โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

KKP ชี้ภาษี 19% เป็นข่าวดีระยะสั้น

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 1.22 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.-KKP ชี้ภาษี 19% เป็นข่าวดีระยะสั้น แต่ระยะยาวโลกการค้าเสรีกำลังหมดอายุ ต้องใช้จุดอับเป็นโอกาสปรับโครงสร้าง คาด GDP ปีนี้ยังโตใกล้เคียงคาดการณ์เดิมที่ 1.6% คาด กนง.อาจลดดอกเบี้ยแตะระดับ 1% ในไตรมาส 1/69 หากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบความมั่นใจนักลงทุน

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประเมินเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลงและยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ แม้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปีจากปัจจัยชั่วคราว โดยเฉพาะการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนที่นโยบายภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวในไทย

ซึ่ง 2 ส่วนนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่การที่ไทยได้อัตราภาษี 19% น่าจะเป็นข่าวดีแค่ระยะสั้น เพราะหลังภาษีที่มีผลในเดือนสิงหาคม การส่งออกในครึ่งปีหลังน่าจะชะลอลง ดังนั้น รัฐบาลอาจต้องมีมาตรการมาดูแลผลกระทบ และใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย โดยอาจเน้นไปที่การดึงเงินลงทุนโดยตรง ธุรกิจอาหาร เฮลธ์แคร์ และการท่องเที่ยวที่ยังน่าจะดี

หากพิจารณาจากข้อมูลเบื้องต้น ผลกระทบภาษีการค้าสหรัฐน่าจะมีใน 3 ส่วน คือ สินค้าทั่วไปที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 19% จากที่ไม่เคยเสียภาษี, สินค้าที่นำเข้ามูลค่าต่ำที่พึ่งวัตถุดิบจากจีน อาจถูกเก็บภาษีสูงขึ้น และสินค้าสวมสิทธิ์ (transshipment) ที่อาจถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 40% โดยมีข้อมูลสะท้อนว่า สินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จำนวนมากมีการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตค่อนข้างต่ำ และอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงที่สินค้าจำนวนมากจะถูกคิดภาษีถึง 40%

เบื้องต้นยังประเมิน GDP ของไทยปีนี้จะขยายตัวใกล้เคียงเดิมที่คาดไว้ 1.6% โดยภาษีสหรัฐจะกระทบ GDP ทั้งปีราว 0.3-09% และในกรณีที่หากสหรัฐฯ ยกเลิกรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจะทำให้ผลกระทบสูงขึ้นเป็น 0.7 – 1.1% และคาดว่าการส่งออกจะหดตัวลงแรง หลังจากเร่งส่งออกก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้หลังเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม หากสภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ ออกมาดีในระดับ 3% ทาง KKP น่าจะมีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปีนี้ โดย KKP คาด GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ไว้ที่ 2.2%

ขณะที่การลดดอกเบี้ยของ กนง. ส่งผ่านนโยบายเต็มที่ถึงแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ มองว่าจะช่วยลดต้นทุนธุรกิจ เป็นผลดีกับธุรกิจซื้อขายบ้านและรถ ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ประเมินมีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปถึงระดับ 1% ภายในไตรมาส 1 ปี 2568

ส่วนปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มองว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น แต่หากยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

24 นาทีที่แล้ว

ไลล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

32 นาทีที่แล้ว

F5TH พญาอินทรี ฝึกบินพร้อมปฏิบัติการ ตลอด 24 ชม.

35 นาทีที่แล้ว

พบพระพุทธรูปเก่าแก่กว่า 100 ปี ซ่อนใต้ผิวปูนเดิม

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

จับตา อบจ.สงขลา กู้เงินกว่า 2000 ล้าน ‘สุพิศ’ โกงหรือไม่เป็นเรื่องในอนาคตที่ต้องติดตาม

THE STATES TIMES

คลิปหลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล “Type 72A”

PPTV HD 36
วิดีโอ

กต. ยันมีหลักฐานชัด กัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

Thai PBS

เรวัช เดือด ทหารเจ็บซ้ำซาก จี้ผู้นำลงพื้นที่เข้าใจความรู้สึกแนวหน้า

News In Thailand

กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนฝนตกเพิ่ม-ตกหนัก 15-18 ส.ค.นี้

ประชาชาติธุรกิจ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สำนักข่าวไทย Online

จับ 16 คนไทย เตรียมลักลอบข้ามแดนไปกัมพูชา ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

TNews

ตำรวจ ปส.2 ขยายผลจับ 2 ตำรวจนอกแถว พัวพันเครือข่ายยาเสพติด

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

KKP หั่น GDP ปี 2568 เหลือ 1.7% ชี้ต้องปฏิรูปเชิงโครงสร้าง

สำนักข่าวไทย Online

จับตา! จันทร์นี้ สภาพัฒน์แถลงจีดีพี ด้าน KKP ปรับลดคาด GDP ปีนี้ เหลือ 1.7%

สำนักข่าวไทย Online

KKP ปรับลด GDP ปี 68 เหลือ 2.3%

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...