เศรษฐกิจไทยน่าห่วง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม 2568 พบว่าเศรษฐกิจโดยรวมมีสัญญาณ ชะลอตัวเล็กน้อย จากเดือนก่อนหน้า โดยได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมและบริการที่ลดลง ขณะที่การส่งออกยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงจากการเร่งผลิตในเดือนก่อน และผลกระทบชั่วคราวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน ขณะเดียวกัน ภาคบริการด้านการค้าและท่องเที่ยวหดตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางระยะไกล เช่น จากยุโรปและออสเตรเลีย
แม้ภาคการท่องเที่ยวอ่อนแรง แต่ ภาคส่งออก กลับเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ทุเรียน และหม้อแปลงไฟฟ้า จากอุปสงค์ทั่วโลกที่ฟื้นตัว และการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้
ด้านการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมทรงตัว หมวดสินค้าคงทนยังโตต่อเนื่อง ส่วนหมวดบริการและสินค้าไม่คงทนปรับลดลง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นหลัก
สำหรับรายได้เกษตรกรลดลงจากราคาสินค้าเกษตรที่อ่อนตัว โดยเฉพาะข้าว ยางพารา ทุเรียน และมันสำปะหลัง แม้ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
ภาครัฐ มีการใช้จ่ายลดลงเทียบกับปีก่อน จากฐานเบิกจ่ายที่สูงในช่วงต้นปีหลังงบประมาณปี 2567 มีผล ด้าน ตลาดแรงงาน ปรับดีขึ้นตามการจ้างงานภาคผลิต ขณะที่ เงินเฟ้อทั่วไป ติดลบต่อเนื่องที่ -0.57% แต่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสำเร็จรูป
ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้นตามภูมิภาค จากการคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนตัว ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลลดลงจากดุลการค้าที่กลับมาเกินดุล
ธปท. คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจช่วงถัดไปยังมีแรงกดดันจากภาคท่องเที่ยวและการส่งออกที่อาจชะลอตัว ขณะที่ยังต้องจับตานโยบายการค้าระดับโลก พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด
เราห่วงใยเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป ที่ยังคงต้องเผชิญแรงกดดันจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และความผันผวนของการค้าโลก รวททั้งปัจจัยการเมืองทั้งภายในและปัญหาความมั่นคง