สหรัฐระงับใช้วัคซีนชิคุนกุนยา หลังพบก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าบริษัทวัลเนวา ผู้พัฒนาและผลิตยาของฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการระงับใบอนุญาตวัคซีน “Ixchiq” ที่วัลเนวาพัฒนา เพื่อให้ใช้กับผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อโรคชิคุนกุนยา
วัลเนวาอ้างเนื้อหาในเอกสารของเอฟดีเอ เกี่ยวกับเหตุผลที่ระงับใบอนุญาต ว่าเป็นเพราะพบผู้ฉีดวัคซีนที่ได้รับผลข้างเคียงเพิ่มอีกอย่างน้อย 4 คน ในจำนวนนี้ 3 คน มีอายุระหว่าง 70-82 ปี
อย่างไรก็ตาม วัลเนวายืนยัน ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนาวัคซีน เนื่องจากภัยคุกคามจากโรคชิคุนกุนยายังคงอยู่ในระดับรุนแรง ในเวลาเดียวกัน บริษัทกำลังประเมินผลกระทบทางการเงินจากการระงับที่เกิดขึ้น "แต่จะยังไม่มีการปรับลดคาดการณ์ใดในตอนนี้" แม้มีรายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ปารีส "ดิ่งฮวบ"
อนึ่ง เอฟดีเออนุมัติการใช้งานวัคซีน Ixchiq ให้กับวัลเนวา เมื่อปี 2566 ถือเป็นวัคซีนต้านโรคชิคุนกุนยาตัวแรกของโลก เป็นแบบฉีดเข็มเดียว ใช้เชื้อไวรัสชิคุนกุนยาที่มีการทำให้เสื่อมฤทธิ์
ทั้งนี้ โรคชิคุนกุนยาได้รับการค้นพบอย่างเป็นทางการครั้งแรก ที่แทนซาเนีย เมื่อปี 2495 ตามฐานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เป็นโรคจากเชื้อไวรัสซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ อาการส่วนใหญ่คล้ายไข้เลือดออกแต่รุนแรงกว่า และจะเป็นอันตรายมากขึ้นหากผู้ป่วยเป็นเด็ก
จนถึงตอนนี้ การรักษาโรคชิคุนกุนยายังเป็นการรักษาและดูแลตามอาการ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ดับเบิลยูเอชโอบันทึกจำนวนผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาทั่วโลกมากกว่า 5 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคอเมริกา แม้ยังถือเป็นโรคเฉพาะถิ่น แต่มีความกังวลมากขึ้น ว่าวิกฤติโลกร้อนอาจนำพาให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นได้.
เครดิตภาพ : AFP