ทรัมป์อยากพบคิม จองอึน เอ่ยปากขอผู้นำเกาหลีใต้เร่งฟื้นการทูตนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือ อยู่ในความสนใจของทรัมป์
ทั่วโลกกำลังจับตากับการเยือนทำเนียบขาวของผู้นำเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีอี แจมยอง เพื่อเจรจาทางด้านการค้าระหว่างสองประเทศพันธมิตร แต่ในการเยือนครั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ยังประกาศความต้องการที่จะเชื่อมสัมพันธ์กับประเทศปรปักษ์อย่างเกาหลีเหนือด้วย โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการพบกับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือคิม จอง อึนภายในปีนี้ เพื่อพยายามฟื้นการทูตนิวเคลียร์ที่ล้มเหลวในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก
เกาหลีเหนือไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของทรัมป์ในทันที แต่ต่อมา KNCA สื่อของรัฐระบุว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลวอชิงตันที่จะ "ยึดครอง" คาบสมุทรเกาหลีและมุ่งเป้าไปที่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค
นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม คิม จองอึน ได้เพิกเฉยทรัมป์โทรหาหลายครั้ง เพื่อหวังรื้อฟื้นการทูตโดยตรงที่เขาเคยดำเนินการในระหว่างดำรงตำแหน่งปี ค.ศ. 2017-2021 ซึ่งการหารือในครั้งนั้น ไม่ได้นำไปสู่ข้อตกลงใด ๆ ในการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อการเจรจาสงบศึกของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยให้คิม ยอจอง น้องสาวของคิม จองอึน ออกมาแถลงโต้ตอบหลายครั้งว่าเกาหลีเหนือไม่สนใจในการเจรจาสันติภาพ ไม่เห็นถึงความจริงใจของเกาหลีใต้
สันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี = ผลงานของทรัมป์
ในห้องทำงานรูปไข่ อีแจ มยองหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าอันดุเดือดที่เคยเกิดขึ้นกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ และการเยือนของประธานาธิบดี ซิริล รามาโฟซาแห่งแอฟริกาใต้ในเดือนพฤษภาคมที่มีการปะทะคารมกันต่อหน้าสื่อ โดยอี แจมยองพูดคุยเกี่ยวกับกอล์ฟและชื่นชมการตกแต่งภายในและการสร้างสันติภาพของประธานาธิบดี
นายอี แจมยองกล่าวว่า “ผมหวังว่าคุณจะนำสันติภาพมาสู่คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศเดียวในโลกที่แตกแยก เพื่อที่คุณจะได้พบกับคิมจองอึน สร้างทรัมป์เวิลด์ (โครงการอสังหาริมทรัพย์) ในเกาหลีเหนือ เพื่อที่ผมจะได้เล่นกอล์ฟที่นั่น และเพื่อที่คุณจะมีบทบาทอย่างแท้จริงในฐานะผู้สร้างสันติภาพในประวัติศาสตร์โลก”
ภายหลังจากการประชุมสุดยอด นายอี แจมยองเยือนศูนย์การศึกษากลยุทธ์และระหว่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และกล่าวว่า “แม้จะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักเพื่อยับยั้งเกาหลีเหนือ แต่ผลที่ตามมาก็คือการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง” เขากล่าวว่าขณะนี้เกาหลีเหนือมีศักยภาพในการสร้างหัวรบนิวเคลียร์ได้ 10 ถึง 20 หัวต่อปี และจำเป็นต้องปรับปรุงยานขนส่งกลับเข้าประเทศเพื่อบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์สำหรับขีปนาวุธข้ามทวีปขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ ได้
เจรจาการค้าสหรัฐฯ - เกาหลีใต้
แม้ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าในเดือนกรกฎาคมที่ช่วยให้การส่งออกของเกาหลีใต้รอดพ้นจากภาษีที่เข้มงวดของสหรัฐฯ แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีการโต้เถียงกันในประเด็นพลังงานนิวเคลียร์ ค่าใช้จ่ายทางทหาร และรายละเอียดของข้อตกลงที่รวมถึงการลงทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในสหรัฐฯ ที่เกาหลีใต้ได้ให้คำมั่นไว้
หลังการประชุมกับทรัมป์ อี แจมยองได้เข้าร่วมงานฟอรัมทางธุรกิจกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และซีอีโอของบริษัทเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเยือนในครั้งนี้ Korean Air สายการบินประจำชาติของเกาหลีใต้ ได้ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง จำนวน 103 ลำ ซึ่งถือเป็นคำสั่งซื้อมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสายการบิน
รอยเตอร์สรายงานว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้พึ่งพาสหรัฐฯ อย่างมาก โดยรัฐบาลวอชิงตันรับประกันความมั่นคงด้วยกำลังทหารและอาวุธนิวเคลียร์ ทรัมป์เรียกโซลว่าเป็น "เครื่องจักรทำเงิน" ที่ใช้ประโยชน์จากการปกป้องทางทหารของสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมคิดว่าเราได้บรรลุข้อตกลงเรื่องการค้าแล้ว"