"เทคโนโลยี 5G" เคลื่อนที่พลิกโฉมเกษตรกรรมแม่นยำ ในพื้นที่ห่างไกลของสกอตแลนด์

เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บริษัทและองค์กรในสกอตแลนด์ สร้างเครือข่าย 5G แบบพกพาที่สามารถติดตั้งข้างทุ่งนาหรือฟาร์มได้ เพื่อช่วยกระจายสัญญาณให้เกษตรกรพื้นที่ห่างไกล สามารถใช้งานหุ่นยนต์และทำฟาร์มแม่นยำได้ง่ายขึ้น

บริษัทและองค์กรในสกอตแลนด์ร่วมมือกันสร้างเครือข่าย 5G แบบพกพา ที่สามารถนำไปตั้งข้างทุ่งนา เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ล้ำสมัย รวมถึงทำเกษตรกรรมที่แม่นยำ (precision farming) หรือการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานเพื่อการเกษตรยุคดิจิทัลได้ แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล

โครงการสัญญาณ 5G เคลื่อนที่ได้

แอนดรูว์ คริสตี้ (Andrew Christie) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเกษตรกรรมจาก เดอะ เจมส์ ฮัตตัน อินสทิทิวท์ (The James Hutton Institute) หน่วยงานรัฐที่พัฒนาด้านนวัตกรรม กล่าวว่า แม้ในที่ที่มีสัญญาณ 4G ก็ยังมีปัญหาเรื่องความครอบคลุม ดังนั้นพวกเขาจึงมองหาการใช้งานเครือข่ายใยแก้วนำแสง 5G พร้อมอินเทอร์เน็ตดาวเทียม เพื่อจัดการกับจุดอับสัญญาณเหล่านี้

โดยหน่วยงานได้จับมือกับพันธมิตรทั้ง ศูนย์วิจัยด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี 5G ของสกอตแลนด์ บริษัทหุ่นยนต์ บอสตัน ไดนามิก (Boston Dynamics) และผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานไร้สาย เฟรชเวฟ (Freshwave) เพื่อพัฒนาเครือข่าย 5G แบบพกพา ช่วยให้หุ่นยนต์ทำฟาร์มที่แม่นยำ เช่น การตรวจสอบสุขภาพพืช การใส่ปุ๋ยแบบตรงจุดที่ต้นพืช และการประเมินสภาพดิน

เหตุผลในการพัฒนาโครงการ

สาเหตุที่ต้องแก้ไขปัญหานี้ ก็เพื่อเอื้อให้เกษตรกรสามารถใช้งานหุ่นยนต์ ซึ่งมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญหลายประการที่เกษตรกรกำลังเผชิญอยู่ เพราะวิธีการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม มักจะใช้การดูแลแบบเดียวกันทั่วทั้งแปลง แต่หุ่นยนต์ที่เชื่อมต่อด้วย 5G ช่วยให้การทำฟาร์มแม่นยำถึงระดับต้นต่อต้น ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีราคาสูงเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น

ตัวอย่างเช่นการใช้หุ่นยนต์สี่ขาจาก Boston Dynamics ที่ปัจจุบันนี้นำมาใช้งานสำรวจพื้นที่ ทำแผนที่ เพื่อสื่อสารข้อมูลไปยังหุ่นยนต์ที่จะทำการเกษตรแบบต้นต่อต้น ด้วยความแม่นยำนี้ ก็จะช่วยลดการใช้ยาฆ่าแมลง เสริมกำลังแรงงาน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลง และทีมพัฒนาเผยว่าการติดตั้งเครือข่าย 5G แบบพกพา ยังช่วยให้ระบบหุ่นยนต์ที่ต้องการข้อมูลจำนวนมากมีการเชื่อมต่อที่จำเป็น ทำให้เกษตรกรสามารถสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง และสร้างแผนที่สนามโดยละเอียดได้

และด้วยความต้องการอาหารทั่วโลก ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งภายในปี 2050 นี้ก็จะทำให้เทคโนโลยีหุ่นยนต์มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในฟาร์มแห่งอนาคตตามไปด้วยเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง