เปิดบัญชี “พระบาทน้ำพุ” ฟอกเงินบุญเครือข่าย “อลงกต-หมอบี”
วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง กลายเป็นเรื่องเล่าในตำนานไปแล้ว เมื่อเจอปรากฎการณ์ 70: 30 ขบวนการ “ฟอกเงิน” บริจาค ผ่านตัวบุคคล และมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้น หลังตำรวจเข้าจับกุม อดีตพระราชวิสุทธิประชา นาถ หรือ “พระอลงกต” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ซึ่งยังคงถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ขณะที่ยังมีกลุ่มบุคคลใกล้ชิดกับคนทั้งสอง อีก 30 คน กำลังถูกตรวจสอบเส้นทางเงินบุญกว่า 1,000 ล้านบาทอย่างเข้มข้น
หากย้อนกลับไปดูรายชื่อกรรมการวัดพระบาทน้ำพุ เมื่อปี 2563 พบว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2563 วัดพระบาทน้ำพุ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ มีรายชื่อทั้งหมด 9 คน จำนวนนี้มี 4 คนที่เป็นบุคคลใกล้ชิด ประกอบด้วย
- พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ “พระอลงกต” เป็นประธานกรรมการ
- นายธนชัย ไม้ประดิษฐ์ ไวยาวัจกร
- นายบรรเจต เทพพำนัก เลขานุการวัด
- นายสมพร โสมะเค็ง ผู้ช่วยเลขานุการ
- น.ส.อรวรรณ แก้วปัชชา ผู้ช่วยไวยาวัจกร
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2564 มูลนิธิธรรมรักษ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุด จำนวน 17 คน จำนวนนี้พบ 4 รายชื่อกรรมการวัดพระบาทน้ำพุ เมื่อปี 2563 ที่เข้าไปเป็นกรรมการของมูลนิธิ เช่น
- นายธนชัย ไม้ประดิษฐ์ เป็นประธานกรรมการ
- นายบรรเจิด เทพพำนัก เป็นกรรมการ
- น.ส.อรวรรณ แก้วปัดชา เป็นกรรมการและเหรัญญิก
- นายสมพร โสมะเค็ง เป็นกรรมการและเลขานุการ
หากตรวจสอบจากรายชื่อกรรมการวัดพระบาทน้ำพุและกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์ พบว่า หลายคนมีความใกล้ชิดกับอดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ นายอลงกต และมีส่วนเข้าไปดูแลเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุด้วยเช่นกันโดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นบุคคลใกล้ชิด มี 9 คน แต่ละคนทำหน้าที่แตกต่างกันไป
คนแรกคือ น.ส. ศ หรือ ว. ไม่ได้ปรากฏชื่อในประกาศทั้งสองฉบับนี้ แต่มีความสำคัญในฐานะเป็นหลานสาวไวยาวัจกรคนเก่า หญิงสาวผู้นี้ นอกจากมีหน้าที่ดูแลเงินวัดและเงินของมูลนิธิอีกหลายแห่งแล้ว ยังปรากฏชื่อครอบครองที่ดินจำนวนหนึ่งด้วย
สำหรับ น.ส.ศ หรือ ว. ถือเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับนายอลงกตมากที่สุด และเป็นผู้ดูแลมูลนิธิฯหลายแห่ง ประกอบด้วยมูลนิธิธรรมรักษ์ กองทุนบ้านเด็กธรรมรักษ์ กองทุนเมตตาธรรมค้ำจุนโลก กองทุนอาทรประชานาถ กองทุนประชานาถ ซึ่งจากการตรวจเส้นทางธุรกรรมการเงินพบว่า จำนวนเงินทั้งหมดจากกองทุนเหล่านี้จะถูกโอนเข้าบัญชี น.ส. ศ.หรือ ว.เพียงคนเดียว
และเฉพาะชื่อบัญชีของ น.ส.ศ หรือ ว. พบเงินหมุนเวียนโอนเข้า-ออก 137 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบอีกว่า วงเงินในบัญชียังถูกกระจายลงไปเครือข่ายอีกหลายวง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าอดีตพระอลงกต เคยยอมรับว่า มีการใช้ชื่อไวยาวัจกรคนเก่าถือครองที่ดิน โดยไม่ได้ใช้ชื่อวัด เนื่องจากวัดดูไม่ไหว หลังจากไวยาวัจกรคนเก่าเสียชีวิต ได้มีการโอนให้ทายาท คือ น.ส.ศ หรือ ว. จริง แต่มีข้อตกลงว่าหาก น.ส.ศ หรือ ว. เสียชีวิตจะโอนกลับคืนให้วัดในภายหลังหากมีการเสียชีวิต โดยได้ทำพินัยกรรมไว้แล้ว
คนที่ 2. นาย ศ. ทำหน้าที่ติดตามนายอลงกต, คนที่ 3.เป็นไวยาวัจกรแต่งตั้งปี 2566 คือ นาย ส. และคนที่ 4-5 คือ น.ส.อ และ น.ส.ม. เป็นคนในวัดพระบาทน้ำพุ คนที่ 6 คือ นายบ เลขาฯนายอลงกต คนที่ 7 นาย ส. คนที่ 8 นายธ. และคนที่ 9 น.ส.ส.อยู่บ้านเดียวกับ น.ส.ศ หรือ ว. หลานไวยาวัจกรคนเก่า
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดหมอบี จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นาง ช. พี่สาว, น.ส. ช. ภรรยาจดทะเบีย น. นาง จ. มารดา ,นาย ว. บิดา และ น.ส. ก. ซึ่งเป็นผู้ทำธุรกรรมให้กับนายบี
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดทำคดีพบว่า คนทั้ง 2 กลุ่มมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสองเส้นเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำโดยตรง ทั้งหมด 8 เส้นทางดังนี้
1.ธุรกรรมทางการเงิน บัญชีวัดพระบาทน้ำพุ มีทั้งหมด 5 บัญชี เป็นธนาคารกสิกรไทย 3 บัญชี ส่วนอีก 2 บัญชี เป็นธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทีเอ็มบี พบว่า ตั้งแต่ปี 2562-2568 พบว่า น.ส.อ. และ น.ส ม. ได้มีการถอนเงินสดออกไปจำนวน 370 ล้านบาท
และยังพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 4 คน คือ นาย ส.ไวยาวัจกร นายส. และคนในวัดอีก 2 คนคือ น.ส.อ. และนางม. ทำหน้าที่รับโอนเงินเข้ามา จำนวน 86 ล้านบาท
2.บัญชีวัดพระบาทน้ำพุ กองทุนอาทรประชานาถ จำนวน 4 บัญชี ที่เปิดไว้จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ตรวจสอบพบว่ามีการทำธุรกรรมถอนเงินสดออกไปจำนวน 385 ล้านบาท โดย น.ส.ศ หรือ ว. หลานไวยาวัจกรคนเก่า, น.ส.ม และนาย ธ. และพบว่ามีการทำธุรกรรมโอนเงินออกไปจำนวน 11 ล้านบาท
3. ธุรกรรมมูลนิธิธรรมรักษ์ มี 2 บัญชี ธนาคาร TMB และธนาคารออมสิน พบน.ส.อ.คนในวัด และ น.ส.ส.หรือ พ. อยู่บ้านเดียวกับ น.ส.ว.หรือ ศ.ได้ถอนเงินสดออกไปจำนวน 9 ล้านบาท และพบธุรกรรมการโอนเงินบัญชี น.ส.ว.หรือศ หลานไวยาวัจกรคนเก่า จำนวน 2.3 ล้านบาท
4. ธุรกรรมทางการเงิน มูลนิธิอาทรประชานาถ ธนาคารไทยธนชาต ตั้งแต่ปี 2562- 2565 ตรวจสอบพบ น.ส. อ. คนในวัด ทำธุรกรรมถอนเงินสดออกไป จำนวน 28 ล้านบาท
5.ธุรกรรมทางการเงิน ศูนย์ใจฟ้า เพื่อวัดพระบาทน้ำพุ ธนาคารกสิกรไทย ตรวจสอบพบว่า นาย ส.ไวยาวัจกร ได้มีการถอนเงินสดออกไปเมื่อปี 2564 จำนวน 3 ล้านบาท และพบธุรกรรมการโอนเงินจากผู้เกี่ยวข้อง เข้าบัญชี น.ส.ม.คนในวัด / บัญชีรับโอน นายศ. คนติดตาม/บัญชีรับโอน นายส.ไวยาวัจกร จำนวน 15 ล้านบาท
6.ธุรกรรมบ้านเด็กธรรมรักษ์ ธนาคารกรุงศรีอยูธยา พบ น.ส.ศ หรือ ว. ถอนเงินสดออกไปจำนวน 3 ล้านบาท และมีธุรกรรมการโอนเงินไปจำนวน 4 ล้านบาท
7.ธุรกรรมการเงิน กองทุนเมตตาธรรมค้ำจุนโลก โดยพระอุดมประชาทร ธ.กรุงศรีอยุธยา พบชื่อ น.ส.ศ หรือ น.ส.ว และนาย บ.เลขาฯ ถอนเงินสดออกจากบัญชีจำนวน 8 ล้านบาท และมีการรับโอนบัญชี มาที่ น.ส.ศ หรือ ว.หลานไวยาวัจกรคนเก่า จำนวน 9 ล้านบาท
8.ธุรกรรมถวายสังฆทาน วัดพระบาทน้ำพุ ธนาคารกสิกรไทน พบมีการโอนเงินเข้าบัญชี นาย ส.ไวยาวัจกรวัด จำนวน 1 ล้านบาท
ส่วนเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน อดีตพระอลงกต ทั้งการถอนเงินสด การโอนเงินและธุรกรรมการโอนเงิน ไปยังบัญชีส่วนตัวดังนี้
บัญชีธนาคารกรุงเทพ พบว่า ในปี 2566 น.ส. ม. คนในวัด ได้ถอนเงินสดออกจากบัญชีจำนวน 6 ล้านบาท และบัญชีส่วนตัวอีก 3 บัญชี ประกอบด้วยบัญชีธนาคารกรุงเทพ และอีก 2 บัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ มีการนำไปซื้อประกันชีวิตจาก 2 บริษัท ตั้งแต่ปี 2563-2567 และมีการโอนเงินออกจำนวน 11 ล้านบาท
ส่วนธุรกรรมทางการเงิน ใจฟ้า อาทรประชานาถ ที่หมอบี นายเสกสันน์ เปิดบัญชีกับธนาคารกสิกรไทย พบว่า มีการถอนเงินสดออกไปจำนวน 190 ล้านบาท
โดยมีการทำธุรกรรมตั้งปี 2563- 2566 โดยมีชื่อของกลุ่มคนใกล้ชิด เช่น น.ส.ก ผู้ทำธุรกรรมให้หมอบี, น.ส.พ และ น.ส.ส. เป็นผู้ทำธุรกรรม โดยน.ส.ก.จะเป็นผู้ทำธุรกรรมให้หมอบีจำนวน 103 ล้านบาท / หมอบี ทำด้วยตัวเอง 79 ล้านบาท และระหว่างปี 2567- 2568 น.ส.พ เป็นผู้ทำธุรกรรมให้จำนวน 4 ล้านบาท และ น.ส.ส. ได้ทำธุรกรรมจำนวน 2 ล้านบาทในปี 2568 ด้วยเช่นกัน
มีรายงานระบุว่า ในปี 2568 พบว่า หมอบี โอนเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ ผ่านบัญชีวัดพระบาทน้ำพุ จำนวน 7 ล้านบาท
ส่วนนายศ. คนติดตามนายอลงกต พบว่า มีการโอนเงินเข้าลงทุนใน บกจ.หลักทรัพย์ กองทุนเปิด ตราสารหนี้ ประกันชีวิต ฯลฯ ตั้งแต่ปี 2562- 2568 จำนวน 84 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลอีกว่า มีชื่อคนติดตามและคนใกล้ชิดนายอลงกต จำนวน 3 คน คือ นาย ส. /นาย ย.และ น.ส.อ และนาย ธ ไวยาวัจกรที่เสียชีวิตเมื่อปี 2566 ได้นำเงินไปลงทุน และมีชื่อเป็นผู้รับเงินจากประกันชีวิต/ตราสารหนี้ระยะสั้น
ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางเงินบุญที่ถูกฟอก และมีการนำไปลงทุนรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งถูกยักยอกถ่ายเทไปยังคนอื่นๆ ซึ่งมาไม่ใช่รูปแบบวัดครึ่งหนึ่ง กรรม การครึ่งหนึ่ง แต่มาในลักษณะรูปแบบแบ่งปันผลประ โยชน์ 70:30 และยังนำไปใช้ผิดประเภทและผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วย
หมายเหตุ : รายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดเพิ่มเติม เพียงแต่มีการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินแล้ว
อ่านข่าว
- เส้นทางธุรกรรม “เงินพันล้าน” สอบ “อลงกต” โยง 6 ชื่อผู้ครองที่ดิน
- น้อยใจทุกครั้งที่ถูกถาม ทหารมีไว้ทำไม ? "ก้นบึ้ง" แม่ทัพภาคที่ 2
- "ออกญา" ตำแหน่งมีราคา "บรรดาศักดิ์กลุ่มทุนธุรกิจ" ในกัมพูชา
- "ทักษิณ" เตรียมบินต่างแดน "ป่วยทิพย์" เส้นตาย คดีชั้น14 รพ.ตร.