เป็น “ติ่ง” แบบพร้อมเปย์ ต้องมีสูตรแบบมือโปร แบ่งค่าใช้จ่าย - หารายได้เสริม
“เสียเป็นแสน แขนไม่ได้จับ”
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้บ่อย ๆ เมื่อพูดถึงแฟนคลับของศิลปิน K-POP หรือ “ติ่งเกาหลี” ที่ไม่ได้ทุ่มแค่ความรักอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังทุ่มเงินที่มีเพื่อซัพพอร์ตศิลปินอีกด้วย
ทว่า การเป็นแฟนคลับสายเปย์นั้นไม่ใช่แค่ใช้เงินเก่งอย่างเดียว แต่ต้องบริหารเงินให้เป็นด้วย เพราะถ้า “เผลอใช้เกินตัว” จนการเงินสะดุดอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญได้ เช่น คอนเสิร์ตที่กำลังมาถึง เป็นต้น
เป็น “ติ่ง” ยุคนี้มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
จุดเริ่มต้นของการเป็นแฟนคลับของศิลปินสักวงนั้นมักเกิดจากความชื่นชม ที่ทำให้เราอยากลงทุน สะสม ไปจนถึงทำทุกทางเพื่อซัพพอร์ตคนที่เราชอบ จนกลายเป็นค่าใช้จ่ายหลากหลายรูปแบบ
1. อัลบั้ม
แค่มีอัลบั้มไว้ฟังเพลงยังอาจไม่พอ เพราะแต่ละค่ายยังเพิ่มกิมมิคที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะ Photo Card หรือภาพลิมิเต็ดต่าง ๆ จนหลายคนอาจซื้อมากกว่า 1 อัลบั้มเพลงเพื่อเก็บสะสมภาพให้ครบ Collection บางคนอาจซื้อทีละ 2-3 ชุด ทั้งเพื่อ “เปิดฟัง - เก็บสะสม - เก็บไว้สำรอง”
นอกจากนี้ อาจลุ้นสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับศิลปินที่ชื่นชอบ ยิ่งซื้ออัลบั้มเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสิทธิในการลุ้นมากเท่านั้น หรือบางครั้งผู้โชคดีก็วัดกันที่ว่าใครคือผู้ที่ยอดซื้อสูงสุด (Top spender) จึงจะได้เป็นหัวแถวของแฟนคลับผู้โชคดี ซึ่งบางครั้งอาจมีราคาสูงถึงหลักแสน
2. บัตรคอนเสิร์ต - แฟนมีตติ้ง
“คอนเสิร์ต” และ “แฟนมีตติ้ง” คือสถานที่ที่รวมกลุ่มแฟนคลับไว้ได้มากที่สุด ซึ่งราคาของบัตรในไทยปัจจุบันนั้นอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท! ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของคนไทย แต่ถ้าหากเราบินไปคอนเสิร์ตที่จัดในต่างประเทศก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ฯลฯ
นอกจากนี้ จะไปคอนเสิร์ตทั้งทียังต้องแต่งตัวให้ดูดีที่สุดแม้ศิลปินจะมองไม่เห็นเราก็ตาม โดยส่วนมากค่าชุดและ Prop รวม ๆ อยู่ที่ประมาณหลักร้อยถึงพัน หรือบางครั้งอาจถึงหลักหมื่นหากเป็นชุดที่สั่งตัดมาเพื่อคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ
3. Merchandise
และแน่นอนว่าด้วยพลังแห่งรักของแฟนคลับนั้นไม่มีทางจบที่แค่ค่าบัตรเท่านั้น เพราะยังมีค่าสินค้าที่เกี่ยวกับศิลปินให้เหล่าติ่งต้องละลายทรัพย์เพิ่มด้วย เช่น แท่งไฟเชียร์ศิลปิน, ตุ๊กตา, กระเป๋า รวมไปถึงพวงกุญแจเล็ก ๆ ที่แฟนคลับหลายคนชอบห้อยไปอวดกันในคอนเสิร์ต
4. ลงทุนกับหุ้นค่ายเพลง
ติ่งทุกคนคาดหวังให้ความเป็นอยู่ของศิลปินดีขึ้น บางคนอาจเลือกซัพพอร์ตผ่านการซื้อหุ้นบริษัทที่เป็นต้นสังกัดศิลปิน โดยเราขอยกตัวอย่าง BIG 4 ค่ายเพลงเกาหลี
- HYBE Corporation.
- SM Entertainment.
- JYP Entertainment Corp.
- YG Entertainment Inc.
ทั้ง 4 ตัวอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่าการเป็นติ่งนั้นไม่ได้ง่าย แต่ต้องมาพร้อมกับความรักที่ล้นทะลักและกำลังทรัพย์ที่พร้อมเปย์อีกด้วย
4 ปัญหาการเงินที่ติ่งสายเปย์อาจเจอบ่อย
เมื่อรู้ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ แล้ว เราจะเห็นได้ว่า “เงิน” มีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนพลังติ่ง ซึ่งหลายคนอาจเจอปัญหาทางการเงินได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น
- กระเป๋าแห้งตั้งแต่ต้นเดือน เพราะหลายคนเผลอใช้เงินเดือนไปซื้อของศิลปินสุดรักจนหมดตั้งแต่ต้นเดือน
- ไม่มีเงินเก็บ เพราะใช้ซื้อความสุขในการติ่งไปหมดจนไม่เหลือเงินสำหรับใช้ในอนาคต
- เสี่ยงมีหนี้เพิ่ม โดยหนี้ก้อนนี้อาจเกิดจากการที่บางคนใช้บัตรเครดิตหรือกู้เงินมาใช้ในการติ่ง เช่น ซื้อสินค้าออกใหม่ทุกชิ้นแม้ไม่กำลังเงินไม่ถึง หรือจองตั๋วเครื่องบินไปคอนเสิร์ตต่างประเทศ
- เครียดเรื่องการเงินส่วนตัว บางคนอาจมีความกังวลเรื่องเงินไม่พอ แต่ก็หยุดติ่งไม่ได้ ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้มากกว่าเดิม
“ติ่งมือโปร” จะวางแผนเงินเพื่อเปย์แบบไหน
ดังนั้นเพื่อการเปย์อย่างมีความสุข และติดตามศิลปินได้อย่างยั่งยืน การเงินก็ต้องเริ่มวางแผนไปด้วยวันนี้ Thairath Money รวบรวมวิธีบริหารการเงินที่จะช่วยให้ติ่งสายเปย์กลายเป็นมือโปร ดังนี้
- ออมให้เป็น แบ่งค่าใช้จ่ายให้เหมาะ
ก่อนอื่นต้องแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน โดยให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อน โดยสามารถใช้สูตรบริหารเงินแบบต่าง ๆ เช่น
สูตร 60/20/20
60% ค่าใช้จ่ายจำเป็น (ค่าเช่า, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง)
20% ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (ค่าติ่งรวมในส่วนนี้)
20% เงินออม
เมื่อแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายจะทำให้เราวางแผนเก็บเงินได้มากขึ้น (เพื่อที่นั่งที่ใกล้ชิดศิลปินมากที่สุดซึ่งอาจจะแพงขึ้นตามไปด้วย) ยกตัวอย่างเช่น ตั้งเป้าออมรายเดือนหรือรายวัน โดยจะเก็บเงินวันละ 20 บาททุกวันเป็นเวลา 2 ปีกว่าจะมีคอนเสิร์ตอีกครั้ง เราจะมีเงินทั้งหมดราว 7,300 บาท
- หารายได้เสริม
จากความชอบศิลปินคนเดียวกันอาจทำให้เรา เห็นโอกาสในการสร้างรายได้หรือเปลี่ยนความติ่งเป็นเงินได้โดย
1) เปิดรับพรีออเดอร์สินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในไทย หรือรับหิ้วของเมื่อมีอีเวนต์
2) ขายของแฮนด์เมด เช่น สร้อยคอลูกปัด
3) ทำคอนเทนต์ลงโซเชียล และ
4) รับจ้างแต่งหน้าไปคอนเสิร์ต
สุดท้ายนี้ หัวใจสำคัญของการติ่งอย่างมีความสุขและยั่งยืนนั้นควรอยู่ในกรอบของความพอดี
ก่อนจะเปย์ศิลปิน เราควรลองถามตัวเองสักนิดก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังจะทุ่มเงินไปให้นั้น "จำเป็น" จริงหรือไม่ และหากเราซื้อไปจะกระทบกับการเงินของเราหรือเปล่า
การใช้จ่ายแบบพอดีตัวนั้นไม่ใช่การจำกัดความสุขของตัวเอง แต่คือการที่เราสามารถบริหารจัดการเงินได้เพื่อให้เราสามารถมอบความรักและแรงสนับสนุนให้ศิลปินที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มที่
เพราะการวางแผนการเงินที่ดีในวันนี้ จะทำให้เราไม่พลาดโอกาสสำคัญๆ ในการติ่งที่รออยู่ในวันข้างหน้า
ที่มา :KTC
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money
เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เป็น “ติ่ง” แบบพร้อมเปย์ ต้องมีสูตรแบบมือโปร แบ่งค่าใช้จ่าย - หารายได้เสริม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 6 นิสัยใช้เงิน กำหนดอนาคตชีวิต "ล้มละลาย พออยู่-พอกิน หรือ จะเป็นเศรษฐี" ล้วนเลือกเองได้ !
- โสดทำงานเก่ง ต้องวางแผนการเงินยังไง? ผู้หญิงยุคใหม่ แบบ “Golden Girls” ฉบับวัยกลางคน
- “FatFIRE” เทรนด์คนอยากเกษียณ แบบ “ราชา” ไม่หวังทำงานจนแก่ โหมเก็บเงินแบบสุดๆ
- เปิดตารางออมเงินตามสีมงคล ฉบับสายมู ทำทุกวัน ชีวิตปังแน่!
- เป็น “ติ่ง” แบบพร้อมเปย์ ต้องมีสูตรแบบมือโปร แบ่งค่าใช้จ่าย - หารายได้เสริม
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath