ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 : การชิงโทรฟี่แรกของ 'เปแอสเช' และ 'สเปอร์ส'
ในวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคมนี้ เวลา 02.00 น. (ตรงกับคืนวันพุธที่ 13 สิงหาคม) แฟนฟุตบอลทั่วโลกจะได้รับชมการเผชิญหน้ากันของสองทีมที่มีดีกรีเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่และถ้วยรองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปะทะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 ณ สนาม สตาดิโอ ฟริอูลี่ เมืองอูดิเน่ ประเทศอิตาลี
การพบกันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการชิงถ้วยยุโรปแรกของฤดูกาลใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีของทั้งสองทีมที่ต่างก็มีเส้นทางอันน่าทึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา เปแอสเช ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในรายการที่พวกเขารอคอยมาอย่างยาวนาน นั่นคือ แชมเปี้ยนส์ ลีก และเตรียมที่จะต่อยอดทำผลงานให้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในฤดูกาลใหม่นี้
ขณะที่ สเปอร์ส ที่มีการเปลี่ยนตัวกุนซือจาก แอนจ์ พอสเตโคกลู มาเป็น โธมัส แฟรงค์ ที่ข้ามฟากมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก มาครองได้ ซึ่งถือเป็นแชมป์ที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นแชมป์ที่ชดเชยความผิดหวังของพวกเขาทุกอย่างในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการได้อันดับที่ 17 ในพรีเมียร์ลีกถือเป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุดๆ แต่การได้แชมป์ ยูโรป้า ลีก ทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลใหม่ทันที แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วสโมสรจะเลือกปลด พอสเตโคกลู ออกจากตำแหน่งไปในท้ายที่สุดก็ตาม
นอกจากนี้ การเริ่มต้นของ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ฟุตบอลลีกยุโรปฤดูกาลใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ บรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปก็จะเริ่มออกสตาร์ทนัดแรกกัน ทั้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ตามมาด้วย กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ บุนเดสลีกา เยอรมนี ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
วันนี้เราจะมาพูดถึงทั้งสองทีมที่จะเจอกันในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 ที่จะเตะกันในคืนวันพุธนี้กันหน่อยว่า พวกเขามีความพร้อมอย่างไรกันบ้าง และใครที่มีโอกาสประเดิมถ้วยแรกของยุโรปในฤดูกาล 2025-26
ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง : แชมป์ยุโรปที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
เปแอสเช ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของฟุตบอลยุโรปได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะเผชิญกับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังการย้ายออกของสตาร์คนสำคัญอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แต่ภายใต้การนำทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือคนเก่งชาวสเปน ทีมก็สามารถรวมพลังกันจนก้าวไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ
การคว้าแชมป์ยุโรปไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ เปแอสเช รอคอยมานานเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงปรัชญาการทำทีมที่เน้นไปที่ทีมเวิร์คและศักยภาพของทีมโดยรวม มากกว่าการที่จะพึ่งพานักเตะคนใดคนหนึ่งเพียงอย่างเดียว
ความพร้อมของทีม
ในนัดนี้ เปแอสเช จะต้องลงสนามโดยไม่มี ชูเอา เนเวส มิดฟิลด์ตัวเก่งชาวโปรตุเกสที่ติดโทษแบน แต่ที่เหลือนั้นสามารถลงสนามได้อย่างไม่มีปัญหา โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารมือหนึ่งทีมชาติอิตาลีของทีมถูกตัดชื่อออกจากทีมชุดนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการต่อสัญญา และอาจจะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ แต่กระนั้น เปแอสเช ก็ทำการแก้ไขไว้แล้วด้วยการคว้า ลูก้าส์ เชวาลิเย่ร์ มาจาก ลีลล์ ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร และจะลงเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งให้กับทีมในเกมนี้ทันที
ส่วนแนวรับนำโดยปราการหลังกัปตันทีม มาร์กินญอส และ วิลเลียน ปาโช่ ที่เป็นกำลังสำคัญในฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่ฟูลแบ็กตัวจริงอย่าง อัคราฟ ฮาคิมี่ และ นูโน่ เมนเดส ก็พร้อมที่จะลงสนาม
ในแดนกลางคาดว่าจะใช้งาน วอร์เรน แซร์-เอเมรี่, วิตินญ่า และ ฟาเบียน รุยซ์ เป็นสามประสานคอยขับเคลื่อนเกม โดยมี เดซิเร่ ดูเอ้, อุสมาน เดมเบเล่ และ ควิช่า ควารัตส์เคเลีย เป็นสามแนวรุกเหมือนเดิม ซึ่งถือเป็นสามคนที่เป็นตัวหลักของทีมมาตลอดเมื่อซีซั่นที่แล้ว
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : ความท้าทายที่กำลังรอคอยอยู่
เส้นทางสู่ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ของ สเปอร์ส นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจ พวกเขาต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ผันผวนในลีก แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน ยูโรป้า ลีก ก่อนจะเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลที่พวกเขารอคอยกันมาอย่างยาวนาน
สเปอร์ส เป็นทีมที่มีเกมบุกที่ตื่นเต้นเร้าใจ ในยุคที่มี แอนจ์ พอสเตโคกลู คุมทีม แต่ข้อเสียคือพวกเขาขาดความยืดหยุ่น กุนซือชาวออสเตรเลียขาดการให้ความสำคัญกับเกมรับ และมีหลายครั้งที่ สเปอร์ส แพ้เพราะเกมรับที่หละหลวม แม้เกมรุกของพวกเขาจะยิงประตูได้มากก็ตาม นั่นทำให้แม้ว่าจะได้แชมป์ ยูโรป้า ลีก แต่ผลงานในลีกที่สวนทางและตกต่ำทำให้ พอสเตโคกลู ไม่สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ได้ ก่อนจะถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือไปหลังจากที่ฤดูกาล 2024-25 จบลง
ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือคนใหม่ที่เข้ามารับไม้ต่อจาก พอสเตโคกลู ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะผลงานที่ แฟร้งค์ ทำกับ เบรนท์ฟอร์ด เอาไว้ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือได้ระดับหนึ่งแล้วว่ากุนซือชาวเดนส์รายนี้มีฝีมือ และมีโอกาสที่จะเข้ามาทำให้ทีมไก่เดือยทองยกระดับผลงานได้ดีกว่าเดิม แต่จุดสังเกตอีกอย่างก็คือ แฟร้งค์ ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมระดับบิ๊กเนมมาก่อน ทำให้ที่ผ่านมาไม่ต้องเจอกับความคาดหวังและแรงกดดันมากนัก ดังนั้น การคุม สเปอร์ส จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับแรงกดดันและความคาดหวังที่มหาศาลมากกว่าเดิม
ความพร้อมของทีม
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะลงเล่นใน ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ โดยมีสภาพทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แม้จะยังไม่มี โดมินิก โซลันกี้ กองหน้าตัวเก่งที่บาดเจ็บ รวมถึง เจมส์ แม็ดดิสัน กองกลางตัวสำคัญที่เจ็บหนักที่หัวเข่า และต้องพักยาวหลายเดือน แต่พวกเขาก็ยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายคน
ในส่วนของแนวรับนั้น กูเยลโม่ วิคาริโอ จะยังคงเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง โดยมีกองหลังอย่าง คริสเตียน โรเมโร่ และ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน จับคู่กันในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ เปโดร ปอร์โร่ และ เฌด สเปนซ์ น่าจะลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาและซ้าย
แดนกลางยังเป็นจุดแข็งของทีม ประกอบไปด้วย โรดริโก้ เบนตานกูร์, ชูเอา ปาลินญ่า และ ป๊าป ซาร์ ที่คอยคุมจังหวะเกม ส่วนแดนหน้าจะมี โมฮัมเหม็ด คูดุส, วิลสัน โอโดแบร์ และ ริชาร์ลิซอน คอยสร้างสรรค์เกมรุกและทำประตู
ความน่าจะเป็น
การพบกันระหว่าง เปแอสเช และ สเปอร์ส ในครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ทางแท็กติกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง หลุยส์ เอ็นริเก้ ของ เปแอสเช ที่เน้นการครองบอลและเกมรุกที่หลากหลาย จะต้องเผชิญหน้ากับ โธมัส แฟร้งค์ ของ สเปอร์ส ที่ถนัดในการตั้งรับอย่างมีวินัยและสวนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดแข็งของ เปแอสเช คือความสามารถในการควบคุมเกมในแดนกลางและคุณภาพของแนวรุกที่มีความหลากหลาย พวกเขาสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้จากหลายทิศทาง และมีนักเตะที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยการเลี้ยงบอลหรือการยิงไกล ขณะที่จุดแข็งของ สเปอร์ส อยู่ที่เกมรับที่แข็งแกร่ง การเล่นลูกตั้งเตะ และการสวนกลับที่รวดเร็ว พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถรับมือกับทีมที่เหนือกว่าได้ และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดของคู่แข่งได้อย่างเฉียบขาด
อย่างไรก็ดี เกมแดนกลางจะเป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้ ทีมใดที่สามารถควบคุมพื้นที่ในแดนกลางได้ดีกว่า จะสามารถกำหนดทิศทางของเกมได้ ซึ่งในข้อนี้ เปแอสเช ยังดูเหนือกว่า สเปอร์ส ที่มีการเปลี่ยนถ่ายนักเตะหลายตำแหน่ง และอาจจะกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ ประสิทธิภาพในเกมรุกก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในแง่นี้ ต้องยอมรับว่า เปแอสเช ยังดูเหนือกว่าอย่างชัดเจน การประสานงานของสามประสานอย่าง ดูเอ้, เดมเบเล่ และ ควารัตส์เคเลีย เป็นอะไรที่รับมือได้ยากมากๆ ขณะที่ สเปอร์ส การไม่มี ซน ฮึง-มิน เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกอีกต่อไปแล้ว น่าสนใจว่าตัวที่เหลืออยู่จะสามารถทดแทนกองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ได้หรือไม่ ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วต้องยอมรับว่า เปแอสเช ยังมีภาษีดีกว่า และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเอาชนะในเกมนี้และคว้าโทรฟี่แรกของฤดูกาลใหม่มาครอง
สกอร์ที่คาด : เปแอสเช ชนะ สเปอร์ส 3-1
ศึกยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การชิงถ้วยรางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ศักดิ์ศรีของทั้งสองทีมที่ต่างก็ประสบความสำเร็จในเวทียุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เปแอสเช คือทีมที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความทะเยอทะยานที่จะคว้าทุกแชมป์มาครอง ขณะที่ สเปอร์ส คือทีมที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นและความไม่ยอมแพ้ แต่ไม่ว่าผลจะจบลงด้วยผลลัพธ์แบบใด เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุก และน่าติดตามในทุกนาทีอย่างแน่นอน
⚽คอฟุตบอลไม่ควรพลาด! แพ็กเกจ NOW FOOTBALL ดูบอลครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ รายเดือน และ รายฤดูกาล
📌Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/bz65f7yo
📌Now Football Season Pass 1,789 บาท/ฤดูกาล (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) ถึง 31 สิงหาคม 68 เท่านั้น สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/accz392r
ข่าวที่เกี่ยวข้อง