นักวิชาการวิเคราะห์ "การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม" จากมุมมองอดีตนายกฯ
วันที่ 7 ก.ค.68 รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล บทวิเคราะห์ เรื่อง "การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม" ผลงานเขียนของ ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร ระบุว่า ….
ความสำคัญของการยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม
ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร เน้นย้ำว่า "การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เป็นคุณธรรมที่สูงส่งทรงคุณค่า และมีความสำคัญต่อสังคมส่วนรวมยิ่งไปกว่าคุณธรรมอื่นใด เป็นการรวมเอาคุณธรรมประการอื่นๆ ไว้ด้วยแล้วในตนเอง" ท่านชี้ให้เห็นว่าคุณธรรมนี้เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง และเป็นคุณธรรมที่ประชาชนคนไทยต้องยึดมั่นไว้เพื่อประพฤติตนให้อยู่ในกรอบของคุณงามความดี กฎหมาย และศีลธรรม
สถานการณ์คุณธรรมในสังคมไทยปัจจุบันและผลกระทบ
บทความวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของสังคมไทยที่ "ความเจริญทางด้านจิตใจของสังคมไทยกำลังเสื่อมถอย สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ตามใจตนเองอย่างไม่มีขอบเขต (A PERMISSIVE SOCIETY) มักง่าย ไร้ระเบียบวินัย และไม่นำพาต่อกฎหมายบ้านเมือง" ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น อาชญากรรม การฉ้อราษฎร์บังหลวง การซื้อสิทธิขายเสียง และระบบอุปถัมภ์ ล้วนเป็นเสมือน "เนื้อร้ายที่ฝังรากลึกคอยกัดกินและบ่อนทำลายบ้านเมืองตลอดมา"สาเหตุสำคัญของปัญหานี้คือ แม้ประชาชนจะมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมอยู่บ้างแล้ว "แต่ความเข้าใจนั้นหาได้เข้าถึงส่วนลึกในจิตใจของประชาชนไม่ คนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญและไม่นำไปปรับใช้ในชีวิตจริง"
แนวทางการแก้ไข ปลูกฝังคุณธรรมจากภายใน
ศาสตราจารย์ธานินทร์เสนอว่าหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาคือ "ต้องแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา เมื่อเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเป็นเรื่องของจิตใจเราก็ต้องแก้ไขที่จิตใจเสียก่อน". ท่านยกตัวอย่างการอบรมสั่งสอนเยาวชนของประเทศอังกฤษที่เน้นการเป็น "เด็กดี" ก่อน "เด็กเก่ง". โดยมีคติธรรม 7 ประการ ได้แก่ สัจจะ (TRUTH) ความซื่อสัตย์สุจริต (HONESTY) , ความระลึกในหน้าที่ (SENSE OF DUTY), ความอดกลั้น (PATIENCE) ความเป็นธรรม (FAIR PLAY) ความเอาใจเขามาใส่ใจเรา (CONSIDERATION FOR OTHERS) และเมตตาธรรม (KINDNESS) คติธรรมเหล่านี้เมื่อครบถ้วนจะก่อให้เกิด "INTEGRITY" ซึ่งหมายถึง "STRENGTH AND FIRMNESS OF CHARACTER", "UNCOMPROMISING ADHERENCE TO A CODE OF MORAL VALUES" และ "MORAL UPRIGHTNESS"
สำหรับสังคมไทย ศาสตราจารย์ธานินทร์เสนอให้เพิ่มคติธรรมอีก 5 ประการ ได้แก่ ความกตัญญูกตเวที (GRATITUDE) ความสุภาพนุ่มนวล (POLITENESS) ความคารวะต่อผู้มีอาวุโส (RESPECT FOR ELDERS) รักษาคำพูด (PROMISE) และจิตสำนึกสาธารณะ เสียสละเพื่อส่วนรวม (PUBLIC CONSCIENCE) การปลูกฝังคุณธรรมเหล่านี้จะช่วยให้คนไทยเป็น "คนเต็มคน" ที่มี "INTEGRITY" ประจำตัว
บทบาทของกฎหมายและมาตรการเสริม
บทความชี้ให้เห็นว่าแม้กฎหมายจะเป็นมาตรการสำคัญในการควบคุมสังคม แต่ "กฎหมายนั้นไม่อาจครอบงำความประพฤติคนได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องจิตใจคนนั้นทำต่างกันแสนไกล" ดังนั้น จึงต้องมี "มาตรการด้านคุณธรรมจริยธรรม เข้ามาเสริมมาตรการด้านกฎหมาย เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดแก่สังคมส่วนรวม". มาตรการเหล่านี้รวมถึงการแก้ไขที่จิตใจด้วย "หิริโอตตัปปะ" และ "กฎแห่งกรรม"
การขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์และการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ควรนำแนวคิดเหล่านี้ไปขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์ โดยเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกสาธารณะ คือ"การปลูกฝังและปลูกจิตสำนึกสาธารณะ (PUBLIC CONSCIENCE) นอกจากทำให้ประชาชนมีหิริโอตตัปปะอันจะทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำความชั่วแล้ว เรายังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างให้ประชาชนในชาติมีจิตสำนึกสาธารณะที่จะเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม"
ส่งเสริมมาตรการคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่กับกฎหมาย "เราจำเป็นต้องเร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ ผลักดันให้มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมเป็นวาระแห่งชาติ จัดทำแผนการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกระดับและทุกภาคส่วน มุ่งเน้นการปลูกฝังและรณรงค์ให้ประชาชนยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมทั้งในชีวิตส่วนตัวและในชีวิตการทำงาน"
สร้างความร่วมมือ "เราต้องช่วยกันยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมอย่างแข็งกล้า ช่วยกันปลุกจิตสำนึกแก่สังคมในการทำทางเดียวกัน เพื่อให้การรณรงค์เรื่องคุณธรรมและจริยธรรมในสังคมเดินไปในทิศทางเดียวกัน"
ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาชีพ "การผนึกกำลังกันในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพเดียวกัน (PROFESSIONAL SOLIDARITY) เมื่อท่านทั้งหลายได้หมั่นฝึกอบรมตนเองให้เป็นผู้ที่ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว ท่านยังมีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาให้การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมนี้ หยั่งรากลึกและเจริญงอกงามในจิตใจของผู้คนในสังคมด้วย"
สำหรับประชาชนทั่วไป การประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันสามารถทำได้โดยยึดมั่นในคติธรรม 12 ประการ นำหลักสัจจะ ความซื่อสัตย์ ความระลึกในหน้าที่ ความอดกลั้น ความเป็นธรรม ความเอาใจเขามาใส่ใจเรา เมตตาธรรม ความกตัญญูกตเวที ความสุภาพนุ่มนวล ความคารวะต่อผู้มีอาวุโส การรักษาคำพูด และจิตสำนึกสาธารณะ มาปรับใช้ในทุกการกระทำ
เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมเสมอ แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ท่านต้องเชื่อมั่นว่า "ในท้ายที่สุดความถูกต้องชอบธรรมจะปกป้องตัวท่านเอง"
ตระหนักถึงกฎแห่งกรรม "หากท่านทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้ว ตัวท่านเองก็ไม่มีทางรอดพ้นกฎแห่งกรรมอันเป็นสัจจธรรมไปได้อย่างแน่นอน"
ท้ายที่สุด ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร ได้กล่าวไว้ว่า "ในการดำเนินชีวิตของเรานั้น เราต้องไม่เกรงกลัวสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่ว ไม่ดีงาม เราต้องยืนหยัดด้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าดีงามอันเป็นธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เรารู้ทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้องและเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากยิ่งๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมมิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ" นี่คือหลักสำคัญที่ทุกคนควรยึดถือเพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีคุณธรรม
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก รองศาสตราจารย์ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล