โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธปท. ยกระดับสกัดภัยมิจฉาชีพ กำหนดวงเงินโอน 50,000 บาทต่อวัน เริ่ม ส.ค. 68 นี้

การเงินธนาคาร

อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 20.54 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธปท. ประกาศมาตรการใหม่เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน กำหนดวงเงินโอนต่อวันสูงสุด 50,000 บาทสำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดใช้โมบายแบงก์กิ้ง เริ่ม ส.ค. 68 นี้ และจะขยายให้ครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี

19 ส.ค. 2568 นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐได้มีการตราพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 เพื่อเพิ่มเติมมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงิน (ผู้ประกอบธุรกิจ e-Payment) ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำหนดโดยผู้กำกับดูแล นั้น

ธปท. ได้ประกาศมาตรฐานและมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2568

โดยยึด 5 หลักการสำคัญ ได้แก่

  • แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
  • มีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน
  • สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย
  • ไม่ด้อยกว่ามาตรฐานในต่างประเทศ
  • สร้างความตื่นตัว (awareness) ให้แก่ประชาชน

โดยเนื้อหาของประกาศฉบับนี้มีทั้งส่วนที่นำหลักเกณฑ์ที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งเป็นมาตรการที่ ธปท. ผลักดันในช่วงที่ผ่านมา เช่น มาตรการจัดการบัญชีม้า และส่วนที่กำหนดเพิ่มเติมเพื่อให้เนื้อหาหลักเกณฑ์มีความครอบคลุมเพียงพอ เช่น การแจ้งเตือนลูกค้ากรณีมีเงินออกจากบัญชี

สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

  • การป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (unauthorized payment fraud) และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแอปพลิเคชันที่ให้บริการ mobile banking ได้แก่ การห้ามแนบลิงก์ที่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย การจำกัดการใช้บริการ mobile banking ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้าร่วมกับการตรวจจับการปลอมแปลงชีวมิติในขั้นตอนการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยง การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแอปพลิเคชัน การห้ามแอปพลิเคชันทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในขณะที่มีแอปพลิเคชันอื่นที่มีความเสี่ยงกำลังทำงาน
  • การรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) เพื่อป้องกันบัญชีม้า มีกระบวนการ KYC เพื่อเปิดบัญชีเงินฝาก ทั้งในการแสดงตนของลูกค้า (identification) และการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (verification) ตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
  • การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ให้กำหนดระดับลูกค้าที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าดำ ม้าเทาเข้ม และม้าเทาอ่อน เป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง และต้องมีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงกับลูกค้าในระดับเข้มข้น (Enhanced Customer Due Diligence: EDD) ก่อนให้บริการกับลูกค้ารายดังกล่าว
  • การจำกัดความเสียหายและการจัดการบัญชีม้า เช่น การแจ้งเตือนการทำธุรกรรมทันทีทุกครั้งเมื่อมีการโอนเงินออกจากบัญชีโดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย การระงับการทำธุรกรรมและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล การระงับเงินเข้า การระงับเงินออก และการปฏิเสธการเปิดบัญชีใหม่ สำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าดำ ม้าเทาเข้ม และม้าเทาอ่อน
  • กระบวนการรับแจ้งเหตุภัยทุจริตดิจิทัลที่รวดเร็ว จัดให้มีช่องทางติดต่อเร่งด่วนทางโทรศัพท์ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้เสียหายสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินทั้งในและนอกเวลาทำการ

อย่างไรก็ดี รูปแบบและพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนไปต่อเนื่อง ทำให้ความเสียหายจากภัยทุจริตทางการเงินแม้มีแนวโน้มลดลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง ในครั้งนี้ ธปท. จึงร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทยในการยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน

โดยกำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าบุคคลธรรมดาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้า (Customer Profiling) เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สถิติภัยการเงินจากแอป ฯ ดูดเงินลดลงจาก 7,444 เคสในปี 2566 จนปัจจุบันเหลือ 0 เคสแล้วแต่ยังต้องเฝ้าระวังตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้มีความเสียหายขึ้นอีก นอกจากนี้ธปท.เดินหน้ากวาดล้างบัญชีม้าต่อเนื่อง ณ ก.ค. 2568 มีบัญชีม้าถูกระงับไป 2.8 ล้านบัญชี รายชื่อม้า 1.97 รายชื่อ

โดยสถิติการถูกหลอก พบหลอกให้ลงทุนมีความเสียหายมากที่สุด รองลงมาคือ หลอกโอนเงินรับรางวัล หลอกให้โอนเพื่อหารายได้พิเศษ และหลอกให้กลัวข่มขู่ทางโทรศัพท์ ในเดือนมิถุนายน 2568 พบว่ามีจำนวนเคสความเสียหายจากภัยการเงินทั้งหมด 24,500 กรณี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท ความเสียหายต่อราย 114,000 บาท พบยอดโอนสูงสุดต่อรายการอยู่ที่ 4.9 ล้านบาท

“มิจฉาชีพโอนเงินได้ครั้งละจำนวนมาก ทำให้ถ่ายโอนเงินได้รวดเร็วกักเงินให้เหยื่อได้ยาก ธุรกรรมที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีม้ามูลค่าสูงกว่า 5 หมื่นบาทหรือประมาณ 22% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมดและคิดเป็นประมาณ 76% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด และบอกว่าภายใน 3 นาที เงินโอนออก 50% ของมูลค่าความเสียหาย แต่กว่าเหยื่อจะรู้ตัวและแจ้งข้อมูลเข้าระบบจะช้ากว่า หรือภายใน 19-25 ชม.”

นอกจากนี้พบว่า เด็กและผู้สูงอายุมักเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ โดยกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปพบเสียหายต่อเคสมากสุดที่ 416,453 บาท ส่วนกลุ่มเด็กต่ำว่า 15 ปีมีความเสียหาย 78,468 บาท

นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลัก คือ (1) จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน และ (2) จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า โดยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

โดยหลักการกำหนดวงเงินที่เหมาะสมกับลูกค้า จะแบ่งการกำหนดวงเงินต่อวันไว้ที่ 3 รูปแบบ

  • S คือวงเงินต่อวัน ไม่เกิน 50,000 บาท
  • M วงเงินต่อวันไม่เกิน 200,000 บาท
  • L วงเงินต่อวันเกิน 200,000 บาท

และจัดกลุ่มลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเสี่ยงที่เป็นบัญชีต้องสงสัย ลูกค้าที่ใหม่ไม่เคยมีประวัติกับธนาคาร ไม่เคยยืนยันแหล่งที่มารายได้ จะถูกกำหนดวงเงินในกลุ่ม S คือวงเงินต่อวัน ไม่เกิน 50,000 บาท

แต่หากเป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้วมีประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์/บริการ หรือมี สินทรัพย์กับธนาคารก็จะอยู่ในกลุ่มลูกค้าทั่วไป – รู้จักดี สามารถกำหนดวงเงินได้ทั้ง 3 รูปแบบ ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงวงเงินยังต้องสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนเช่นเดิม

ส่วนลูกค้าเปราะบาง เช่น เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี และผู้สูงอายุ เช่นกลุ่มอายุ มากกว่า65 ปี ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เช่น มีการแจ้งเตือนหากพบว่าจะทำธุรกรรมที่สุ่มเสี่ยง แต่หากแจ้งเตือนแล้วยังยืนยันจะทำธุรกรรมที่เสี่ยงอยู่ดีลูกค้าจะต้องรับผิดชอบความเสียหายนั้นเอง

“กำหนดวงเงินต่อวัน 50,000 บาท จะเริ่มในส.ค.นี้สำหรับลูกค้าสมัคร Mobile Bankingใหม่ และสำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มี Mobile Banking อยู่แล้วจะเริ่มสิ้นปี 68 นี้ การกำหนดวงเงินต่อวันเป้าหมายคือไม่ให้ระบบการเงินของไทยเป็นทางผ่านของเงินมิจฉาชีพ จึงต้องจัดการไม่ให้บัญชีม้าใช้ได้ง่าย ไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกได้มาก และป้องกันเด็กและผู้สูงอายุไม่ให้เสียหาย จึงต้องป้องกันเพิ่มขึ้น กักเงินให้เร็วขึ้น เพราะม้าโอนออกเร็วรู้ตัวช้าเกินไป จึงต้องมีมาตรการสกัดไม่ให้เงินออก โดยมาตรการนี้ธนาคารต้องเชตให้มีวงเงินเหมาะกับลูกค้าแต่ละคนโดยตรวจจับจากพฤติกรรม”

ในการนี้ ธปท. ได้กำหนดให้ธนาคารต้องมีแนวทางลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อลูกค้าด้วย เช่น มีกระบวนการรองรับกรณีลูกค้ามีความจำเป็นฉุกเฉินต้องโอนเงินหรือชำระเงินสูงกว่าวงเงินต่อวันที่โอนได้ โดยให้ธนาคารดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้บริการ mobile banking หรือ internet banking ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และกลุ่มลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568

ธปท. มุ่งหวังว่าการยกระดับการจัดการภัยทุจริตทางการเงินในครั้งนี้ จะช่วยป้องกันและจำกัดความเสียหายของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ รวมถึงช่วยให้สามารถกักเงินที่มิจฉาชีพได้มีจากการกระทำความผิดได้ทันกาล เพื่อเพิ่มโอกาสที่ผู้เสียหายได้รับเงินคืนได้มากขึ้น
นอกจากการกำหนดวงเงิน ธนาคารยังเน้นการใช้เทคโนโลยีในการสแกนใบหน้าและตรวจจับพฤติกรรมการทำธุรกรรม เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยสูงสุด ลดช่องว่างที่มิจฉาชีพอาจใช้หลบเลี่ยงมาตรการ ทั้งนี้ยังมีการสื่อสารและแจ้งเตือนความเสี่ยงให้กับลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภัยไซเบอร์และวิธีป้องกันตนเอง

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

NOBLE กำไรครึ่งปีแรก 27 ลบ.ตุน Backlog 2.5 หมื่นลบ.

24 นาทีที่แล้ว

ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดระบบ Liveness Detection ปิดทางซิมผี

34 นาทีที่แล้ว

กรุงเทพประกันชีวิต จับมือธนาคารทิสโก้ คลอดประกันสะสมทรัพย์เพื่ออนาคตบุตรหลาน

40 นาทีที่แล้ว

GCAP ประเมินความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์กุมชะตาทองคำ แนะรอซื้อช่วง 51,000-50,800 บาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ตลาดโจวซาน มณฑลเจ้อเจียงขายปูม้าวันละกว่า 20,000 ตัว

China Media Group

MILLกลับมาเดินเครื่องผลิตเหล็กอีกครั้ง ฟุ้งQ2/68 EBITDA พลิกบวก 159 ล้านบาท

Manager Online

เอเจนซีระดับโลก เดนท์สุจากญี่ปุ่น ปลดใหญ่กว่า 3,400 คน | คุยกับบัญชา | 15 ส.ค. 68

BTimes

NOBLE กำไรครึ่งปีแรก 27 ลบ.ตุน Backlog 2.5 หมื่นลบ.

การเงินธนาคาร

วงการคริปโตสดใส! ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่ง Truth Social ลุยตลาด ETF

Thaiger

ครม.ไฟเขียวเงินช่วยเหลือเกษตรกร 2568/69 แจกชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

เดลินิวส์

ดูชัดๆ ระบบบริจาค E-Donation สรรพากร ใช้อย่างไร ลดหย่อนภาษีได้แบบไหน

เดลินิวส์

ส.อ.ท. รับเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ วูบต่ำสุดรอบ 3 ปี

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...