ด่านตลาดบ้านแหลมบางตา หลังเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ระบายแรงงานเขมรกลับประเทศ
ด่านตลาดบ้านแหลมเบาบาง หลังเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ระบายแรงงานเขมรกลับประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 สิงหาคม ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมามีแรงงานที่มารอหน้าด่าน ประมาณ 3-4,000 คน นับว่าบางตา แตกต่างจากเมื่อวานนี้ (6ส.ค.) ที่มีแรงงานชาวกัมพูชา มารอแน่นทะลักหน้าด่าน กว่า 20,000 คน ตั้งแต่เช้าตรู่ และยังทำให้ มีรถรับจ้างขนแรงงาน ติดขัดตลอดระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร จากถนน สายหลัก ยาวมาถึงหน้าด่าน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำด่านถึงสาเหตุ ทราบว่าจากสถานการณ์ที่แรงงานจำนวนหลายหมื่นคนทะลักแน่นหน้าด่านวานนี้ และหลายวันที่ผ่านมา ทำให้การจัดระเบียบ การอำนวยความสะดวกตลอดจนการรักษาความปลอดภัย เป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบเอกสารของแรงงานทั้ง 2 กลุ่มทั้งพาสปอร์ตและ Border Pass
ในวันนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 3-4,000 คน เท่านั้น เนื่องจากได้มีการจัดระเบียบด้วยการกระจายแรงงาน ชาวกัมพูชาให้เปลี่ยนเส้นทาง ไปติดต่อยื่นเอกสารเดินทางกลับบ้าน ที่จุดผ่านแดนถาวร บ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน เนื่องจากจุดผ่านแดนดังกล่าว ก็ยังเป็นเส้นทางที่สามารถ รองรับแรงงานจำนวน
หลายหมื่นคน ให้สามารถเดินทางกลับประเทศได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ที่บริเวณจุดผ่านแดนบ้านผักกาด ในวันนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนกว่า 2-3 พันคน ขนสัมภาระมายื่นเอกสาร เพื่อเตรียมเดินทางกลับเข้าประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจนาวิกโยธิน , ตม.ตลอดจนฝ่ายปกครอง คอยดูแลอำนวยความสะดวก ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ทราบว่าจำนวนแรงงานชาวกัมพูชาที่มารอข้ามกลับเข้าประเทศที่จุดผ่านแดนแห่งนี้ มีมากกว่าหลายๆวันที่ผ่านมา ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด โดยที่ฝั่งกัมพูชา ยังพบว่าได้มีการเตรียมรถบัสกว่า 20 คัน มารอรับแรงงานที่เดินทางกลับในวันนี้ด้วย
ทั้งนี้จุดผ่านแดนบ้านผักกาด มีการเปิดให้แรงงานกัมพูชา ทั้งที่ถือพาสปอร์ตและ Border Pass กลับเข้าประเทศ เหมือนกับจุดผ่านแดนบ้านแหลมอยู่แล้ว ส่วนที่มีจำนวนมากกว่า น่าจะมาจากการที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต้องการจัดระเบียบดูแล อำนวยความสะดวกให้กับแรงงาน เมื่อพบว่ามีแรงงานจำนวนมาก เต็มจำนวน เกินที่จะดูแลจึงจำเป็นต้องระบายแรงงานที่ต้องการจะกลับประเทศ ให้ มายื่นเอกสารที่จุดผ่านแดนบ้านผักกาด ได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้อพยพชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จน ณ ขณะนี้ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนคน ส่วนสาเหตุที่มีแรงงานจำนวน หลายหมื่นคนเดินทางกลับประเทศ ที่จุดผ่านแดน บ้านแหลม เนื่องจากจุดผ่านแดนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักทั้งแรงงาน ชาวกัมพูชาและประชาชนทั่วไป
โดยจุดผ่านแดนบ้านแหลมอยู่ห่างจาก จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา ประมาณ 90 กิโลเมตร ขณะที่จุดผ่านแดนบ้านผักกาดอยู่ห่าง จ.ไพลิน เพียง 22 กิโลเมตร และอยู่ติดกับจังหวัดพระตะบอง ขณะที่ชาวกัมพูชารายหนึ่งบอกว่าตนอยู่ จ.ไพลิน ส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดและมะม่วงแก้วขมิ้น ตลอดจนลำไย ซึ่งในส่วนของมะม่วงแก้วขมิ้นในช่วงก่อนที่จะมีสถานการณ์ ได้มีการนำผลผลิตเหล่านี้ นำมาส่งแปรรูปและขายอยู่ในไทย
ขณะเดียวกัน ยังมี คนไทย ได้รับสัมปทานมีโรงงานแปรรูป มันเส้น อยู่ที่ จ.ไพลิน อีกด้วย ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากยังไม่คลี่คลายน่าจะเปลี่ยนช่องทางนำสินค้าเกษตรและแปรรูป ส่งไปทางเวียดนามแทน ซึ่งตรงจุดนี้ยังไม่มีการประกาศออกมาเป็นที่แน่ชัด
ด้าน นายเมือน นามสมมุติ อายุ 54 ปี ชาวกัมพูชา คนงานรับจ้างขายของในตลาดบ้านผักกาด ให้ข้อมูลว่า เดิมทีเป็นคน อ.โมง จ.พระตะบอง ที่บ้านไม่ได้ประกอบอาชีพส่วนตัว ต้องไปรับจ้างทำนา จึงเข้ามาทำงานในไทย นอกจากนี้ ยังมีลูกสาวอีกคน อายุ 24 ปี เป็นแรงงานแปรรูปมะม่วงอยู่ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน ปัจจุบัน
ลูกสาว ติดอยู่ในประเทศกัมพูชาเนื่องจากกลับไปต่อ พาสปอร์ต แต่ติดกับสถานการณ์จึงไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้
ตรงจุดนี้ตนเองไม่มีความเป็นห่วงลูกสาวมากเท่าไร นักเนื่องจากในฝั่งกัมพูชายังมีสถานที่ทำงานที่ยังพอเปิดรับลูกสาวให้มีอาชีพได้ แต่ถ้าหากเป็นลูกชายอาจจะมีความเป็นห่วงว่า จะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารหรือไม่ ตรงจุดนี้ยังไม่มีใครบอกได้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ด่านตลาดบ้านแหลมบางตา หลังเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ระบายแรงงานเขมรกลับประเทศ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th