ครม.ไฟเขียว นำเข้าแรงงาน“ศรีลังกา” 1 หมื่นคน ทดแทนกัมพูชาแห่กลับประเทศ
ครม. เห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ผ่อนผันต่างด้าวผิดกฎหมายให้ทำงานต่อได้ นำเข้าเแรงงานศรีลังกา 1 หมื่นคน ทดแทนชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 สิงหาคม 2568 มีมติตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายและแนวทางการนำแรงงานสัญชาติอื่นเข้ามาทำงานในประเทศ
สำหรับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ครม. มีมติผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตทำงานครบถ้วนหรือเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ยังประสงค์จะทำงาน สามารถยื่นขออนุญาตได้ โดยให้นายจ้างดำเนินการแทนและชำระค่าธรรมเนียมรวม 1,000บาท (ค่าธรรมเนียมคำขอ จำนวน 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 900 บาท)
พร้อมกำหนดให้แรงงานต้องตรวจสุขภาพ และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน หรือต้องทำประกันสุขภาพตามกฎหมาย ทั้งนี้ จะได้รับอนุญาตทำงานเป็นเวลา 1 ปี และต้องจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลพร้อมการตรวจลงตรา โดยแรงงานกัมพูชาจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มเติมเพื่อความมั่นคง
กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวกว่า 3.8 แสนคนจาก 4 สัญชาติ ได้แก่
กัมพูชา 98,548 คน
ลาว 91,489 คน
เมียนมา 194,441 คน
เวียดนาม 3,573 คน
ที่ใบอนุญาตสิ้นสุดเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2568 แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ ต่ออายุครบถ้วนตามระบบ MOU
จึงจำเป็นต้องเร่งหามาตรการรองรับเพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจฐานรากและความมั่นคง
ขณะเดียวกัน ครม. ยังเห็นชอบแนวทางการนำแรงงานสัญชาติอื่นเข้ามาทำงานในประเทศไทยผ่านระบบ MOU โดยอนุญาตทำงานครั้งละ 2 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 2 ปี เบื้องต้นนำร่องแรงงานศรีลังกา 10,000 คน เพื่อทดแทนแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ หากการดำเนินการเป็นไปด้วยดีและนายจ้างมีความ ต้องการเพิ่มเติม กระทรวงแรงงานจะเสนอขยายโควตา รวมถึง พิจารณานำเข้าแรงงานจากประเทศอื่น เช่น เนปาล บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ต่อไป
นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดหาแรงงานมาทดแทนแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบอนุมัติบันทึกความร่วมมือในการจัดหาแรงงานศรีลังกามาทดแทน
เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความพร้อมสามารถส่งแรงงานมาได้ทันที 10,000 ราย แต่ขณะนี้มีผู้ที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 30,000 ราย โดยจะนำแรงงานกลุ่มนี้เข้ามาเสริม รวมถึงจะมีรายงานในกลุ่มอื่นๆ อีก อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเนปาล ทั้งนี้แรงเหล่านี้จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ 2 ปี และต่ออายุได้อีก 2 ปี เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจ
ส่วนกรณีของภาษีการค้าสหรัฐฯ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรม และอาจจะส่งผลให้โรงงานปิดตัวและเกิดการว่างงานมากขึ้น และทางกระทรวงแรงงานจะมีมาตรการอย่างไรบ้างนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เรื่องนี้มองว่าไม่น่ามีปัญหา มีงานในประเทศไทยมากพอสมควร เพียงแต่ว่าหากไม่เลือกงาน ก็เชื่อว่ามีงานทำทุกคน เรามั่นใจว่ามาตรการภาษีสหรัฐฯ ไม่ส่งผลต่อตลาดแรงงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รองรับซื้อไฟจาก"ลาว" รัฐบาลเดินหน้าระบบส่งไฟฟ้า"น่าน-แพร่-อุตรดิตถ์" วงเงิน 2.6 หมื่นล้าน คาดเสร็จปี 2574
- ครม. อนุมัติงบ 61,000 ล้านบาท รักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ข่วยเหลือชาวนาแจกไร่ละพัน
- พบศพชายชาวกัมพูชาใกล้ศูนย์สแกมเมอร์กัมพูชา ทางการเกาหลีใต้ร้องให้สอบสวนหนัก
- กลุ่มเจมาร์ทยอดขายมือถือและสุกี้ตี๋น้อยดันกำไรโต
- รัฐบาลเดินหน้าลดภาระหนี้นอกระบบ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้ประชาชน