‘ปลัดมหาดไทย’ แถลงเปิดตัวหนังสือเฉลิมพระเกียรติ 39 พรรษา ‘สิริวัณณวรีนารีรัตนราชพัสตราภรณ์’ น้อมนำพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัว หนังสือเฉลิมพระเกียรติ 39 พรรษา "สิริวัณณวรีนารีรัตนราชพัสตราภรณ์" แรงบันดาลใจแห่งการสร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถกรรมไทยร่วมสมัย โดยมีนางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมคณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ร่วมแถลงข่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยน้อมนำพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนกัญญา ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยทุกคนประจักษ์ในพระราชกรณียกิจที่ถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศไทย โดยมี ปิแอร์ บัลแมง เป็นนักออกแบบชุดผ้าไทยในยุคก่อน
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนกัญญาทรงเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ต้องไม่หมดไปจากแผ่นดินไทย และทรงเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยมีองคาพยพอยู่ทุกอนูของประเทศไทย ทางราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน ด้วยบุคลากรที่มีอยู่ในทุกระดับ จึงทรงพระราชทานแนวพระดำริให้คนมหาดไทยร่วมกันในการทำให้เกิดการปลูกฝังองค์ความรู้การสืบสานต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการผ้าได้เติบโต มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง และภูมิปัญญานี้จะคงอยู่คู่ชาติไทยอย่างยั่งยืน
ประวัติกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า หนังสือเฉลิมพระเกียรติเล่มนี้ ถ่ายทอดสิ่งสำคัญเกี่ยวกับพระองค์ท่านอย่างน้อย 4 ประการ คือ 1.พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับข้าราชการ บุคลากรของกระทรวงมหาดไทยและทุกภาคส่วน พร้อมทั้งพระราชทานเหรียญเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้กับผู้ถวายงานที่ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีสิ่งที่ดีในชีวิตเพิ่มมากขึ้น 2.เป็นการถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพที่ได้ทรงลงไปพระราชทานแนวทางด้วยพระองค์เองจากสิ่งที่ทรงศึกษาและทรงนำเหล่า guru ระดับประเทศ ดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงลงพื้นที่ไปให้ความรู้กับประชาชนอย่างใกล้ชิดจนทุกวันนี้ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมมีธุรกิจเติบโตและพัฒนาอย่างมาก ส่งผลให้ Volumn การขายเพิ่มขึ้น 3.พระองค์ได้ทรงเชื่อมโยงกับกระทรวงมหาดไทยที่มีกลไกบุคลากรที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด ร่วมกันรณรงค์สวมใส่ผ้าไทยเป็นแบบอย่างให้กับทุกภาคส่วนจนทำให้เศรษฐกิจฐานรากที่เกิดจากรายได้การจำหน่ายผ้าไทยได้สร้างคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีกับประชาชน และ 4.หนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นว่า "พระองค์ท่านได้ทรงมีคุณูปการอย่างประเมินค่าไม่ได้" ซึ่งทำให้เกิดการตระหนักและกระตุ้นว่า เราในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ผู้ประกอบการ และประชาชนจะมีส่วนในการผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดความยั่งยืนอยู่กับสังคมไทย อย่างยั่งยืนอย่างไร
ด้านนางจิณณารัชช์ กล่าวว่า ผู้หญิงกับการแต่งตัวเป็นสิ่งคู่กัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สมาคมแม่บ้านมหาดไทยมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ด้วยการสวมใส่ผ้าไทยในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการแถลงข่าว การโค้ชชิ่ง และการลงพื้นที่ทำให้เห็นว่า นอกจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอแล้ว "ภริยา" หรือ "คู่สมรส" มีบทบาทสำคัญมาก เพราะจะทำให้ประชาชนได้เห็นคุณค่า ได้เห็นความสวยงามของผ้าไทย เวลาใส่ไปทำงานหรือใส่ไปในโอกาสต่างๆ ก็จะมีคนมาทักและประทับใจกับผ้าไทย
พร้อมสะท้อนว่า ปัจจุบันผ้าไทยจะมีดีไซน์สวย ๆ เพิ่มมากขึ้น จนทำให้บางวันถ้าใส่ชุดผ้าไทยที่ไม่สวยจะทำให้ไม่มั่นใจ บางทีวันไหนไม่ได้ใส่ผ้าไทยก็จะรู้สึกผิดว่าไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน จึงขอฝากให้พวกเราทุกคนได้ช่วยกันสวมใส่ผ้าไทย และเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน ช่วยให้ผู้หญิงที่ทำสิ่งทอมีรายได้มากขึ้น คนรุ่นใหม่ผู้มาสืบสานก็จะมีรายได้มากขึ้น ขอให้พวกเราได้สนุกกับการแต่งตัวด้วยการใส่ผ้าไทย รวมถึงชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ เพื่อทำให้เราทุกคนได้ร่วมกันภาคภูมิใจในชุดไทยซึ่งเป็นชุดประจำชาติของพวกเรา ไม่ให้ใครหรือชาติใดมาลอกเลียนแบบได้