แม่ทัพภาคที่ 2 ประชุม RBC กับกัมพูชา แถลงร่วม 11 ข้อ
เปิดแถลงร่วม 11 ข้อ แม่ทัพภาคที่ 2 ประชุม RBC กับกัมพูชา
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ การประชุมครั้งนี้ คณะผู้แทนฝ่ายไทยนำโดย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ประธานร่วมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคฝ่ายไทย และคณะผู้แทนฝ่ายกัมพูชา นำโดยพลโท โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ประธานร่วมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคฝ่ายกัมพูชา
การหารือมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเจรจา เสริมสร้างความเชื่อมั่น ลดความตึงเครียด และธำรงไว้ซึ่งสันติภาพตามแนวชายแดน โดยมุ่งใช้ทุกกลไกที่จำเป็นในการแก้ไขความแตกต่างด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และยึดมั่นบนพื้นฐานของความเป็นมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์อันดี และความสามัคคี
ภายหลังการประชุม 2 ฝ่ายได้มีคำแถลงข่าวร่วม ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการปฏิบัติตามข้อตกลงในการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำรงการสื่อสารตามปกติระหว่างกองทัพภาค ภูมิภาคทหาร และหน่วยต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ของทั้งสองฝ่าย และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขทุกปัญหาด้วยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการปะทะ ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญ ของการเพิ่มการสื่อสารในทุกระดับเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจ และส่งเสริมความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี
ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นที่จะงดเว้นจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม เพื่อลดความตึงเครียด บรรเทาความรู้สึก ในเชิงลบของสาธารณชน และมุ่งแสวงหามาตรการที่ปฏิบัติได้จริงเพื่อส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่ขยายขอบเขตและระดับของความขัดแย้ง ซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่เป็นการยั่วยุ ไม่ว่าจะโดยฝ่ายทหารหรือฝ่ายพลเรือน อันอาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น เช่น คำปราศรัยที่ปลุกปั่น และกิจกรรมทางทหารที่รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของอีกฝ่าย ภายหลังการหยุดยิงเมื่อเวลา 24.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568
5.การดำเนินการใดๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการลาดตระเวน การก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้ง ในลักษณะที่ไม่เป็นการรุกราน และจำกัดอยู่ในพื้นที่ของแต่ละฝ่าย อาจกระทำได้ โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขของการหยุดยิงอย่างเคร่งครัดตามที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุร่วมกัน ในการประชุมพิเศษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ณ เมืองปุตราจายา และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมาตรการเหล่านี้มีเป้าประสงค์เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศ ของความไว้วางใจ และความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย
6.ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงพัฒนาการเชิงบวกและความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นผ่านการปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ ในการเสริมสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อกลับคืนสู่ภาวะปกติ
7.ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความสำคัญของการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และเห็นชอบให้เสนอเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เข้าสู่การประชุม GBC ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ตามที่ทั้งสองฝ่าย ได้ตกลงร่วมกัน
8.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการที่จะจัดตั้งชุดประสานงาน (Coordinating Group : CG) เพื่อเสริมสร้างการสื่อสารในทุกระดับ รวมถึงระหว่างผู้บังคับบัญชา คณะทำงานประสานงานชายแดน กองกำลังประจำพื้นที่ชายแดน และหน่วยปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขทุกปัญหาด้วยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการปะทะ โดยรายละเอียดจะได้มีการหารือกันในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ครั้งต่อไป ทั้งนี้ ในระหว่างรอการจัดตั้ง CG ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยประสานงานในพื้นที่ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ต่าง ๆ พบปะกันทุกสัปดาห์ หรือตามห้วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ ของตนเอง
9.ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความตั้งใจที่จะให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกันในการปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (การหลอกลวงออนไลน์) การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การลักลอบค้าอาวุธ และกิจกรรมอาชญากรรมข้ามแดนอื่นๆ โดยจะร่วมกันแสวงหามาตรการที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริงผ่านกรอบความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว ประเด็นเหล่านี้ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ควรได้รับการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกัน
10.ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสำคัญของการตอบสนองต่อการประท้วงเกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผล และได้ตกลงที่จะนำประเด็นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เสนอต่อการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) หรือกลไกอื่นที่เหมาะสมตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
11.ให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ครั้งต่อไปภายในหนึ่งเดือนหลังจากการประชุมครั้งนี้ หรือตามความเหมาะสม โดยมีประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ