อเลฮานโดร การ์นาโช ในวันที่ถูกตั้งคำถามเรื่อง ‘ทัศนคติ’
อเลฮานโดร การ์นาโช ดาวรุ่งวัย 21 ปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่แคบลงทุกที
ข่าวการย้ายไปเชลซีอาจเป็นเพียงเรื่องปกติในตลาดนักเตะ หากไม่ถูกขับเคลื่อนด้วยรอยร้าวที่ส่อแวว ‘แตกหัก’ ระหว่างเขากับต้นสังกัด ขณะที่เจ้าตัวต้องการย้ายไปสวมเครื่องแบบ เชลซี เท่านั้น
ความดื้อรั้นครั้งนี้จึงไม่เพียงเปิดศึกนอกสนาม แต่ยังเปิดประตูให้คำถามเรื่องทัศนคติถาโถมใส่ ซึ่งนำสู่จุดเริ่มต้นของบททดสอบครั้งสำคัญ ว่าดาวรุ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นอนาคตของทีม จะลงเอยอย่างไร…นับจากนี้
ย้อนรอยจุดแตกหัก…มันเกิดอะไรขึ้น?
ความไม่ลงรอยระหว่าง อเลฮานโดร การ์นาโช และ รูเบน อโมริม เคยเป็นเพียงเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน แต่ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นในศึกยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ เดือนพฤษภาคม 2025 ที่แมนฯ ยูไนเต็ดพ่ายต่อท็อตแนม
ในเกมนั้น การ์นาโชถูกดร็อปเป็นสำรอง และได้ลงเล่นเพียง 20 นาที ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากกับเจ้าตัว เขาให้สัมภาษณ์บ่นถึงการตัดสินใจของโค้ช ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขามีบทบาทสำคัญช่วยทีมมาตลอดทัวร์นาเมนต์ และยังเชื่อว่าตัวเองควรมีค่าพอจะอยู่ในสนาม
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว อโมริมตัดสินใจเด็ดขาด แจ้งให้นักเตะมองหาสโมสรใหม่ แยกออกจากทีมชุดใหญ่ในช่วงปรีซีซัน และตัดชื่อจากทัวร์สหรัฐอเมริกา และนั่นคือจุดที่ทำให้สถานะของ การ์นาโช กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงคาราคาซังมาถึงตอนนี้
ปัญหาทัศนคติ กับ ‘คำถาม’ ถึง ‘อนาคต’
ทัศนคติของ อเลฮานโดร การ์นาโช ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งถูกพูดถึง แต่เป็นประเด็นที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวรุ่ง โดย บรูโน แฟร์นันด์ส และ เอริก เทน ฮาก อดีตกุนซือ ต่างเคยออกมาเตือนเรื่องความทุ่มเทและวินัยในการซ้อมที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่คาดหวัง
บรูโนเคยกล่าวเมื่อปี 2022 ว่า การ์นาโชต้องปรับทัศนคติในช่วงปรีซีซันเพื่อให้ได้โอกาสลงสนาม ขณะที่เทน ฮาก แม้จะเคยชมว่ามีพัฒนาการจนดูน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ปัญหาเดิมๆ กลับหวนมาอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของรูเบน อโมริม
การแสดงความไม่พอใจต่อสโมสรผ่านสื่อและโซเชียลยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ภาพในยิมพร้อมอิโมจินาฬิกาทราย (ถูกตีความว่าเป็นการบอกว่ากำลังรอการย้ายทีม)
หรือการโพสต์ภาพใส่เสื้อ แอสตัน วิลลา พร้อมชื่อ Marcus Rashford สกรีนด้านหลัง ไปจนถึงภาพจากอินสตาแกรมที่เผยให้เห็นเขากำลังถือพอดบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างสักแขน
สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเชื้อไฟสะสม จนแฟนแมนฯ ยูไนเต็ดจำนวนไม่น้อยเริ่มมองว่าเขาเป็น “ดาวรุ่งที่ไม่น่ารัก” และในสายตาแฟนบอลทั่วไป ก็อาจมองว่าเป็น เด็กมีปัญหาด้านทัศนคติ มีภาพลักษณ์ที่ยากจะแก้ไข แม้วันหนึ่งเขาจะได้ย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดก็ตาม
สถานะดีลปัจจุบัน … ถึงไหนแล้ว?
เวลานี้ การ์นาโช แสดงจุดยืนชัดเจนว่า ต้องการไป ‘เชลซี’ หรือไม่ก็นั่งกินค่าเหนื่อยกับทีมต่อไป ท่ามกลางข่าวรายงานว่า เจ้าตัวสามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับสิงห์บลูส์เรียบร้อย เหลือรอเพียงให้ทั้งสองสโมสรตกลงค่าตัวกันให้ได้
แต่ปัญหาคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนกรานตัวเลขค่าตัวแข้งอาร์เจนไตน์ผู้นี้ไว้ที่ 50 ล้านปอนด์ แบบไม่รับเทรดนักเตะคนอื่นเข้ามาในดีล ขณะที่เชลซีแสดงความประสงค์ต้องการจ่ายเพียง 30 ล้านปอนด์ ตามรายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน ดีลจึงยังติดอยู่ตรงจุดนี้ และการเจรจาระดับสโมสรยังไม่เคลื่อนตัวไปไหน
หากการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น การ์นาโชจะต้องเผชิญชะตากรรมยากลำบากบนเส้นทางค้าแข้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาจะถูกส่งไปซ้อมกับทีม U21 นั่นหมายถึงการต้องนั่งยาวๆ ในทีมสำรอง โดยแทบไม่มีโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่
ท้ายที่สุด… ความต้องการของการ์นาโชที่จะย้ายไปอยู่กับทีมที่เขาเชื่อว่า ‘ใช่’ อย่าง เชลซี ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและมีแผนพัฒนาที่ชัดเจน อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในมุมของนักเตะที่มองหาความก้าวหน้าในอาชีพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เส้นทางกับทัพปีศาจแดงดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว
แต่ในอีกมุมหนึ่ง การแสดงท่าทีเช่นนี้ต่อสโมสรที่ฟูมฟักและให้โอกาสมาตลอดหลายปี ก็ไม่ต่างจากการเผาสะพานที่ตัวเองเคยเดินข้ามมา
และไม่ว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ภาพจำของการ์นาโชในสายตาแฟนบอลจำนวนไม่น้อย ก็คงเปลี่ยนไปตลอดกาล จากดาวรุ่งเจนใหม่แห่งโลกลูกหนัง สู่ ‘เด็กมีปัญหา’ ที่ (อาจจะ) ไม่น่ารักเหมือนเดิมอีกต่อไป
อ้างอิง: