โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Interview: ทำความรู้จัก สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INTERVIEW

วัยอนุบาลหรือช่วงปฐมวัย ถือเป็นช่วงอายุที่เด็กๆ กำลังเริ่มวางรากฐานที่สำคัญที่สุดของชีวิต ทั้งในด้านพัฒนาการทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการเข้าสังคม ความเข้าใจโลก และการเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะช่วงเวลานี้คือพื้นฐานของตัวตนที่จะส่งผลต่อพฤติกรรมและทัศนคติของลูกไปจนโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาและวิถีชีวิตในยุคดิจิทัล การทำงานเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยจึงไม่ใช่การปล่อยให้เป็นเรื่องของโรงเรียนและครูอนุบาล แต่เป็นภารกิจใหญ่ที่ต้องการการร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และนโยบายระดับประเทศหลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ประเทศไทยเรามีมีองค์กรหนึ่งที่ทำงานเพื่อเด็กปฐมวัยอย่างใกล้ชิด นั่นคือ สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านวิชาการ การสนับสนุนครู และการผลักดันนโยบายด้านการศึกษาเด็กเล็กเราได้มีโอกาสพูดคุยกับ ครูหวาน—ธิดา พิทักษ์สินสุข สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ ผู้ที่ทำงานเพื่อเด็กเล็กด้วยความตั้งใจจริงมาอย่างต่อเนื่อง เลยขอใช้โอกาสนี้พูดคุยเกี่ยวกับองค์กรที่ยืนหยัดทำงานเพื่อวางรากฐานสำคัญให้เด็กไทยในช่วงวัยอนุบาลมายาวนาน กับเบื้องหลังความตั้งใจ วิสัยทัศน์ และความท้าทายที่ซ่อนอยู่ในการสร้างอนาคตให้เด็กไทยตั้งแต่ก้าวแรกของชีวิต

ความเป็นมาของสมาคมอนุบาลแห่งประเทศไทยสมาคมอนุบาลฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2505 ค่ะ จุดเริ่มต้นมาจากครูบาอาจารย์ที่จบมาด้านปฐมวัยในต่างประเทศในช่วงนั้น เห็นตรงกันว่าเด็กเล็กเป็นวัยที่สำคัญมาก และต้องการการเรียนสอนที่ไม่เหมือนเด็กโต ก็เลยรวมตัวกันขึ้นมา เพื่อสร้างพื้นที่ให้ครูได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน แล้วก็ช่วยกันผลักดันให้การ ศึกษาปฐมวัยในบ้าน เราเดินหน้าไปในทิศทางที่ใช่ท่านอาจารย์หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา เป็นนายกสมาคมฯ ท่านแรก เป็นผู้ที่มีองค์ความรู้หลายสาขา จากการเรียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทําให้สมาคมเข้มแข็งมากตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กรรมการสมาคมมีทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วยนักวิชาการ ผู้บริหารโรงเรียน ผู้ที่ทํางาน เกี่ยวข้อง กับปฐมวัย ทุกท่านทำงานแบบจิตอาสา โดยไม่ได้รับรายได้ใดๆภารกิจของสมาคมอนุบาลฯ มีอะไรบ้างเราทํางานหลายด้าน โดยมุ่งเป้าหมายไปที่การพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้วยความจริงที่ว่า ‘คุณภาพเด็กปฐมวัย คือ อนาคตของประเทศ’ ดังนั้น ภารกิจของสมาคมอนุบาลฯ จึงมีภารกิจครอบคลุมงานหลายด้านด้วยกันงานหลักของสมาคมอนุบาลฯ เริ่มต้นที่ครูปฐมวัย คือการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับคุณครู เช่น เรื่องหลักสูตร พัฒนาการ การจัดกิจกรรม การวัดและประเมินผล รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และนําสิ่งดีๆ มาเผยแพร่ต่อสังคม นอกจากนี้สมาคมฯ ยังสนับสนุนโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็กในให้ความรู้และทำงานร่วมกับผู้ปกครองในการพัฒนาเด็ก สมาคมฯ ยังมีบทบาทเป็นกลไกเชื่อมประสานผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ทั้งส่วนสมาคมเอง สมาชิกของสมาคม ที่เป็นนักวิชาการ โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก กับหน่วยงานราชการ และองค์กรที่ทํางานด้านเด็ก เช่น สภาการศึกษา องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคประชาสังคม และเครือข่ายต่างๆ ในการจัดการอบรม การศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษาปฐมวัย

"ความสําคัญของการศึกษาปฐมวัย ที่ผ่านมาภาคนโยบายมักมองข้ามไป ขาดความจริงจัง หรือถูกจัดให้อยู่ลำดับท้ายๆ ของการส่งเสริมและสนับสนุน"

ในการผลักดันนโยบายมีอุปสรรคหรือปัญหาอะไรที่สมาคมต้องเผชิญบ้างหลายอย่างเลยค่ะ อย่างแรกคือเรื่องของการให้ความสําคัญของการศึกษาปฐมวัย ที่ผ่านมาภาคนโยบายมักมองข้ามไป ขาดความจริงจัง หรือถูกจัดให้อยู่ลำดับท้ายๆ ของการส่งเสริมและสนับสนุน ทั้งที่ มีรายงานชี้ชัดว่า สถานการณ์เด็กปฐมวัยไทยอยู่ในภาวะวิกฤต แต่กลับไม่เคยถูกมองว่าเร่งด่วน อาจด้วยการพัฒนาในระดับปฐมวัยต้องใช้เวลาและไม่ได้เห็นผลทันทีเหมือนการสอบแข่งขัน หรือการทำกิจกรรมสำหรับเด็กวัยอื่นที่สูงขึ้นจะวัดผลได้เร็วการปรับเปลี่ยนนโยบาย การเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลบ่อยครั้ง ทำให้โครงการหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปฐมวัยไม่ได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อจํากัดเรื่องงบประมาณ และความรู้ความเข้าใจของผู้ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

"หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สําคัญ คือ การที่ระบบยังคงมองเด็กในแบบเดียวกันทั้งหมด หรือเหมารวม โดยใช้เกณฑ์เดียวมาตัดสินเด็ก"

โครงสร้างระบบการศึกษาหรือการดูแลเด็กปฐมวัยในไทยมีปัญหาอะไรที่ยังเป็นโจทย์ใหญ่หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สําคัญ คือ การที่ระบบยังคงมองเด็กในแบบเดียวกันทั้งหมด หรือเหมารวม โดยใช้เกณฑ์เดียวมาตัดสินเด็ก ทั้งที่ความจริงแล้ว เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เท่ากัน มีความถนัดและจังหวะ การเรียนรู้ที่ต่างกัน รวมถึงบริบทของเด็กที่ต่างกัน ต้องช่วยให้ครูเห็นความสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล การช่วยเหลือและส่งเสริมเด็กเป็นรายบุคคลอีกโจทย์คือ ความแตกต่างของมาตรฐานคุณภาพในการจัดการศึกษาปฐมวัย ที่ต้องการการช่วยสนับสนุนจากต้นสังกัดอย่างใกล้ชิดในโรงเรียนที่ยังไม่ได้มาตรฐาน การประเมินควรเป็นไปเพื่อการพัฒนา ไม่ได้ตัดสินการได้หรือตกของสถานศึกษา**


"หัวใจของการดูแลเด็กปฐมวัย ไม่ได้อยู่ที่การอ่านออก เขียนได้ หรือคำนวณเก่งแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง รู้สึกปลอดภัยพอที่จะเรียนรู้หรือไม่ เขาได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีคนเข้าใจและมองเห็นเขาจริงๆ หรือเปล่า"

แล้วอะไรคือหัวใจของการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างแท้จริงหัวใจของการดูแลเด็กปฐมวัย ไม่ได้อยู่ที่การอ่านออก เขียนได้ หรือคำนวณเก่งแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง รู้สึกปลอดภัยพอที่จะเรียนรู้หรือไม่ เขาได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีคนเข้าใจและมองเห็นเขาจริงๆ หรือเปล่าเด็กที่เติบโตมาในบ้านหรือโรงเรียนที่เต็มไปดวยความเข้าใจ เมตตา และความเคารพในตัวตนของเขา จะมีพลังชีวิตสูง มีความมั่นคง มั่นใจ ปรับตัวได้ดี และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเอง เด็กที่ได้รับโอกาสให้ได้คิด ลงมือทำ ได้วางแผน มีเป้าหมาย และเพียรพยายามให้ไปถึงเป้าหมาย เด็กแบบนี้จะมีทักษะสมองที่ดี เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักคิด รู้จักตัดสินใจ มองปัญหาเป็นความท้าทาย และมีความสามารถในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสมดุล

ในมุมมองของสมาคมฯ คุณพ่อคุณแม่มีบทบาทอย่างไรในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการลูกในวัยอนุบาลคุณพ่อคุณแม่คือผู้มีบทบาทสําคัญที่สุดเลยค่ะ เพราะเป็นคนแรกที่ลูกได้เรียนรู้และซึมซับจากชีวิตประจําวัน ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะยุ่งมากในชีวิตสมัยนี้ แต่สิ่งสําคัญคือการจัดเวลาคุณภาพที่ได้ใช้ร่วมกับลูก ไม่จําเป็นต้องเป็นกิจกรรมใหญ่โต แค่ทํากิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจําวันด้วยกัน เช่น ช่วยกันล้างรถ รดนํ้าต้นไม้ การนั่งอ่านนิทานและชวนลูกพูดคุยถึงเรื่องในนิทาน สิ่งเหล่านี้สร้างความผูกพันและเป็นฐานสําคัญของการเรียนรู้และพัฒนาด้านอารมณ์ของลูก ให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองอย่างเหมาะสมกับวัย อย่าช่วยลูกมากเกินไปนอกจากนี้ การดูแลเรื่องสุขภาพและกิจวัตรประจำวัน เช่น ให้ลูกได้กินอาหารที่มีประโยชน์ กินอาหารตรงเวลา พาลูกเข้านอนตามเวลาที่เหมาะสมก็เป็นพื้นฐานสําคัญที่ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี มีวินัย และมีความสามารถในการควบคุมตัวเองในช่วงที่ผ่านมา มักได้ยินเสียงจากคุณครูหลายคนพูดว่าเด็กสมัยนี้ดูแลยาก ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทางสมาคมมีมุมมองอย่างไรบ้างถ้าเป็นเด็กปกติแต่มีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา ส่วนใหญ่จะมีผลมาจากการเลี้ยงดู อย่างแรกเลยคือเด็กที่เป็นลูกคนเดียวหรือมีพี่น้องไม่กี่คน จะได้รับการดูแลที่มากเกินไป ขาดการช่วยเหลือตัวเองตามใจมากเกินไป เด็กก็จะขาดวินัย จัดการกับอารมณ์ได้ไม่ดี ส่วนพ่อแม่ในยุคนี้ก็มีเวลาน้อย หรือต้องการเวลาส่วนตัว ก็จะหยิบยื่นมือถือให้ลูก การใช้หน้าจอในเด็กซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของสังคมไทยในยุคนี้ เด็กเล็กๆ ถูกปล่อยให้อยู่กับหน้าจอ เพื่อให้สงบ หรือลดความวุ่นวาย แต่กลับกลายเป็นว่า เด็กไม่มีสมาธิ และส่งผลเสียต่อพัฒนาการทุกด้านในส่วนของโรงเรียนก็ต้องเจอกับความท้าทายมากขึ้น เพราะพ่อแม่ที่เป็นมือใหม่ไม่มีสกิลการเลี้ยงดูที่เพียงพอ ทําให้โรงเรียนต้องช่วยฝึกฝนเด็กเรื่องต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐาน อย่างเช่น การฝึกเข้าห้องนํ้า หรือฝึกเปลี่ยนจากนมจากขวดเป็นนมจากแก้ว ซึ่งพ่อแม่หลายคนไม่ได้ฝึกเด็กก่อนเข้าโรงเรียนนอกจากนี้ในยุคนี้ข้อมูลมากมายแต่ก็มีทั้งถูกและผิด การให้ความรู้ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสําคัญมาก สิ่งที่โรงเรียนควรทำคือ จัดให้มีการให้ความรู้พ่อแม่ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางของโรงเรียน เพื่อให้การทำงานระหว่างบ้านและโรงเรียนมีความราบรื่นและไปในทิศทางเดียวกัน

ในช่วงที่ผ่านมา มักได้ยินเสียงจากคุณครูหลายคนพูดว่าเด็กสมัยนี้ดูแลยาก ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทางสมาคมมีมุมมองอย่างไรบ้างถ้าเป็นเด็กปกติแต่มีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา ส่วนใหญ่จะมีผลมาจากการเลี้ยงดู อย่างแรกเลยคือเด็กที่เป็นลูกคนเดียวหรือมีพี่น้องไม่กี่คน จะได้รับการดูแลที่มากเกินไป ขาดการช่วยเหลือตัวเองตามใจมากเกินไป เด็กก็จะขาดวินัย จัดการกับอารมณ์ได้ไม่ดี ส่วนพ่อแม่ในยุคนี้ก็มีเวลาน้อยหรือต้องการเวลาส่วนตัว ก็จะหยิบยื่นมือถือให้ลูก การใช้หน้าจอในเด็กซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของสังคมไทยในยุคนี้ เด็กเล็กๆ ถูกปล่อยให้อยู่กับหน้าจอ เพื่อให้สงบหรือลดความวุ่นวาย แต่กลับกลายเป็นว่า เด็กไม่มีสมาธิและส่งผลเสียต่อพัฒนาการทุกด้านในส่วนของโรงเรียนก็ต้องเจอกับความท้าทายมากขึ้น เพราะพ่อแม่ที่เป็นมือใหม่ไม่มีสกิลการเลี้ยงดูที่เพียงพอ ทําให้โรงเรียนต้องช่วยฝึกฝนเด็กเรื่องต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐาน อย่างเช่น การฝึกเข้าห้องนํ้า หรือฝึกเปลี่ยนจากนมจากขวดเป็นนมจากแก้ว ซึ่งพ่อแม่หลายคนไม่ได้ฝึกเด็กก่อนเข้าโรงเรียนนอกจากนี้ในยุคนี้ข้อมูลมากมายแต่ก็มีทั้งถูกและผิด การให้ความรู้ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสําคัญมาก สิ่งที่โรงเรียนควรทำคือ จัดให้มีการให้ความรู้พ่อแม่ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางของโรงเรียน เพื่อให้การทำงานระหว่างบ้านและโรงเรียนมีความราบรื่นและไปในทิศทางเดียวกัน

แล้วคุณครูควรจะทำอย่างไรเมื่อต้องเจอกับเด็กที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ครูต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่องพัฒนาการเด็ก เข้าใจว่าพฤติกรรมของเด็กมีความหลากหลาย และเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ครูต้องมีความมั่นคงปลอดภัยในความสัมพันธ์กับเด็ก ใช้วินัยเชิงบวก ไม่ใช่การกดดัน ลงโทษ หรือเพ่งจุดด้อยของเด็กครูต้องค้นหาจุดแข็งของเด็กและให้เด็กรับรู้ พยายามช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาอย่างจริงจัง โดยทํางานร่วมกับผู้ปกครอง และหากเด็กมีปัญหาเฉพาะเจาะจง ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ปล่อยให้เด็กต้องอยู่กับปัญหา เพราะการช่วยเหลือเด็กตั้งแต่เล็กๆ จะทําให้โอกาสประสบความสําเร็จมากกว่าในบริบทของสังคมไทยตอนนี้ เด็กปฐมวัยของเรากำลังเจออะไรอยู่บ้างตอนนี้เรากําลังเจอกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งในเชิงโครงสร้างครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม หลายครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว คุณพ่อคุณแม่ต้องทํางานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่มีเวลาดูแลลูกเต็มที่ หรือบางครอบครัวต้องพึ่งพาปู่ย่าตายาย กลายเป็นว่าคนดูแลหลักไม่ได้มีเวลาให้เด็กอย่างเพียงพอ การหยิบยื่นมือถือหรือแท็บเล็ต ให้เด็กตั้งแต่ก่อน 3 ขวบ และปล่อยให้อยู่กับมือถือนาน ซึ่งส่งผลโดยตรงกับพัฒนาการของลูกอีกอย่างคือการศึกษาของบ้านเรา โดยเฉพาะในระดับอนุบาล ก็ยังเน้นการเร่งเรียนหรือทําให้เด็กอ่าน ออกเขียนได้เร็ว ทั้งที่จริงๆ แล้ว ช่วงวัยนี้ควรเน้นการเล่น ทำกิจกรรม และพัฒนาทักษะชีวิตมากกว่าเพื่อให้เด็กได้รับรู้ถึงความสามารถของตนเอง ได้ฝึกสมองในการคิด ตัดสินใจทำ และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ได้เล่นสนุกและทำกิจกรรมสร้างสรรค์กับเพื่อนๆหรือว่าการศึกษาไทยยังไม่ตอบโจทย์เด็กเล็กจริงๆ หรือเปล่าใช่ค่ะ เรามักคิดว่าการเตรียมเด็กให้พร้อม ให้เก่ง ต้องเริ่มสอนเร็วๆ เช่น สอนอ่าน สอนเขียน สอนคิดเลข ทั้งที่จริงแล้วสิ่งที่เด็กต้องการคือ การปฏิบัติต่อเขาด้วยความเข้าใจในพัฒนาการ และธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย เขาต้องการความมั่นคงทางอารมณ์ ต้องการเล่นที่ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณภาพในเยาว์วัย เพราะการเล่นคือวิธีเรียนรู้ที่ดีที่สุดของเด็กปฐมวัย อีกอย่างคือ อย่ารีบผลักให้ลูกหรือลูกศิษย์โตเกินวัย เด็กต้องมีพื้นที่ในการเป็นเด็ก ต้องได้เล่น ได้ผิดพลาด ได้ลอง แล้วเราค่อยอยู่ข้างๆ เพื่อพาเขาเรียนรู้ไปด้วยกัน

อยากบอกอะไรถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กปฐมวัยบ้างอยากฝากให้สังคมและภาครัฐตระหนักถึงความสําคัญของช่วงปฐมวัยอย่างจริงจัง เพราะนี่คือรากฐานของชีวิตคนทั้งชีวิต หากเราใส่ใจตั้งแต่เล็กๆ ก็เหมือนการปลูกเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการรดนํ้าดูแลอย่างดี ต้นกล้าก็จะแข็งแรงพร้อมที่จะเติบโตต่อไปอย่างงดงามเราควรส่งเสริมให้มีการให้ความรู้และอบรมพ่อแม่ ครู และผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจพัฒนาการเด็กอย่างแท้จริง เข้าใจความแตกต่างและสนับสนุนให้เด็กได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น มีความรักและมีโอกาสเรียนรู้ตามวัยของเขาอย่างเหมาะสม สุดท้าย หากทุกคนช่วยกัน พ่อแม่ ครู และสังคม ทํางานร่วมกันอย่างจริงใจ เด็กไทยก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง มีจิตใจมั่นคง พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคตได้อย่างมั่นใจค่ะสัมภาษณ์วันที่ 3 กรกฎาคม 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Mood of the Motherhood

THAINOSAUR นิทรรศการที่รวบรวมไดโนเสาร์พันธุ์ไทยไว้มากที่สุด!

1 วันที่แล้ว

แม่เห็นยัง?!: กทม. เปิด ห้องสมุดของเล่น (Toy Library) แห่งแรกที่สวนลุมฯ เด็กยืมของเล่นกลับบ้านได้เหมือนหนังสือ

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

สวย เก่ง แกร่ง ในแบบฉบับของ ‘ไลลา สุรินันทน์’ เพชรเม็ดงามแห่งแวดวงการบินและการท่องเที่ยว

Hello Magazine Thailand

คอลลาเจนกินตอนไหนดีที่สุด? เคล็ดลับผิวสวยเลือกกินให้ถูกเวลา

sanook.com

BLUE เตรียมตัวมาจัดคอนเสิร์ตที่ไทย 23 พ.ย. นี้ ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์

THE STANDARD

บาร์บีคิวพลาซ่า จัดโปร “GON BUFFET ตั้งเตารอ คุ้มตาแตก” เริ่มต้น 399 บาท

ฐานเศรษฐกิจ

"วันแมวโลก" 8 สิงหาคม คือวันอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร

sanook.com

วันแมวโลก 8 สิงหาคม 2568 วันสำคัญที่ทาสแมวห้ามพลาด

Thaiger

ไปหาน้อง Chalotte ที่ป่าสี่ฤดูกาลในจินตนาการ!!

เดลินิวส์

CP ALL Influencer Trend 2025 ‘อยากเป็นอินฟลูฯ แบบยั่งยืน ต้องสู้ด้วยคอนเทนต์’

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

INTERVIEW: คุยกับเมอา—MayyR กับชีวิตใหม่ในบทบาทคุณแม่

Mood of the Motherhood

จากซานตาคลอสสู่คุณปุ๊บปั๊บ ค้นพบอารมณ์ขันในเรื่องเล่าแบบ เมาริ คุนนาส (Mauri Kunnas)

Mood of the Motherhood

INTERVIEW: คุยกับคุณแม่อีฟ—นฤมล แซ่เอ็ง กับการต่อสู้ของลูกชายที่ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว

Mood of the Motherhood
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...