ถ้ามีเซลล์มะเร็งในร่างกาย อวัยวะ 5 ส่วนนี้อาจเริ่ม “ดำคล้ำ” อย่างผิดปกติ อย่าชะล่าใจ!
ระวัง! ถ้าร่างกายเริ่มมีจุดดำผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือน "มะเร็ง" ที่หลายคนมองข้าม
หากคุณพบว่าอวัยวะบางส่วนของร่างกายเริ่มคล้ำดำผิดปกติ แม้เพียง 1 จุด ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัด เพราะนอกจากจะเป็นสัญญาณของมะเร็งแล้ว ยังอาจเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่อันตรายไม่แพ้กัน
มะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะเมื่ออัตราการเกิดโรคเพิ่มสูงขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม อาการของมะเร็งแต่ละชนิดแตกต่างกันไป บางครั้งคล้ายกับอาการทั่วไปจนหลายคนมองข้าม กว่าจะรู้ตัวก็เข้าสู่ระยะลุกลามที่รักษายาก
สิ่งหนึ่งที่อาจช่วยให้สังเกตได้ง่ายขึ้นคือ “การเปลี่ยนแปลงสีผิวหรือเนื้อเยื่อ” โดยเฉพาะเมื่ออวัยวะต่อไปนี้เกิดอาการดำคล้ำแบบผิดธรรมชาติ
1. ผิวหนังบริเวณลำคอดำ
หากบริเวณลำคอเริ่มมีผิวหนังหนา สีเข้ม หรือรู้สึกสากๆ เมื่อสัมผัส โดยเฉพาะตามรอยพับ อาจไม่ใช่แค่ปัญหาความสะอาดหรือพันธุกรรม แต่เป็นสัญญาณของภาวะ Acanthosis Nigricans (ผิวหนังหนาดำ)
ภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เบาหวาน โรคไทรอยด์ หรือความผิดปกติของฮอร์โมน และในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ ตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะหากมีอาการร่วมอื่น เช่น น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร หรือปวดท้องเรื้อรัง
2. เล็บมีแถบดำหรือมืดคล้ำ
หากคุณพบว่าเล็บมีเส้นดำ แถบสีเข้ม หรือจุดดำ โดยไม่ได้รับการกระแทกมาก่อน อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนังใต้เล็บ (Melanoma) หรือมะเร็งเซลล์สความัสใต้เล็บ ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรง
นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจเรื้อรัง โรคแอดดิสัน หรือโรคเลือดบางประเภท หากแถบดำมีการขยาย กะพร่องกะแพร่ง เล็บเปราะผิดปกติ หรือมีอาการปวด ควรรีบพบแพทย์ทันที
3. ใบหน้าคล้ำหรือหมองผิดปกติ
หากผิวหน้าดูหมองคล้ำ มีปื้นสีน้ำตาลที่หน้าผาก จมูก หรือโหนกแก้ม อาจเป็นผลจากโรคตับเรื้อรัง หรือภาวะตับแข็ง โดยเฉพาะเมื่อมีการสะสมเม็ดสีเมลานินและบิลิรูบินในผิวหนัง
ภาวะนี้ยังสัมพันธ์กับโรคแอดดิสัน โรคไตเรื้อรัง หรือมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ปอด และต่อมหมวกไต หากมีอาการร่วม เช่น ตัวเหลือง คันทั้งตัว เจ็บชายโครงด้านขวา หรือผอมลงรวดเร็ว ควรรีบตรวจหามะเร็งทันที
4. แขนขาเกิดจ้ำหรือรอยช้ำคล้ำบ่อยครั้ง
หากคุณมีจ้ำเลือดหรือรอยช้ำบ่อยครั้ง โดยไม่รู้สาเหตุหรือไม่ได้กระแทกบาดเจ็บชัดเจน อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งไขกระดูก หรือกลุ่มอาการ Myelodysplastic Syndrome (MDS)
สาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้องได้แก่ ภาวะขาดวิตามิน C โรคตับอักเสบรูปรุนแรง โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) หรือโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) หากมีไข้เรื้อรัง อ่อนแรง น้ำหนักลด หรือมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลือด
5. ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ
หากริมฝีปากมีสีเข้มผิดปกติ หรือมีจุดดำร่วมกับริมฝีปากแห้ง แตกง่าย เบื่ออาหาร อ่อนแรง อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งในช่องปาก
โดยเฉพาะหากมีแผลดำที่ริมฝีปากที่ไม่หายสักที มีลักษณะเป็นมันวาว คล้ายรอยแผลเป็น หรือเลือดออกง่าย ควรรีบเข้ารับการตรวจทันที นอกจากนี้ สีริมฝีปากที่เปลี่ยนไปยังอาจเกี่ยวข้องกับโรคแอดดิสัน โรคหัวใจเรื้อรัง ภาวะธาตุเหล็กเกิน (Hemochromatosis) หรือภาวะโลหิตจางเรื้อรังด้วยเช่นกัน
แม้ “สีดำผิดปกติ” ตามร่างกายจะไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งแน่นอน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แบบรวดเร็วหรือไม่ทราบสาเหตุ และมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด อย่าชะล่าใจ เพราะการตรวจพบมะเร็งในระยะแรกสามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ