Café Buongiorno จุดประกายไลฟ์สไตล์อิตาเลียน ในดินแดนอาเซียน
คาวาเยียรี่ เอนโซ เปอโรนี (Cavaliere Enzo Peroni) นักธุรกิจชาวอิตาเลียนผู้มากประสบการณ์ ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทอิตาเลียนหลายร้อยแห่งในเอเชีย กำลังสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ผ่านแบรนด์ Café Buongiorno ซึ่งไม่ใช่เพียงร้านอาหาร แต่เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบอิตาเลียนในมิติใหม่ให้คนไทยและนักชิมทั่วภูมิภาค
จากผู้บริหารระดับตำนาน สู่ผู้สร้างแบรนด์ที่ถ่ายทอดเสน่ห์อิตาลีผ่านอาหาร ศิลปะ และวัฒนธรรม
เอนโซ เปอโรนี เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจในเอเชียตั้งแต่ปี 1977 ที่ฮ่องกง ในฐานะหนึ่งในซีอีโอชาวยุโรปที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เขาได้รับหน้าที่บริหารจัดการพนักงานกว่า 2,000 คนตั้งแต่อายุเพียง 29 ปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดในเอเชีย นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในการนำแบรนด์อิตาเลียนเข้าสู่ตลาดจีนในช่วงเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจ ก่อนหันมาสร้างสรรค์แบรนด์ไลฟ์สไตล์ในไทยภายใต้แนวคิด “Simple. Sincere. Italian.”
“Café Buongiorno ไม่ใช่แค่ร้านอาหารหรือสถานที่รับประทานอาหารอิตาเลียนเท่านั้น แต่คือพื้นที่ที่ผมตั้งใจออกแบบเพื่อถ่ายทอดแก่นแท้ของวิถีชีวิตแบบอิตาลี — ความเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ รายละเอียดเล็กๆ ที่มีความหมาย และความอบอุ่นที่ส่งผ่านจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าความงดงามของวัฒนธรรมอิตาเลียนไม่ได้อยู่แค่ในรสชาติของอาหาร แต่คือบรรยากาศ การต้อนรับ และการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ ซึ่งผมอยากมอบประสบการณ์เหล่านี้ให้กับคนไทยได้สัมผัสในทุกครั้งที่เดินเข้ามาที่ Café Buongiorno” เอนโซ เปอโรนี กล่าว
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติและปรัชญาการใช้ชีวิต
เอนโซ เปอโรนี เติบโตขึ้นในภูมิภาคอัลโตลาซิโอ (Alto Lazio) ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณที่มีอาณาเขตติดกับแคว้นทัสกานี พื้นที่นี้มีดินที่อุดมสมบูรณ์จากลาวาภูเขาไฟ ทำให้พืชผลต่างๆ เจริญเติบโตได้ดี นี่คือจุดเริ่มต้นที่ปลูกฝังความรักในธรรมชาติให้กับเขาอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันกับธรรมชาติของเขาแสดงออกผ่านการดูแลต้นไม้และดอกไม้กว่า 14 ชนิดที่นำเมล็ดมาจากอิตาลี ซึ่งเขาจะตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อรดน้ำต้นไม้เป็นประจำทุกวัน
ปรัชญาการดำเนินชีวิตของเขาจึงให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายและวัตถุดิบจากธรรมชาติโดยปราศจากสารปรุงแต่งใดๆ ซึ่งสะท้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Café Buongiorno ที่ส่งออกไปทั่วโลก แนวคิดนี้ยังสอดคล้องกับความเชื่อเรื่องความยั่งยืน และความเข้าอกเข้าใจในธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต
เส้นทางสู่ผู้บริหารและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เอนโซ เปอโรนี ได้รับการศึกษาด้านภาษาศาสตร์ การตลาด และการจัดการจากอังกฤษ รวมถึงการศึกษาด้านวรรณกรรมที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ในปารีส และด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ความหลงใหลในการเรียนรู้ทำให้เขาสนใจในเรื่องราวของมนุษย์และพัฒนาการของความคิดอย่างลึกซึ้ง เขาตั้งใจจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับ “การสร้างสรรค์ความคิดที่งดงาม (How to make a beautiful mind)” ซึ่งเป็นการสำรวจว่าเหตุใดผู้คนจึงถูกดึงดูดโดยความคิดอันงดงาม และจะพัฒนาความคิดนั้นได้อย่างไร
เขามักจะใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือและศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาต่างๆ เช่นเดียวกับการศึกษาผลงานของศิลปินระดับโลกอย่าง ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) โดยคุณเอนโซกล่าวว่า "ผมจะจัดเวิร์กช็อปในอนาคตเกี่ยวกับ 'การคิดแบบลีโอนาร์โด ดา วินชี' เพื่อพัฒนาความอยากรู้อยากเห็นในด้านการวางแผนและการบริหารจัดการ”
กิจกรรมยามว่างและแรงบันดาลใจจากงานอดิเรก
นอกเหนือจากงานบริหาร คุณเอนโซยังชื่นชอบการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ฟุตบอล เทนนิส วอลเลย์บอล และปั่นจักรยาน โดยเฉพาะฟุตบอลที่เขาจะไปเล่นกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นเป็นประจำทุกวันพุธ เขามองว่ากีฬาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และทักษะทางสังคม เพราะเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระโดยปราศจากสิ่งปิดกั้นใดๆ
นอกจากนี้เอนโซยังชอบเล่นดนตรี เขาเคยเล่นดนตรีในวงร่วมกับเพื่อนๆ ในวัยหนุ่ม และได้อุทิศ “บิสก็อตติสูตร Enzo Peroni al Rum” ให้กับความทรงจำเกี่ยวกับงานอดิเรกนี้ โดยกล่าวว่า “บิสก็อตติสูตรนี้เป็นหนึ่งในรสชาติที่ผมชอบที่สุด และผมทานกับคาปูชิโน่ทุกเช้า”
หลังเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ Café Buongiorno ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจสู่อุตสาหกรรมอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ครบวงจร อาทิ บิสก็อตติสูตรต้นตำรับ เจลาโตโฮมเมด น้ำผลไม้สกัดเย็น และป๊อปคอร์นพรีเมียม พร้อมแผนเปิดตัว Gelateria & Biscottificio โชว์รูมและคาเฟ่เฉพาะทางแห่งใหม่ภายในปีหน้า โดยมีฐานการผลิตที่บางนา-ตราด และทีม R&D ที่ประเทศอิตาลีที่พัฒนาสินค้าใหม่ทุกสัปดาห์
Café Buongiorno ยังเตรียมขยายธุรกิจสู่สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และยกระดับโมเดล “Italian lifestyle brand” ผ่านกิจกรรมไลฟ์สไตล์ เช่น แฟชั่นโชว์ งานละครเวที และเทศกาลศิลปะที่สะท้อนแก่นแท้ของวัฒนธรรมอิตาเลียน
แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมงาน โดยมีโปรแกรมอบรมด้านภาษา ประวัติศาสตร์อาหารอิตาเลียน และทักษะการบริการ เพื่อให้ทุกคนสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจและประสบการณ์แบบ “Buongiorno” ได้อย่างแท้จริง จากการทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลก อาทิ Ferrari, Lamborghini, Versace ในกิจกรรมระดับนานาชาติ ทำให้ Café Buongiorno ได้กลายเป็นศูนย์รวมของผู้รักศิลปะ ความงาม และรสชาติชีวิตแบบอิตาเลียน
Cavaliere ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “Order of the Star of Italian Solidarity” จากประธานาธิบดีอิตาลี ยังคงเดินหน้าผลักดัน Café Buongiorno ให้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมอิตาเลียนในเอเชีย พร้อมเตรียมเปิดตัว “Italian Film Festival” และกิจกรรมทางศิลปะอีกมากมายในกรุงเทพฯ ภายในปี 2026