ทรูเสริมแกร่งเครือข่ายชายแดน ใช้ AI ดูแลสัญญาณต่อเนื่องแม้สถานีฐานล่ม
ทรู คอร์ปอเรชั่น นำเทคโนโลยี AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) หรือระบบตรวจจับและชดเชยการขัดข้องของสถานีฐานด้วยปัญญาประดิษฐ์ มาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมความเสถียรของเครือข่ายในเขตชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบบสามารถทำงานอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ (Unattended Operations) แม้ในสถานการณ์ความขัดแย้งที่จำกัดการเข้าพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ แต่ยังคงรักษาคุณภาพสัญญาณเพื่อประชาชนใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ภายใต้สถานการณ์ชายแดนที่มีความเสี่ยง การดูแลสถานีฐานและการบำรุงรักษาเครือข่ายยังเป็นสิ่งจำเป็น ทรูจึงนำระบบ AI-CODC ซึ่งทำงานในลักษณะ Self-Healing Network เข้ามาช่วยบริหารจัดการสัญญาณ หากสถานีฐานใดเกิดปัญหา ระบบจะปรับจูนสัญญาณจากสถานีใกล้เคียงเพื่อชดเชยทันที ทำให้บริการยังครอบคลุมและลดความจำเป็นในการส่งทีมวิศวกรเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ขณะเดียวกันยังรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และคุณภาพการให้บริการ
นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความต่อเนื่องและคุณภาพของบริการคือหัวใจสำคัญของทรู การนำปัญญาประดิษฐ์ AI และ CODC มาดูแลเครือข่ายในพื้นที่ชายแดน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการที่เชื่อถือได้ แม้ในสถานการณ์ท้าทาย พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของทีมงานทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”
ทรูยังดำเนินการตามมาตรการของ กสทช. อย่างเคร่งครัดในพื้นที่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการรื้อถอนอุปกรณ์ ปรับลดความสูงของเสาสัญญาณ และควบคุมการใช้งานสัญญาณโทรศัพท์ไม่ให้รั่วไหลออกนอกเขตประเทศไทย
ทั้งนี้บริษัทมุ่งดูแลเครือข่าย 4G และ 5G ให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนสื่อสารได้ต่อเนื่องแม้ในภาวะวิกฤต
นอกจากนี้ ทรูยังทำงานใกล้ชิดกับภาครัฐและ กสทช. เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมจัดทีมเฉพาะกิจประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) ที่ใช้ AI ตรวจสอบและบริหารจัดการเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานในทุกพื้นที่ทั่วไทย