จากเมืองหลวงใหม่ ‘อินโดนีเซีย’ สู่เมืองร้าง? ‘นูซันตารา’ ส่อแววฝันสลาย
โครงการเมืองหลวงใหม่ "นูซันตารา" ที่ริเริ่มโดยอดีต ปธน.โจโก วีโดโด กำลังเผชิญความไม่แน่นอนอย่างหนัก หลังประธานาธิบดีคนใหม่ "ปราโบโว ซูเบียนโต" ที่เข้ามารับช่วงต่อในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ไม่แสดงความชัดเจนและให้ความสำคัญกับโครงการนี้น้อยลง
อดีตประธานาธิบดีโจโก วีโดโด
สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า เมืองนูซันตาราใกล้จะเสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งานแล้ว โดยการก่อสร้างศูนย์ราชการกลางขนาดใหญ่ เช่น อาคารที่ทำการของกระทรวง 16 แห่งและพระราชวังการูดาที่มีรูปทรงคล้ายนกอินทรีในนูซันตาราใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เมืองกลับเงียบเชียบ ซึ่งสร้างความความผิดหวังให้กับบรรดานักธุรกิจ
เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้วที่ปธน.โจโก วี เป็นประธานในพิธีวันประกาศอิสรภาพที่นูซันตาราครั้งแรก ซึ่งในครั้งนั้นมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมนับพันคน รวมถึงนักการทูตและนักธุรกิจ แต่ในปีนี้มีเพียงคนงานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่รัฐ และนักท่องเที่ยวท้องถิ่นจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่อยู่ในเมือง
นักธุรกิจผิดหวังกับอนาคตเมืองหลวงใหม่
ก่อนหน้านี้ อดีตปธน.โจโก วีได้ประเมินค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการสร้างเมืองหลวงใหม่ไว้ 466 ล้านล้านรูเปียห์ โดยต้องการให้เงินทุนส่วนใหญ่มาจากการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน และใช้เงินจากภาครัฐเพียง 20% เท่านั้น
องค์การบริหารเมืองหลวงนูซันตารา (OIKN) เปิดเผยว่ามีบริษัท 475 แห่งแสดงความสนใจที่จะลงทุนในเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ ทั้งการสร้างโรงเรียน พลังงานสีเขียว และโครงการเมืองอัจฉริยะ โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทท้องถิ่น และบางส่วนมาจากประเทศอื่นๆ เช่น จีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
Basuki Hadimuljono หัวหน้า OIKN กล่าวว่าในเดือนมิ.ย.ภาคเอกชนได้ทุ่มเงินประมาณ 8.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในเมืองนูซันตารา
กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย เช่น Agung Sedayu, Intiland Development และบริษัทในเครือ Royal Golden Eagle Group ได้เริ่มโครงการต่างๆ ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สนามกอล์ฟ และศูนย์ประชุม
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ แทบไม่มีโครงการใดที่ดำเนินการสำเร็จ และโครงการที่เริ่มก่อสร้างก็ถูกยกเลิกไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นโรงแรมและโรงพยาบาลที่เปิดดำเนินการอยู่ 2-3 แห่ง
ขณะนี้ กลุ่มธุรกิจที่เคยได้รับการสนับสนุนให้เข้าไปลงทุนในเมืองหลวงแห่งใหม่กำลังรู้สึกผิดหวังอย่างมาก โดยฮาริยาดี ซูคัมดานี (Hariyadi Sukamdani) ประธานสมาคมโรงแรมและภัตตาคารแห่งอินโดนีเซีย ถึงกับเปรียบเทียบการลงทุนที่นี่ว่าเป็น "ภารกิจฆ่าตัวตาย"
"สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญไม่ใช่การย้ายเมืองหลวงอีกต่อไป และเริ่มมีความไม่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะมีการย้ายเมืองหลวงจริงหรือไม่"
อัลฟอนซุส วิดจาจา (Alphonzus Widjaja) ประธานสมาคมศูนย์การค้าแห่งอินโดนีเซียกล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกในนูซันตาราจะต้องอาศัยการเติบโตของประชากร และแรงผลักดันจากรัฐบาลยังมีความจำเป็นท่ามกลางสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ “ยังไม่มั่นคง”
เมืองหลวงใหม่ไร้ความชัดเจนในยุค 'ปราโบโว'
การที่ปธน.ปราโบโวไม่ได้กล่าวถึงโครงการนูซันตารามากนัก ทำให้เกิดความเงียบที่น่าจับตามองและอาจมีความหมายมากกว่าคำพูดใดๆ
ประธานาธิบดี “ปราโบโว ซูเบียนโต"
รัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้การบริหารของอดีตปธน.โจโก วีได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 89 ล้านล้านรูเปียห์ สำหรับโครงการนี้ในช่วงปี 2566-2567 ในการสร้างที่พักของรัฐมนตรี, อพาร์ตเมนต์สำหรับข้าราชการ และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ถนนทางด่วนและระบบน้ำประปา
แต่ในปีนี้ รัฐบาลภายใต้ปธน.ปราโบโว ได้จัดสรรงบประมาณ 13.5 ล้านล้านรูเปียห์ เพื่อก่อสร้างศาลและอาคารรัฐสภา
ในระหว่างดำรงตำแหน่ง 10 เดือนที่ผ่านมา ปราโบโวได้จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีที่นูซันตาราเพียงครั้งเดียวเมื่อเดือนม.ค. และไม่ได้ไปเยือนที่นั่นอีกเลยนับแต่นั้นมา เห็นได้ชัดว่าปราโบโวให้ความสำคัญกับโครงการสำคัญๆ อย่างโครงการอาหารกลางวันฟรีมากกว่า จนเกิดคำถามถึงการขาดความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีต่อโครงการนี้
การก่อสร้างเมืองนูซันตาราสร้างแรงกระเพิ่มไปถึงเมืองเซปากูที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้เกิดความหวังว่าเกาะบอร์เนียวในกาลีมันตันจะได้รับการพัฒนา หลังจากที่ความเจริญกระจุกตัวอยู่แต่บนเกาะชวามานานหลายสิบปี
เจ้าของร้านค้าและธุรกิจเล็กๆ ในเซปากูเคยได้ประโยชน์อย่างมากในปีที่ผ่านมา จากการสร้างหอพักหลายสิบแห่งเพื่อรองรับคนงานก่อสร้างและผู้เกี่ยวข้องหลายพันคน แต่เมื่อการก่อสร้างเริ่มหยุดชะงัก ความหวังก็จางหายไปและหอพักส่วนใหญ่ก็ถูกทิ้งร้าง
หนึ่งในชาวเมืองเซปากูกล่าวว่า เคยลงคะแนนเสียงให้ประธานาธิบดีปราโบโว เพราะเชื่อว่าปราโบโวจะสานต่อโครงการนี้ให้สำเร็จ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าสถานการณ์ทั้งหมดเป็นเหมือน "เรื่องตลกของรัฐบาล" ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือให้ประธานาธิบดีโจโกวีได้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่านูซันตาราจะแล้วเสร็จ
อ้างอิง Nikkei