หมอมิ้ง ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเอกภาพ ขอคนไทยสามัคคี ต่อสู้ศัตรูของชาติ
หมอมิ้ง ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเอกภาพ ทั้งปราบยาเสพติด รักษาอธิปไตยชายแดน หนุนความแข็งแกร่งกองทัพเต็มที่ ขอคนไทยสามัคคี ต่อสู้ศัตรูของชาติ
วันที่ 16 ส.ค. 2568 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คนในข่าว" ถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ย้ำรัฐบาลและกองทัพเป็นเอกภาพ ในการดำเนินนโยบายทั้งการปราบยาเสพติดและรักษาอธิปไตยชายแดน พร้อมสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ทั้งเทคโนโลยีและอื่นๆ ขณะเดียวกัน ขอคนไทยสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันต่อสู้กับศัตรูของประเทศ
นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติม วันที่ 21 ส.ค. นี้ กรณีคลิปเสียงสนทนา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับสมเด็จฮุน เซน ก่อนวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. นั้น ศาลให้สิทธิ์ในการไปชี้แจง ขอยืนยัน นายกฯ มีความซื่อสัตย์และมิได้มีอะไรที่ผิดทางจริยธรรม คลิปเสียงเป็นเทคนิคที่คุยกัน ขอถือความบริสุทธิ์ใจ
เลขาธิการนายกฯ กล่าวลำดับเหตุการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค. นายกฯ ได้หารือทั้งการดูแลชายแดน การปราบปรามยาเสพติดกับทหาร ซึ่งทั้งรัฐบาลและทหารมีความเป็นเอกภาพ ทำงานร่วมกันอย่างดี
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา กัมพูชาได้ละเมิด ซึ่งทหารได้ประท้วงตามหลักชายแดนที่เคยทำกันมา จนกระทั่งมีการขุดคูเลตขึ้น รวมถึงมีการปะทะกัน ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย ตลอดระยะเวลานายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและติดตาม มีการประชุมกับแม่ทัพและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างใกล้ชิด
เลขาธิการนายกฯ ยังย้ำถึงการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับลำดับ-ขั้นตอน เพื่อหวังให้สถานการณ์คลี่คลาย เช่น การมอบหมายภารกิจ การยกระดับการเจรจาที่เป็นลำดับขั้น โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ได้เจรจาก่อนหน้า ที่ชายแดนบริเวณช่องบก จนถึงการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
ซึ่งครั้งนั้น นายกฯ ได้เข้าไปประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด้วยตนเอง และมอบหมายให้ สมช. ดำเนินกำหนดเปิด-ปิดด่านตามขั้นตอน ซึ่งกัมพูชาไม่พอใจกัมพูชา นอกจากนี้ การพูดคุยกันใน JBC เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2568 กับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาแถลงเป็นคนละเรื่องกัน และนายฮุน เซน ก็ออกมาโพสต์โซเชียลอีกแบบหนึ่ง ยิ่งปลุกเร้าให้สถานการณ์ยกระดับขึ้นไปอีก
นพ.พรหมินทร์ เผยถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายก ฯ และนายฮุน เซน ว่า นายฮวด ตัวแทนของกัมพูชาที่พูดภาษาไทยติดต่อมาหลายครั้ง ตอนแรกก็ปฏิเสธ ซึ่งนายกฯ เน้นความรอบคอบและหารือตลอดทั้งกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และตนเอง
นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือนายฮุน เซน ไม่ใช่คู่เจรจา แต่เป็นบิดาของนายฮุน มาเนต ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา อาจจะมีอิทธิพลกับลูกชาย จึงหวังว่าการคุยอย่างไม่เป็นทางการอาจจะเป็นช่องทางหนึ่ง ให้ความเห็นถึงเป้าประสงค์ของกัมพูชาในการเผยแพร่คลิปเสียงว่า ต้องการให้ผู้นำของไทยวุ่นวาย รัฐบาลและกองทัพไม่มั่นคง โดยเฉพาะการพูดว่า ภายใน 3 เดือนจะต้องเปลี่ยนนายกฯ นั่นคือความมุ่งหมายของกัมพูชา
นพ.พรหมินทร์ ยังเรียกร้องให้ประเทศไทยมีความเป็นสามัคคีกันและเป็นหนึ่ง ต่อสู้กับศัตรูของประเทศชาติ ในนาทีนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องตระหนักถึงหลักการสำคัญของเรา สันติภาพ คือ เครื่องมือสำคัญในการรักษาชีวิตของพี่น้องทหารและประชาชน หลักการนี้สำคัญ เราพยายามที่จะดำรงเรื่องของสันติวิธี ให้เกิดสันติภาพ ขณะเดียวกัน กองทัพต้องแข็งแรงและมีประสิทธิภาพสูง รัฐบาลเองก็ต้องเป็นผู้ที่ให้ความเข้มแข็งให้ประเทศต่างๆ รับรู้ และให้เกิดสันติภาพ
“ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพเป็นเอกภาพ และเป็นความประสงค์ของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเต็มที่ให้กับความเข้มแข็งของกองทัพ รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ เป็นหลักประกันที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดสันติภาพ สันติภาพคือเครื่องมือที่จะรักษาชีวิตของพี่น้องทหารและประชาชน และทำให้เศรษฐกิจโตได้ เป็นสิ่งที่เราปรารถนา ยึดถือ ถ้าคิดแบบ Winner Solution Approach คือเจตนาของผู้ชนะ ทุกปัญหามีทางออก” นพ.พรหมินทร์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมอมิ้ง ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเอกภาพ ขอคนไทยสามัคคี ต่อสู้ศัตรูของชาติ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th