ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษีหนุน Soft Power เพิ่มหักลดหย่อนงานศิลปะ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎหมายตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมศิลปะของไทยครั้งสำคัญ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เพื่อผลักดันนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม โดยออกมาตรการ 2 ส่วนหลัก คือ การให้สิทธิลดหย่อนภาษีแก่ผู้ซื้องานศิลปะสูงสุด 100,000 บาท และการเพิ่มอัตราหักค่าใช้จ่ายเหมาให้แก่ศิลปินจาก 30% เป็น 60% อย่างถาวร
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริม Soft Power ของประเทศอย่างจริงจัง
โดยกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ (สำหรับประชาชนและนักสะสม) โดยให้สิทธิประโยชน์ บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าซื้องานศิลปะด้านทัศนศิลป์ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปีภาษี สำหรับการซื้องานศิลปะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568-31 ธ..ค.2570 (รวม 3 ปี)
ทั้งนี้ จะต้องเป็นการซื้องานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่ได้รับการรับรอง ได้แก่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ศิลปินศิลปาธร สาขาทัศนศิลป์ และศิลปินที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
โดยสามารถซื้อได้โดยตรงจากศิลปิน หรือผ่านบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มูลนิธิ หรือสมาคมที่จำหน่ายหรือจัดประมูลงานศิลปะของศิลปินกลุ่มดังกล่าว และผู้ใช้สิทธิต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปหรือใบรับ พร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดของงานศิลปะชิ้นนั้นๆ
2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ (สำหรับศิลปิน) ให้สิทธิประโยชน์ศิลปินผู้มีเงินได้จากวิชาชีพอิสระด้านประณีตศิลปกรรม ตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากร สามารถ หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 30% เป็น 60% เริ่มใช้ตั้งแต่ปีภาษี 2568 เป็นต้นไป เป็นการถาวร ครอบคลุมศิลปินในสาขาดังกล่าวโดยไม่กำหนดประเภท
นายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่ามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะจะช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคัก สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท ส่งเสริมให้ศิลปินมีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น และดึงดูดให้เกิดการจัดแสดงงานศิลปะระดับนานาชาติในไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังภาคการท่องเที่ยว
"มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจะช่วยบรรเทาภาระภาษีและสร้างแรงจูงใจให้ศิลปินผลิตงานศิลปะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยรวมแล้วการออกมาตรการภาษีทั้ง 2 มาตรการนี้จะทำให้ประเทศไทยมี Soft Power ด้านศิลปะในระดับโลก"