เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสตอนที่ 30 ‘เมื่อเวียดนามเริ่มแซงไทยในเวทีอาเซียน’
ประเทศไทยต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสตอนที่ 30 "เศรษฐกิจไทย-เวียดนามในเวทีอาเซียน: เมื่อผู้ท้าชิงเริ่มวิ่งแซง"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามและไทยถือเป็นสองเสาหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน หากแต่ทิศทางพัฒนาของทั้งสองประเทศนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เวียดนามสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ขณะที่ไทยเผชิญกับอุปสรรคทั้งในด้านการฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด นโยบายภาษีต่างประเทศ ปัจจัยภายในทั้งด้านการเมืองและโครงสร้างเศรษฐกิจ รวมถึงการถดถอยของภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่เหมือนช่วงก่อนโควิด
บทความนี้จึงตั้งใจประเมินว่า ณ ปัจจุบัน เวียดนามและไทย ใครกำลัง แซงหน้า ใครในด้านใดบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเปรียบเทียบที่ชัดเจนระหว่างสองประเทศ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในประเด็นที่ชัดเจนที่สุดคืออัตราการเติบโตของ GDP โดยธนาคารโลก (World Bank) คาดว่า GDP ของเวียดนามจะขยายตัวในปี 2568 อยู่ที่ราว 6.8% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าจุดมุ่งหมายของรัฐบาลเองที่ตั้งไว้ที่ 8% แต่ยังสูงกว่าอีกหลายประเทศจำนวนมากในภูมิภาค
ขณะที่รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตเชิงรุกไว้สูงถึงอย่างน้อย 8% และผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น สายรถไฟเชื่อมจีน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรก และการปฏิรูประบบราชการ
ในทางกลับกัน ไทยกำลังเผชิญการเติบโตที่ชะลอตัว โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2568 ลงเหลือเพียงราว 2.3% เท่านั้น แม้การส่งออกอาจได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากการเร่งจัดส่งก่อนมาตรการภาษีของสหรัฐ และรัฐบาลไทยเสนอร่างงบประมาณปี 2569 มูลค่า 3.78 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเล็งเติบโตในช่วง 2.3–3.3%
โครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุน
เวียดนามยังคงเป็นที่หมายตาของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะในภาคการผลิต ด้วยแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากจีน ช่วยให้เวียดนามขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ในอาเซียน ความพยายามลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTAs) จำนวนมากทำให้เข้าถึงตลาดโลกได้กว้างขึ้น และโครงสร้างประชากรที่หนุ่มมากยังช่วยสร้างแรงงานคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ไทยในทางกลับกันก็มีการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 โดยเฉพาะโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) ที่เน้นสร้างเมืองอัจฉริยะและศูนย์การเงิน พร้อมวางแผนสู่ความเป็น smart city ของโลกภายในปี 2037 และคาดว่าจะสร้างงานหลายแสนตำแหน่งและจะเพิ่มมูลค่า GDP มหาศาลในระยะยาว นอกจากนี้การผลักดันโครงการ Ignite Thailand รวมถึงโครงข่ายสะพานเชื่อมโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ที่ตั้งเป้าลดระยะเวลาการขนส่งและเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทางภูมิศาสตร์
ภาวะเสี่ยงภายนอกและปัจจัยฉุดรั้ง
เวียดนามยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการสำแดงภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะมาตรการจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่สะท้อนความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกสหรัฐฯ ในระดับสูง
ในขณะที่ประเทศไทย แม้จะมีความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยโครงการรัฐหลายด้าน แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการเมืองในประเทศ หนี้ครัวเรือนสูง การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ยังเปราะบาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างมาก เหลือเพียง 13.6% ของทั้งหมด คาดว่าในปี 2568 จำนวนอาจต่ำกว่า 5 ล้านคน ซึ่งกระทบอย่างหนักต่อภาคเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวถึงประมาณ 20% ของ GDP
สถานภาพเชิงสถิติเปรียบเทียบ
หากดูมูลค่า GDP โดยนับตามมูลค่าตลาด ไทยยังอยู่เหนือกว่าเวียดนาม โดยมี GDP ราว 505 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับเวียดนามที่ราว 245 พันล้านดอลลาร์ แต่เมื่อพิเคราะห์ดูถึงปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเติบโตโดยเฉลี่ยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เวียดนามเติบโตเฉลี่ยระดับ 6.6% ขณะที่ไทยเติบโตเพียง 3.1% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเวียดนามกำลังไล่ตามและอาจแซงไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
โดยมีการคาดการณ์ว่าหากเวียดนามสามารถรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยระดับ 6.5% ได้ ตามแผนพัฒนา 5 ปี ก็จะก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย และเป็นเศรษฐกิจลำดับที่ 20 ของโลกภายในปี 2579
บทสรุป
ในภาพรวมปัจจุบัน เวียดนามดูเหมือนจะ แซงหน้า ไทยในด้านอัตราการเติบโต GDP โครงสร้างประชากร และการดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงและนโยบายส่งเสริมภาคการผลิตและส่งออกที่ชัดเจน
ขณะที่ไทยแม้มีศักยภาพสูงในหลายด้านและมีโครงการเชิงโครงสร้างระยะยาวอย่าง EEC และ Ignite Thailand แต่ยังประสบปัญหาภายใน ทั้งการเมือง การท่องเที่ยวที่หดตัว และความเสี่ยงจากภายนอกที่จำกัดทิศทางการเติบโต
ชี้ให้เห็นว่า วันนี้เวียดนามกำลังแสดงความก้าวหน้าอย่างชัดเจนและเริ่มแซงหน้าไทยในหลายด้าน ขณะที่ไทยยังต้องเร่งปรับโครงสร้างและรับมือปัจจัยเสี่ยงเพื่อไม่ให้ความเหลื่อมล้ำของการเติบโตลึกลงไปอีกในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสตอน 29 เวียดนาม ปฏิรูปรัฐ-เปิดรับโลก
- เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสตอน 28 สนามรบสู่สนามการค้า: เส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม
- เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสตอน 27 'ไต้หวัน' ก้าวข้ามจากผู้ผลิตสู่ผู้สร้างแบรนด์
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg