนให้มีทั้งทักษะและหัวใจของความเป็นนักวิชาชีพ จะเกิดผลกระทบเชิงบวกต่อระบบสุขภาพทั้งภูมิภาคในระยะยาว” ดร.ณัฐธิรา กล่าว
ด้านศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาสุขภาพประชาชนภายใต้แนวคิด “การดูแลสุขภาพที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง” ศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงรุกระดับภูมิภาค ที่ให้บริการตรวจสุขภาพพื้นฐาน ตรวจเฉพาะทาง และการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับประเทศและนานาชาติ พร้อมเชื่อมโยงนวัตกรรมข้อมูลสุขภาพแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัยและติดตามผลอย่างแม่นยำ
โดยศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์แห่งนี้จะไม่ใช่แค่ศูนย์สุขภาพเท่านั้น แต่คือศูนย์แห่งการเรียนรู้ นวัตกรรม และโอกาสในการร่วมพัฒนาชุมชน เรามุ่งหวังให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่สร้างทั้งคุณภาพชีวิตและคุณภาพคนในพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยนครพนม มีเป้าหมายชัดเจนในการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน และการเป็นฐานผลิตกำลังคนด้านสุขภาพที่ตอบโจทย์พื้นที่จริง โดยเฉพาะในเขตลุ่มน้ำโขงที่ยังต้องการระบบบริการที่เข้าถึงได้ ความร่วมมือกับภาคเอกชนอย่างโรงพยาบาลวัฒนาในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยเติมเต็มทั้งในแง่ของประสบการณ์จริงให้กับนักศึกษา และบริการสุขภาพที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่ เรามีความพร้อมทั้งด้านสถานที่ ทรัพยากร และบุคลากรทางวิชาการ เพื่อทำให้ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์แห่งนี้ไม่ใช่แค่ ‘จุดตรวจสุขภาพ’ แต่เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ วิจัย และพัฒนาระบบสุขภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาคนี้”
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า รายละเอียดความร่วมมือครั้งนี้ ครอบคลุมระยะเวลา 10 ปี (1 เมษายน 2568 – 31 มีนาคม 2578) มุ่งเน้นให้ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ตับ ไต ได้รับการตรวจคัดกรอง รักษา และติดตามอย่างเป็นระบบในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคพัฒนาไปสู่ภาวะเรื้อรัง ขอบเขตบริการของศูนย์ฯ ได้แก่: บริการตรวจสุขภาพพื้นฐาน (ความดัน ไขมัน น้ำตาล ตรวจตับ ไต และปัสสาวะ) ตรวจเฉพาะทาง (มะเร็ง ฮอร์โมน ภาวะโภชนาการ พันธุกรรม เวชศาสตร์ชะลอวัย) บริการเชิงอาชีวเวชศาสตร์ ตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตรวจโรคติดต่อ โรคระบาด เชื้อไวรัส-แบคทีเรีย ที่มีผลต่อสุขภาพชุมชน รองรับระบบประกันสุขภาพ “30 บาทรักษาทุกที่” แบบไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า นอกจากให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป (60%) ศูนย์ฯ ยังรองรับหน่วยงานรัฐ-เอกชน (30%) และบุคลากรทางการศึกษา/ผู้สูงอายุ (10%) โดยตั้งเป้าให้ประชาชนกว่า 80% เข้าถึงบริการตรวจสุขภาพคุณภาพ พร้อมยกระดับสุขภาวะของผู้มีโรคเรื้อรังให้ดีขึ้นอย่างน้อย 50% และเพิ่มรายได้จากบริการสุขภาพเชิงรุกได้อีก 20% โดยพันธมิตรเฮลธ์เทค “อินโนแลบ” ผู้เชี่ยวชาญด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และการจัดการข้อมูลสุขภาพดิจิทัล จะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านการวิเคราะห์ทางห้องแล็บ และระบบข้อมูลสุขภาพดิจิทัล เพื่อให้บริการตรวจวินิจฉัยมีความแม่นยำ ปลอดภัย และทันสมัยตามมาตรฐานสากล
ด้าน นายโกสินธ์ ชัยชาญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนแลบ จำกัด กล่าวว่า อินโนแลบในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสุขภาพ มีความยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ ด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การจัดการข้อมูลสุขภาพของประชาชนเป็นไปอย่างแม่นยำ ปลอดภัย และใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่ เราเชื่อว่า หากประชาชนสามารถเข้าถึงผลตรวจสุขภาพของตนเองได้สะดวกขึ้น ก็จะนำไปสู่การวินิจฉัยที่แม่นยำ การดูแลสุขภาพที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะเสริมให้ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์แห่งนี้ตอบโจทย์ในเชิงระบบได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น
อนึ่ง การร่วมมือดังกล่าว นับเป็นมิติด้านการศึกษาและการวิจัยใหม่ๆ โดย ศูนย์ฯ แห่งนี้ จะเป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกปฏิบัติด้านเทคนิคการแพทย์ให้กับนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยนครพนม สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางห้องปฏิบัติการที่ตอบโจทย์จริงในพื้นที่ พร้อมเป็นต้นแบบของความร่วมมือภาคการศึกษาและเอกชนในการขับเคลื่อน “นครพนมโมเดล” สู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพแห่งอนาคตในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และภูมิภาคอินโดจีนในระยะยาว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บ.วัฒนาเฮลธ์ จับมือ ม.นครพนม เปิด “ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์” ขับเคลื่อนสุขภาพเชิงรุกในลุ่มน้ำโขง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th